ผลวิจัยชี้อีก30ปีน้ำทะเลสูงขึ้น ไทยเสี่ยงจมบาดาล

ซีเอ็นเอ็น สื่อยักษ์ใหญ่ รายงาน โดยอ้างผลการศึกษาวิจัยใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร The Journal Nature Communications ระบุว่าประชาชนหลายร้อยล้านคนทั่วโลกตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะสูญเสียที่อยู่อาศัย เนื่องจากเมืองทั้งเมืองอาจจมอยู่ใต้บาดาล โดยมีการระบุว่า ใน 30 ปีข้างหน้า ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นถึง 2-7 ฟุต หรือประมาณ 0.6 -2.1 เมตร และบางทีอาจสูงขึ้นมากกว่านี้ ภายในศตวรรษที่ 21

ซึ่งผลกระทบเหล่านี้ อาจเกิดขึ้นจากวิกฤตสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งนี้จากจำนวนประชากรที่ตกอยู่ใต้ความเสี่ยงจากปัญหาระดับน้ำทะเลสูงขึ้นที่เป็นข้อมูลใหม่และปัญญาประดิษฐ์ ประมาณพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบและมากกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ถึงเกือบ 3 เท่า

การคาดการณ์ยังระบุด้วยว่า ในอีก 31 ปีข้างหน้า ผืนดินซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านเรือนประชาชนราว 300 ล้านคน จะอยู่ต่ำกว่าระดับความสูงของน้ำที่เข้าท่วมชายฝั่ง ซึ่งนั่นหมายความว่าคนจำนวนมากจะตกอยู่ในความเสี่ยง และอาจมีผู้คนกว่า 300 ล้านคนเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมสูงอย่างน้อยปีละ 1 ครั้งในปี 2100 นอกจากนี้บ้านเรือนของผู้คนกว่า 200 ล้านคนอาจอยู่ต่ำกว่าแนวคลื่นอย่างถาวร

นายเบนจามิน สเตราส์ส หนึ่งในผู้เขียนรายงานการศึกษานี้ และยังเป็น CEO ขององค์กรที่ทำงานโดยไม่แสวงกำไร ‘Climate Central’ ได้ชี้ว่า ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอย่างรุนแรง ทำให้ธารน้ำแข็งละลายและเกิดน้ำท่วมสูง ซึ่งจำเป็นต้องดำเนินการแก้ไขทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดภัยพิบัติต่อเศรษฐกิจและมนุษยชาติ

อย่างไรก็ตาม รายงานนี้ยังระบุด้วยว่า หากไม่มีการสร้างเขื่อนป้องกันทางทะเลที่เพียงพออาจทำให้ประชาชนราว 70% ได้รับความเสี่ยงจากการประสบอุทกภัยและถูกน้ำท่วมอย่างถาวร โดยผู้คนที่อาศัยอยู่ในเอเชีย 8 ประเทศ ได้แก่ จีน บังกลาเทศ อินเดีย เวียดนาม ไทย ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่นเป็นพื้นที่เสี่ยงตามที่รายงานระบุ

นอกจากนี้ยังมีข้อมูลระบุว่า เมืองในประเทศจีนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำมีความเปราะบางเป็นพิเศษ ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ เทียนจิน และฮ่องกง ส่วนเมืองอื่นๆ ในเอเชีย ที่มีความเสี่ยงน้ำท่วม ได้แก่กรุงฮานอย เมืองหลวงของเวียดนาม กรุงธากา เมืองหลวงบังกลาเทศ และเมืองโกลกาต้า ทางตะวันออกของอินเดีย นอกจากนี้บริเวณปลายแหลมญวนทางตอนใต้ของเวียดนามอาจจมอยู่ใต้บาดาลทั้งหมด

ที่มากไปกว่านั้นคือในอีก 19 ประเทศ รวมถึงบราซิลและสหราชอาณาจักร อาจมีพื้นที่ที่เป็นผืนดินลดลงอย่างถาวร และอาจตกอยู่ใต้แนวน้ำท่วมในปี 2100 นอกจากนี้ในสหรัฐอเมริกา ก็อาจเผชิญกับปัญหาระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น และอาจนำไปสู่การอพยพประชาชนออกจากแนวชายฝั่งครั้งใหญ่ หากไม่มีการป้องกันที่ดีพอ หรือขาดการกระจายความหนาแน่นของประชากรทั่วประเทศ

อย่างไรก็ตาม ปัญหาระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นนั้น ส่งผลให้อุณหภูมิโลกอุ่น และทำให้พืชผลที่เกษตรกรเปลี่ยนแปลงไป เพราะปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อการเติบโตของพืช และนั่นหมายถึงผู้คนหลายล้านคนอาจเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม รวมไปถึงอาจต้องเผชิญกับวิกฤตสุขภาพและเศรษฐกิจโลกที่ชะงักงัน




SOCIAL NETWORK

Mono Mobile

แหล่งรวบรวมคอนเทนต์คุณภาพ ทั้งในรูปแบบวิดีโอคลิป สามารถดูได้ทุกที่ ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง รองรับการใช้งานหลากหลายอุปกรณ์

Mono Technology

อาคารจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ทาวเวอร์ เลขที่ 200 หมู่ 4 ถนนแจ้งวัฒนะ ปากเกร็ด นนทบุรี 11120 เบอร์โทร 021007007

TAGS

บันเทิง, ข่าวสาร, ก็อซซิป, คลิปตลก, คลิปเด็ด, ดูดวง, เพลงฮิต, เกม, ความรัก, กีฬา