แถลงแล้ว!! บัวขาว แจงกรณีไม่ชกต่อยก 4 เพื่อศักดิ์ศรีของตน และเพื่อวิชาชีพที่ตนรัก ทั้งนี้ยังมีกติกาเปลี่ยนไปมาก่อนแข่งขัน ส่วนการตัดสินใจในครั้งเป็นการตัดสินใจของตนคนเดียว
วันนี้ เมื่อตอนบ่ายของวันที่ (14 ตุลาคม 2557) บัวขาว บัญชาเมฆ ได้แถลงข่าว เกี่ยวกับประเด็นการไม่ชกยกที่ 4 ในศึกมวย K 1 ที่ค่าย "มวยบัญชาเมฆยิม" ในซอยโพธิ์แก้ว ย่านนวมินทร์
โดยระบุว่า "ทุกอย่าง เกิดจากความคิดของผมเอง ผมขอขอบคุณครูที่สอนวิชาชีพผม ครูที่สอนมวยไทยผม ที่ทำให้ผมมีวันนี้ การที่ผมลงจากเวที ถามว่าผมเสียใจไหม ผมไม่เสียใจนะที่ตัดสินใจแบบนั้น
แต่ผมจะเสียใจก็ต่อเมื่อมีอะไรที่ทำให้มวยไทยและวิชาชีพของผมไปในทิศทางที่ ไม่ได้ดี ผมเลยตัดสินใจลงจากเวที เพื่อศักดิ์ศรีของผม และเพื่อวิชาชีพที่ผมรัก
ตั้งแต่ผมอายุ 7 ขวบ ผมไม่เคยมีประวัติว่าขึ้นเวทีแล้วจะไม่สู้ ผมสู้ทุกครั้งที่อยู่บนเวที แต่ในครั้งนี้ผมรู้สึกว่ามวยไทย วิชาชีพของผม กำลังโดนป่นปี้ ผมเลยหาทางของผมเอง" บัวขาว กล่าว
ทั้งยังบอกอีกว่า สิ่งที่ตนทำนั้น รู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่บางคนก็อาจจะยังไม่เข้าใจ บางคนคิดว่าตนละเลยหน้าที่บนเวที แต่ตนไม่ได้ละเลย
ตนมั่นใจว่าตนทำหน้าที่ของตนบนเวทีเสร็จแล้ว จะแพ้จะชนะตนไม่ขอให้กรรมการตัดสิน ตนอยากให้คนข้างล่างและคนที่ดูอยู่ตัดสินมากกว่าว่าผลการชกจะเป็นอย่างไร เลยลงเวทีไปในตอนนั้น
มีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรหรือเปล่า ?
บัวขาวตอบว่า บางอย่างอาจจะยังพูดไม่ได้ ตนขออธิบายในส่วนที่ตนทำเท่านั้น ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้น ตนมีความภูมิใจและยังยิ้มได้
อีกทั้งแฟน ๆ เพื่อน ๆ พี่น้องทุกคนก็ให้กำลังใจตนอย่างมาก ทั้งผ่านเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และสื่อออนไลน์ ตนอ่านหมด ดูทุกข้อความ ตนขอขอบคุณทุกคนที่ยังให้กำลังใจบัวขาวคนนี้
มีการล็อกผลล่วงหน้าหรือเปล่า ?
บัวขาว กล่าวว่า ตนไม่ขอพูดถึงการล็อกผล ให้ทุกคนตัดสินเองดีกว่า อาจจะมีเบื้องลึก เบื้องหลัง อะไรก็แล้วแต่ มันเป็นขั้นตอนของเขา
ทำไมถึงไม่ฟังผลการชกล่ะ มีการให้ระงับออกอาวุธบางอย่างหรือเปล่า?
บัวขาวบอกว่า ตนแจ้งไปแล้ว ถ้าตนลงเวทีก่อนก็ไม่มีการตัดสิน ส่วนการระงับออกอาวุธ เขาตั้งขึ้นมาเอง แล้วพูดภาษาอังกฤษฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง ตอนแรกเลยตอนที่ตนชกปี 2004 กติกามันมีแค่ว่า ห้ามศอกอย่างเดียว จะออกอาวุธอะไรก็ได้ ทั้งเข่า ทั้งแทง ทำได้หมด
พอปี 2005 ก็ออกบอกว่าตีเข่าได้แต่ห้ามจับ ให้ตีแล้วปล่อย ไม่อย่างนั้นอาจจะโดนใบเหลืองไม่ก็ใบแดง ซึ่งกติกาก็เป็นอย่างนั้นเรื่อยมา พอตนแข่งก็ทั้งเตะ ทั้งเข่า ได้คะแนนบ้าง ไม่ได้คะแนนบ้าง..
แต่พอมาครั้งนี้ มีการเปลี่ยนกติกา ซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนมือคนบริหารหรือว่าอะไรตนก็ไม่รู้ ส่วนกติกาจะคิดขึ้นมาตรงนั้นหรือคิดมานานแล้ว หรือคิดเฉพาะใช้กับตน ตนก็ไม่ทราบได้
ไม่สบายใจเรื่องกติกาหรือเปล่า?
ตรงนี้ก็มีส่วน แต่ไม่ใช่ประเด็นหลักทั้งหมด
แล้วสัญญากับเควันล่ะ?
ต้องไปดูก่อนว่ามีสัญญาหรือเปล่า ถ้ามีก็ต้องดูรายละเอียดว่าจะออกมาในรูปแบบไหน ต้องให้ทีมกฎหมายเป็นคนดู และต้องทำตามสัญญา ซึ่งสัญญาทางทีมกฎหมายของตนก็เป็นคนร่างขึ้นมาเอง น่าจะไม่มีอะไรมาก
ที่ลงจากเวทีมีปัญหาเรื่องร่างกายหรือเปล่า?
บัวขาว ตอบว่า ตอนนั้นมั่นใจมาก ร่างกายตนฟิต ถ้าร่างกายตนไม่เต็มร้อยตนก็จะไม่มั่นใจในการชก สำหรับ 3 ยกบนเวทีตนมั่นใจว่าจะชนะ แต่ผลก็ออกมาอย่างที่ปรากฏ
ส่วนคู่แข่งของตน ตนก็ได้บอกกับเขานอกรอบไปแล้วว่าไว้เจอกันแมตช์หน้าละกัน แมตช์นี้ให้คุณไปก่อน ซึ่งตนกับน้องก็ไม่มีอะไรกัน เวลาไปชกกันต่างประเทศก็นั่งกินข้าว นั่งคุยเล่นกันตลอด
สำหรับเหตุการณ์วันนั้น กติกาคือ 3 ยกถ้าผมยังเสมอก็ต้องแข่งยก 4 ถ้ายก 4 เสมอก็ต้องแข่งยก 5 ซึ่ง 3 ยกที่ผ่านมา ถึงแม้ตนจะออกอาวุธได้ไม่เต็มที่แต่ก็มั่นใจ
และถ้าเควันฟ้องก็คงไม่มีปัญหาอะไร ก็คงทำตามที่เขาฟ้อง ส่วนตนคิดว่า 3 ยก ตนน่าจะชนะแล้ว พอผลออกมาเสมอ ตนก็ตัดสินใจ เดินขึ้นรถไปเลย เดินไปเฉย ๆ เลยด้วย เดินเป็นคนปกติเลย แต่ไม่เห็นมีใครห้าม (หัวเราะ) หรือเขาไม่เห็นตน จากนั้นก็ขึ้นรถกลับโรงแรม
สุดท้าย บัวขาว เปิดเผยว่าจะยังไม่มีการฟ้องร้อง เค-วัน แต่ขอคุยเรื่องสัญญาที่เหลือถึง ธ.ค. 2015 ก่อน
ขณะที่ทาง เค-วัน ประเทศไทย กับ เค-วัน โกลบอล โฮลดิ้ง ที่ก่อนหน้านี้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ที่ผ่านมา ว่าจะขอฟังจากปากของ บัวขาว ก่อน แล้วถึงจะมีการพูดคุยกับทางทีมงานว่าจะฟ้องร้องดำเนินคดีกับบัวขาวหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไรเช่นกัน
