ตร.ชี้แค่เรื่องเข้าใจผิด ปมโคเคนใช้ทำฟัน บอส อยู่วิทยา

พล.ต.อ. ศตวรรษ หิรัญบูรณะ ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงผลการประชุมวันที่ 3 ของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงคดีที่ นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส อยู่วิทยา ทายาทกระทิงแดง ขับรถชน ด.ต. วิเชียร กลั่นประเสริฐ เสียชีวิตเมื่อปี 2555 ว่า วันนี้เรียกประชุมพนักงานสอบสวนเพื่อพิจารณาใน 2 ประเด็นหลักดังนี้

- กระบวนการสอบสวนของพนักงานสอบสวนชุดแรกปี 2555 ว่ามีการดำเนินการและข้อเท็จจริงอย่างไร
- ผลการตรวจต่าง ๆ

โดยใช้เวลาในการพิจารณาซักถามตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีใช้เวลานานกว่า 5 ชั่วโมง ก่อนแถลงข่าวชี้แจงต่อสื่อมวลชน โดยเริ่มจากประเด็นที่สังคมตั้งข้อสงสัยประเด็นการพบสารโคเคนในร่างกาย ยืนยันว่าได้รับผลการตรวจเลือดของ บอส อยู่วิทยา เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2555

โดยแพทย์จากโรงพยาบาลรามาธิบดี และ นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ พบสารในร่างกาย 4 ชนิด โดย 2 ชนิดเป็นยานอนหลับ และกาแฟ ส่วนอีก 2 ชนิด เป็นสารที่เกิดจากการย่อยสลายโคเคน และสารที่เกิดจากการเสพโคเคนร่วมกับแอลกอฮอล์

ทั้งนี้ตำรวจได้เรียกแพทย์ที่ทำการรักษาบอส อยู่วิทยา มาให้ข้อมูล ซึ่งแพทย์ยืนยันว่า ได้ให้ยาบรรเทาอาการอักเสบไม่มีส่วนผสมของสารเสพติดกับ บอส จากนั้นตำรวจได้นำผลการตรวจดังกล่าวไปสอบสวนแพทย์ทั้ง 2 โรงพยาบาลอีกครั้งเพื่อยืนยันว่าเป็นสารเสพติดหรือไม่

ซึ่งแพทย์ให้ความเห็นว่าผลการตรวจดังกล่าวอาจเกิดจากยาปฏิชีวนะ ที่อาจส่งผลลวงต่อการตรวจหรือเป็นสารเสพติดจริง เมื่อนำมาพิจารณาในคณะพนักงานสอบสวนแล้วเห็นว่าสารทั้ง 2 ชนิดไม่ถูกบัญญัติว่าเป็นสารที่ผิดกฎหมาย ประกอบกับไม่มีหลักฐานอื่นจึงไม่ได้แจ้งข้อหาในความผิดที่เกี่ยวข้อง แต่ได้ทำรายงานความเห็นเรื่องที่ส่งไปยังอัยการ

ส่วนที่มีการนำเรื่องนี้ไปชี้แจงกับคณะกรรมาธิการชุดใหญ่ และมีการเปิดเผยข้อมูลว่าสารโคเคนดังกล่าวเกิดจากการรักษาฟันนั้น เชื่อว่าเป็นความเข้าใจที่คาดเคลื่อนและข้อมูลดังกล่าวมีการตรวจสอบยืนยันเป็นเอกสารชัดเจน

ส่วนการดำเนินการหลังจากนี้คือการหาผู้เชี่ยวชาญที่จะชี้ชัดได้ว่าสารทั้ง 2 ชนิด เกิดจากอะไร ซึ่งอาจประสานไปยังกระทรวงสาธารณสุข เพื่อหาข้อสรุปและหากท้ายที่สุดพบว่าเป็นสารเสพติดจริงจะเสนอผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ส่วนการเสียชีวิตของ นายจารุชาติ มาดทอง หนึ่งในพยานปากสำคัญที่จังหวัดเชียงใหม่ ยืนยันว่าไม่มีผลต่อการทำงานของชุดพนักงานสอบสวนครั้งนี้แต่ก็ได้อธิบายว่านายจารุชาติเป็นพยานที่ให้การเมื่อเดือนกันยายน 2555 ในฐานะผู้เห็นเหตุการณ์แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลเรื่องความเร็ว จนกระทั้งปี 2562 อัยการเรียกให้สอบปากคำในประเด็นดังกล่าวเพิ่มเติม พร้อมกับพยานที่เป็นนายทหาร

อย่างไรก็ตามเรื่องการพิจข้อเท็จจริงเรื่องความเร็วรถในขณะนั้นยังมีข้อถกเถียงในที่ประชุม ยังไม่ได้ข้อยุติจึงต้องมีการสอบสวนในประเด็นนี้ต่อ ส่วนการทำสำนวนคดีของพนักงานสอบสวนชุดแรกจะมีความบกพร่องทางวินัยหรือไม่อย่างไร ปปช. ได้พิจารณาไต่สวนเรื่องนี้ไปหมดแล้ว ส่วนการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะเสร็จสิ้นใน 15 วันหรือไม่นั้น ยังตอบไม่ได้แต่จะพยายามเร่งรัดให้ทันกำหนด




SOCIAL NETWORK

Mono Mobile

แหล่งรวบรวมคอนเทนต์คุณภาพ ทั้งในรูปแบบวิดีโอคลิป สามารถดูได้ทุกที่ ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง รองรับการใช้งานหลากหลายอุปกรณ์

Mono Technology

อาคารจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ทาวเวอร์ เลขที่ 200 หมู่ 4 ถนนแจ้งวัฒนะ ปากเกร็ด นนทบุรี 11120 เบอร์โทร 021007007

TAGS

บันเทิง, ข่าวสาร, ก็อซซิป, คลิปตลก, คลิปเด็ด, ดูดวง, เพลงฮิต, เกม, ความรัก, กีฬา