โลกออนไลน์ แห่แชร์ภาพรถโบราณ “สมเด็จช่วง” เผย ข้อมูลอีกด้านโต้กระแสข่าว สร้างมลทิน-ดีเอสไอจ่อตรวจสอบ
โลกออนไลน์มีการเผยแพร่ภาพจาก ผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ “ขวัญทอง สอนศิริ” ที่ได้เผยแพร่ภาพรถโบราณภายในพิพิธภัณฑ์วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ที่ทาง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าไปตรวจสอบ พร้อมระบุข้อความตอนหนึ่งว่า
“ไปมาแล้ว พระเจดีย์มหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เดินชมอย่างละเอียดทั้ง 5 ชั้น กับกรณีรถยนต์หรู (โบราณ) ที่มีการนำมาผูกโยงเป็นประเด็น โจมตี เจาะยาง สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง) เพื่อให้มีมลทิน อย่างมีเจตนาแอบแฝง สร้างความแตกแยกทางความคิด
โดยข้อความระบุว่า
กรณีรถยนต์หรู ( โบราณ ) ที่ มีการนำมาผูกโยงเป็นประเด็น โจมตี เจาะยาง สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง ) เพื่อให้มีมลทิน อย่างมีเจตนาอันมิชอบแอบแฝงของคณะกลุ่มบุคคล ทั้งพระและโยม ซ่อนเร้น ของทั้งคนที่ห่มผ้าเหลือง และฆราวาสผู้มีมิจฉาทิฐิ อคติเป็นที่ตั้ง จาบจ้วง พระมหาเถระรัตตัญญู ที่อาวุโสสูงในสมณฐานันดร และ สูงวัยวุฒิ ถึง90 ปี สูงด้วยคุณวุฒิทางธรรม เปรียญธรรม9 ด้วยความเท็จ และถ้อยคำที่ไม่ควรใช้กับ สมณะ ผู้เป็น สังฆบุตร พุทธชิโนรส อันบ่งบอกถึงจิตใจที่หยาบกระด้าง ผิดวิถีพุทธ
ซึ่ง เป็นศาสนาแห่งปัญญา อย่างแท้จริง ควรใช้ เหตุผล ข้อเท็จจริง เสวนากันแบบสันติํธรรม มากว่า บิดเบือน ใส่ร้ายป้ายสี หรือ พูดความจริงไม่หมด หรือ พูดด้านเดียว หรือ ครึ่งเดียวหรือถ้อยคำที่มิได้บ่งบอกถึงสัมมาคารวะ อันเป็นพื้นทางแห่งจิตลูกหลานเด็กและเยาวชน จะจดจำแบบอย่างที่ไม่ดีงามเหล่านี้ สืบต่อไปในอนาคต เพราะสำคัญว่าคือ ความถูกต้อง เพราะ ตัวอย่างที่ไม่ดี ของผู้ใหญ่ เกเร ที่ได้กระทำไว้ คือ ตราบาป บนแผ่นดิน ผิดถูก พูด หรือ เสวนากันด้วยเหตุผล ข้อเท็จจริง มากว่า จะเอาชนะคะคานกัน แบบ หลับหูหลับตา หน้ามืดตาบอด อันมิใช่วิถีทางแห่งปัญญาของพุทธะ
การยื่นเรื่องตรวจสอบ คัดค้าน ไม่เห็นด้วย ตามสิทธิ ตามกระบวนการ ดีที่สุด จนถึง สูงสุดคือ ถวายฎีกา เป็น วิถีทางที่ควรยิ่ง และทำได้ ชอบธรรม แต่มิใช่มิใช่ การด่า หรือ พูดเอามัน สะใจ โจมตี พิฆาตกันด้วยวาจา ทำลายล้างกัน ประเทศไทยขาดทุน เพราะสงครามแห่งความคิด ความแตกแยกทางความคิด บอบช้ำยังไม่พออีกหรือ ถึงจะมาสร้างรอยร้าวฉานแตกแยกให้แก่แผ่นดินเพิ่มเติมใยส่วนของศาสนาอันเป็น เรื่องปราณีตและอียดอ่อนบนศรัทําของผู้คนทั้งแผ่นดิน
รถยนต์โบราณสามคันหรู นี้ เจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้รับถวายมา แต่สมเด็จฯ ท่านมิได้เก็บไว้ใช้ หรือสะสมในเอกลาภ เหล่านี้ ถือไว้เป็นสมบัติส่วนตัวแต่ประการใด
เจ้าคุณสมเด็จฯ นำ เอกลาภเหล่านี้ที่มีผู้นำมาถวาย ไปจัดแสดงไว้ ในพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นชั้นที่ 1 ของพระเจดีย์มหารัชมังคลาจารย์ พร้อมกับ พาหนะโบราณ อื่น ๆ ในอดีตของคนไทย อาทิ เรือโบราณหลายประเภท เกวียน กระแทะ ล้อลาก เทียม ควาย เทียมวัว ( จำลอง) รถม้า เทียมม้า ( จำลอง ) เป็นต้น ครูโจ้ ได้ไปชม ควายเทียม วัวเทียม ในพิพิธภัณฑ์นี้
ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ทรงคุณค่าทางศาสนา พุทธศิลปในพระพุทธศาสนา ศิลปวัตถุ ศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิตชาวไทย ยังให้เกิดความภาคภูมิใจในจิตวิญญาณไทย มาถึง สองครั้ง ที่ชอบมากคือ ( ควายเทียม ) เพราะดูแล้ว ชมแล้วช่างปั้นได้เหมือนมาก ดุจมีชีวิต ดูแล้ว จะได้ ไม่ดักดาน สติปัญญา มืดบอด ถูกเขาจูงจมูก หรือ ไปกินหญ้า กินฟาง ไม่ตกเป็นเหยื่อ หรือเครื่องมือ ในการทำลายล้างกันแบบอำมหิต จิตมุ่งทำลาย อันก่อให้เกิด สังฆเภท ขึ้นในบ้านเมืองเลียบนรก กันจริง ๆ ครับผม
