มหาวิทยาลัยชื่อดัง โพสต์ภาพและข้อความประจานบัณฑิตสาวประเภทสองคน ที่แต่งหญิงเข้าซ้อมพิธีพระราชทานปริญญาบัตร
จากกรณีที่ในเพจเฟซบุ๊กของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ที่ชื่อว่า “ฝ่ายประชาสัมพันธ์ มจพ.” ได้โพสต์ภาพและข้อความเหตุการณ์ขณะบัณฑิตสาวประเภทสองคนหนึ่ง ที่เข้าซ้อมพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ปีการศึกษา2557 แต่งกายในชุดบัณฑิตหญิง โดยข้อความระบุว่า
“วันนี้เธอจัดเต็มมีลองของคณะกรรมการจัดการด้านบัณฑิตครับ ซ้อมผ่านไปสองรอบสแกนไม่เจอ รอบที่สามจ้องไว้แล้วไม่พลาด ดูเต็มๆ เธอเป็นหญิงหรือชาย” โดยหลังจากที่ภาพและข้อความนี้ถูกโพสต์ออกมาไม่นาน บรรดาชาวเน็ตต่างก็พากันโจมตีโพสต์นี้อย่างหนักถึงความไม่เหมาะสมในการกระทำดังกล่าว หลังจากนั้นมีชาวเน็ตคนหนึ่งออกมาโพสต์แสดงความคิดเห็นว่า
“คิดแล้วว่าต้องมีลบ โดยไม่ต้องชี้แจงใดๆ จากเพจทางการ ผมยังยืนยันอีกว่า หากกระทำผิดกฎของเธอ ครั้งนี้คือ การที่เธอมีเพศสภาพโดยกำเนิดเป็นชาย ก็ขอให้ประเด็นนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่เราจะตั้งคำถามต่อสถาบันการศึกษาว่า มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ที่กฎแคบๆ ที่หลอกตัวเองกันมาตลอดว่า โลกนี้มีเพียงชายกับหญิง จะได้รับการแก้ไข เพื่อให้ความเท่าเทียมนั้นเริ่มต้นจากเรื่องพื้นๆ เช่นเรื่อง ของเพศ และระเบียบการแต่งกาย”
ในขณะที่มีข้อความหนึ่งแสดงความคิดว่า “ก่อนที่เธอจะแต่งตัวตามที่เป็นประเด็น เธอได้ตกลงกับ คณะกรรมการรับผิดชอบงานแล้วว่า ให้เธอสามารถแต่งหญิงพร้อมครุย เข้าพิธีซ้อมรับฯ และถ่ายภาพหมู่ในวันที่ 8 พ.ย. 58 นี้ได้ แต่ในวันรับจริง เธอต้องยอม ตัดผม และแต่งชุดตามระเบียบของบัณทิตชาย ซึ่งเธอยอมรับกติกาอย่างจำใจ พร้อมบอกว่า เธออยากเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรตามที่พ่อแม่ของเธอเฝ้ารอคอย เพียงแต่เธอต้องก้มหน้ายอมรับการกำหนดความเป็นหญิงกับชาย ตามกรอบคิดแคบๆของสังคมที่เธออาศัยอยู่”
ล่าสุด ผศ.สมชาย เวชกรรม รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา ได้เปิดเผยถึงประเด็นดังกล่าวว่า แฟนเพจเฟซบุ๊กฝ่ายประชาสัมพันธ์ มจพ. เป็นแฟนเพจที่ใช้ประชาสัมพันธ์เรื่องงานพิธีพระราชทานปริญญาบัตรใหักับบัณฑิต ซึ่งทางแฟนเพจ ได้มีการลบภาพ และ ข้อความดังกล่าวออกไปแล้ว โดยทางแอดมินเพจไม่ได้มีเจตนาทำให้เกิดความเสื่อมเสียกับบัณฑิตแต่อย่างใด และ ยอมรับว่าในส่วนของการโพสต์นั้นไม่เหมาะสม โดยแอดมินของแฟนเพจก็ได้พยายามเข้าไปขอโทษในโซเชียล
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 6 พ.ย. เวลา 13.00 น. ทางมหาวิทยาลัยได้นัดบัณฑิตคนดังกล่าว พร้อมผู้ปกครองเข้ามาพูดคุย เพื่อที่จะกล่าวขอโทษ เพราะไม่มีเจตนาเอาคนที่ทำผิดมาประจาน
