จากกรณีเกิดเหตุการณ์คลื่นลมแรงจากพายุดีเปรสชัน ซินลากู ทำให้หอยทะเลนับล้านตัวต่างพาถูกน้ำซัดลอยมาติดชายหาดจอมเทียน พัทยา บริเวณตรงข้ามวัดใหม่หาดกระทึงทอง ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี สร้างความแปลกตาให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
ส่วนชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงกว่าร้อยชีวิต หลังทราบข่าวก็พากันเดินทางมาพร้อมอุปกรณ์ ถังถุงกระสอบช่วยกันเก็บหอยไปประกอบอาหารกันอย่างคึกคัก แต่ขณะเดียวกันก็มีชาวเน็ตจำนวนหนึ่งได้แสดงความกังวลว่า เหตุการณ์แปลกเช่นนี้อาจเป็นลางบอกเหตุที่เกี่ยวข้องกับการเกิดภัยพิบัติ หรือสึนามิ หรือไม่นั้น
ล่าสุด ผศ. ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม และอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์ชี้แจงเกี่ยวกับปรากฏการณ์ดังกล่าวว่าผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Thon Thamrongnawasawat โดยมีใจความว่า ตามปกติแล้วหอยแมลงภู่เป็นหอยเกาะ ไม่อยู่กับทราย และในพื้นที่ดังกล่าวส่วนใหญ่จะเป็นหอยเลี้ยง
ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่นานก็ได้มีการเกิดปรากฏการณ์แพลงก์ตอนบลูมในเขตอ่าวไทยตะวันออก แม้จะไม่มีพิษแต่ส่งผลต่อคุณภาพน้ำ อาจทำให้หอยบางส่วนตาย หรืออ่อนแอ ประกอบกับช่วงนี้คลื่นลมแรง
หอยบางส่วนที่อ่อนแออาจหลุดลอยมารวมกัน หรืออาจมีเหตุการณ์แพแตกหอยหลุด ซึ่งเมื่อพิจารณากับกระแสคลื่นลมพัดไปทางตะวันออกเลียบฝั่งมา อาจเป็นไปได้ว่าหอยในพื้นที่บริเวณอ่าวอุดม ศรีราชา อาจลอยมาเกยตื้นทางนี้
ทั้งนี้ แม้ปรากฏการณ์ดังกล่าวแม้ไม่เป็นเรื่องปกติ แต่ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ภัยพิบัติ เช่น สึนามิ แผ่นดินไหว จึงไม่ต้องตกใจ ส่วนกรณีที่มีประชาชนจำนวนหนึ่งเก็บหอยดังกล่าวไปรับประทานนั้น อาจจะต้องมีการพิจารณาในเรื่องของความสด และสะอาด เพราะอาจมีเชื้อโรคปนเปื้อน
ซึ่งหากจะรู้ได้ว่าปลอดภัยหรือไม่ก็อาจจะต้องมีการเก็บตัวอย่างมาตรวจสอบ หากยังมีความสดใหม่ก็ก็น่าจะสามารถรับประทานได้ เพราะหอยดังกล่าวน่าจะเป็นหอยเลี้ยง และไม่ถูกโดนสารพิษ หรือแพลงก์ตอนพิษ แต่ทั้งหมดต้องดูปัจจัยหลายประการประกอบกันไม่สามารถฟันธงได้
