หนุ่มโพสต์เตือนภัย หลังถูกวินจักรยานยนต์หมอชิตตามตื้อ ก่อนฟันค่าโดยสารเกือบ 500 บาท
วันนี้ (2 ม.ค. 61) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Bright Luengphiphatchai ได้มีการโพสต์ข้อความตัดพ้อ หลังถูกวินจักรยานยนต์ย่านหมอชิตเรียกค่าบริการสุดโหดถึงเกือบ 500 บาท ขณะกลับจากเดินทางช่วงปีใหม่ โดยที่ผู้โพสต์ได้มีข้อความระบุว่า
***โปรดอย่าข้าม***
2/1/2018 ประมาณตี2
เรื่องมีอยู่ว่าผมกับเพื่อนนั่งรถทัวร์กลับจากเชียงใหม่ แล้วรถทัวร์จอดตรงข้ามหมอชิตตรงสะพานลอย(ตรงข้ามร้านก๋วยเตี๋ยว) พอลงรถทัวร์ก็มีกลุ่มวินมาถามว่าจะไปไหน พวกผมบอกจะไปรังสิตแล้วก็เดินข้ามสะพานลอยแบบไม่ได้เอ๊ะใจอะไร เพราะพวกผมจะกลับแท็กซี่กัน
ก็มานั่งกินก๋วยเตี๋ยวกัน พอกินได้สักพักอยู่ดีๆ วินคันเดิมก็มาบอกว่าผมรอตรงนี้นะ**ถอดเสื้อวินแล้วด้วย**(พวกผมก็เริ่มเอ๊ะใจทำไมอยู่ดีๆ มารอทั้งๆ ที่เดินหนีมาแล้ว) ระหว่างที่รอจ่ายตังค่าก๋วยเตี๋ยวเพื่อนผมเลยเดินไปหาวินเพื่อจะจ่ายค่าเสียเวลา(พวกผมพยายามจะเลี่ยงโดยการไปจ่ายเงินให้เขาแล้วจบตรงนั้น) แต่พวกเขาไม่รับเงินบอกว่าจะไปส่งขึ้นแท็กซี่ต้นทาง
พวกผมก็ไม่กล้าที่จะไปโบกแท็กซี่กลัวพวกเขาจะมาทำอะไรตอนระหว่างรอแท็กซี่ เลยคุยกันว่าจะลองนั่งดูอาจจะแค่ไม่กี่บาท ผมก็ขึ้นไปคนละคันพอขับไปได้สักพักคันเพื่อนผมขับเร็วมากจนมองไม่เห็นผมก็เลยถามมันจะไปส่งตรงไหนมันบอกเส้นวิภา
สักพักแม่งเลี้ยวขวาไปทางเมเจอร์รัชโยธิน ผมก็เลยบอกให้มันจอดด้านซ้ายตรงทางลงสะพาน แม่งก็พูดมาว่าอ้าวเพื่อนผมหายไปไหนแล้วเนี้ย (มันตั้งใจให้ผมกับเพื่อนแยกกัน) ผมก็รีบลงรถเลยแล้วโทรหาเพื่อน เพื่อนผมก็บอกว่ามันอยู่ตรงวัดเสมียน
ผมเลยถามราคาวินเลยว่าเท่าไหร่เพื่อที่จะจ่ายแล้วให้มันแยกออกจากตัวผมไป แม่งบอก 480 บาทค่าวิน (ต่อคน) ผมก็เลยบอกมันว่าผมมีตังติดตัวแค่ 100 กว่าบาท แม่งก็ไม่ยอม ผมเลยบอกให้เพื่อนออกไปให้ก่อน พอเพื่อนผมจ่ายเงินให้มันเสร้จปุ๊ป มันอาสาจะไปส่งผมหาเพื่อนด้วย ใจดีสุดๆ แต่ผมไม่ยอมไปผมก็เลยไล่ให้มันกลับไปแล้วค่อยนั่งแท็กซี่ไปหาเพื่อนเอง
#เชื่อเลยครับถ้าไม่โดนกับตัวนี่ไม่เข้าใจจริงๆ
#น่าจะเป็นพวกเล่นยา
#ระวังด้วยครับ
ทั้งนี้เมื่อข้อความดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไปก็ทำให้มีคนเข้าไปแสดงความเห็นจำนวนมาก ก่อนที่จะใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งจะมีข้อมูลเพิ่มเติมว่า วินจักรยานยนต์คนดังกล่าวเคยก่อเหตุมาแล้วนับไม่ถ้วน แถมมีการติดป้ายทะเบียนขาวไม่ตรงกับที่ขนส่งกำหนดด้วย ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบด่วน เพื่อจะได้จับกุมมาดำเนินคดีและไม่ให้เกิดเหตุขึ้นซ้ำอีก
