จากกรณีที่มีการแฉว่า สิตางศุ์ บัวทอง เคยติดคุกในคดีฆาตกรรมอำพราง และกล่าวหา ต้าร์ ฮาร์เล่ย์ อดีตคนสนิท ว่าโกงเงิน ทำให้สิตางศุ์ต้องออกมาแก้ข่าวว่า ตนไม่เคยติดคุก แต่เรื่องยิงกัน ตีกันบ่อย ส่วนสามีก็ไม่มี ไม่เคยฆ่าพ่อ พร้อมถามว่า อีกฝ่ายที่ออกมาแฉต้องการอะไร
ล่าสุด รายการทุบโต๊ะข่าว ได้สัมภาษณ์ ต้าร์ ฮาร์เล่ย์ หรือนายเฉลิมเกียรติ แสวงผล นักร้อง ซึ่งเผยว่า ตนและสิตางศุ์รู้จักกันจากการจัดคอนเสิร์ตร่วมกัน จนกระทั่งอดีตคนขับรถของสิตางศุ์ มาเล่าให้ตนฟังว่า สิตางศุ์กล่าวหาว่าตนเป็นคนโกงเงินค่าจ้างงาน ก่อนหน้านี้สิตางศุ์เคยเซ็นสัญญากับตนเมื่อปี 2561 เรื่องทำช่องยูทูป แต่จากนั้น สิตางศุ์ก็ไปเซ็นสัญญากับคนอื่น และก็ไปกล่าวหาว่าตนไม่รักษาสัญญา จนตนเสียหาย
ส่วนเรื่องฆ่าคนตายนั้น สิตางศุ์เป็นคนบอกกับตนเอง ตอนแรกตนไม่เชื่อ จนกระทั่งสิตางศุ์พูดซ้ำไปซ้ำมา และเอาแฟ้มประวัติมาให้ดู
"ผมรู้สึกว่าผมเสียหาย ผมรู้สึกว่าผมเสียใจ หาว่าผมหลอกเรื่องงาน ผมไปโกงเปอร์เซ็นต์เขา ซึ่งผมไม่เคยทำอย่างนั้น ผมไปโกงอะไรคุณ"
ด้านนายณรงค์ศักดิ์ กัณหา อายุ 23 ปี อดีตคนขับรถของสิตางศุ์ กล่าวว่า เมื่อหลายปีก่อน สิตางศุ์เล่าว่า เคยใช้ค้อนปอนด์เพื่อฆ่าชิงทรัพย์คนขับรถตู้ที่ จ.กำแพงเพชร ตอนแรกตนไม่เชื่อ จนกระทั่งเห็นแฟ้มคดี สิตางศุ์ติดคุก 15 ปี เพิ่งออกมาจากคุกช่วงปี 2556-2558 และมีแฟนที่พบรักและเจอกันในคุก
เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2563 สิตางศุ์ได้เล่าให้ตนฟังว่า นายต้าร์โกงค่าหัวคิว ตนจึงเอาเรื่องนี้ไปบอกนายต้าร์ และกลายเป็นเรื่องขึ้นมา "ตอนแรกที่คุยผมก็ไม่เชื่อ เขาตัวเล็กเขาจะไปฆ่าใครได้ เขาบอกว่าเขาเคยใช้ค้อนปอนด์ฆ่าคนตาย จนเขาไปหยิบแหฟ้มคดีมาให้ผมอ่านดู ผมก็กลัวอยู่"
ในขณะเดียวกัน สิตางศุ์ ยืนยันว่า ทุกกรณีที่ต้าร์ ฮาร์เล่ย์ พูดออกมา ไม่ใช่เรื่องจริง ตนไม่เคยฆ่าอำพรางศพใคร แต่ในอดีตสมัยตนเป็นชาย อาจจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทขึ้นโรงพักบ่อย ตนดังด้วยตัวเอง ไม่ต้องการให้ใครช่วย ตนคิดว่า คนที่ออกมาแฉนั้น อาจจะเพราะอิจฉากะเทย อยากให้ตนไปทำงานด้วยแต่ตนไม่ไป ดังนั้น คนที่ออกมาแฉ ควรไปพบแพทย์ และหยุดพฤติกรรมดังกล่าว ส่วนหลังจากนี้ ตนจะดำเนินคดีเอาผิดทางกฎหมายแน่นอน
