โครงการจากรัฐบาลที่ร้อนแรงจนฉุดไม่อยู่ จนถูกยกให้เป็นโครงการยืนหนึ่งในดวงใจของประชาชนในขณะนี้ คงเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากโครงการ คนละครึ่ง ที่รัฐผุดขึ้นมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 63 ด้วยไม้เด็ดรัฐบาลช่วยจ่ายค่าซื้อสินค้าให้ 50% ของมูลค่าสินค้า แต่ไม่เกินวันละ 150 บาท
ซึ่งเหตุที่บอกว่าโครงการนี้เป็นโครงการขวัญใจของมหาชนไม่ได้เรียกให้ดูเท่ๆ แต่มาจากความต้องการของผู้คนนิยมจนมีเสียงเรียกร้องให้มีการขยายเวลาเปิดเฟส 2 เพิ่มขึ้น เพื่อจะได้ให้คนมีสิทธิแต่พลาดรอบแรก มีโอกาสลงทะเบียนรับสิทธิกับเขาบ้างในรอบนี้
และด้วยการที่โครงการนี้ดูเข้าท่าไฉไล ทำให้คนที่พลาดโอกาสคราวก่อน เฝ้านั่งดูปฏิทินเกาะติดข่าวจากหน้าสื่อ รอวันที่รัฐบาลประกาศให้ลงทะเบียนเพื่อจะไม่ได้พลาดซ้ำเหมือนที่ผ่านมา จนในที่สุดวันนั้นก็มาถึง เมื่อกระทรวงการคลังได้ออกมาประกาศแล้วว่า คนละครึ่ง เฟส 2 นี้ จะเปิดให้ลงทะเบียนในวันที่ 16 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป
โดยนายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง ได้ออกมาเปิดเผยว่า โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 เริ่มลงทะเบียนวันที่ 16 ธันวาคม 2563 เริ่มใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 มีนาคม 2564
ซึ่งมาตรการการดำเนินโครงการ ไม่ต่างจากเฟสแรกเท่าไหร่นัก คือเปิดลงทะเบียนเพิ่มเติมอีก 5 ล้านคน แต่จะพิเศษกว่าเฟสแรกก็ตรงที่ วงเงินอุดหนุนจากรัฐจะเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ให้รายละ 3,000 บาท จะเพิ่มเป็นคนละ 3,500 บาท ขณะที่ผู้ที่มีสิทธิอยู่แล้วในระยะที่ 1 จะได้รับเงินเพิ่มอีก 500 บาท และมีการขยายสิทธิออกไปถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564 เช่นกัน
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าคนที่ลงทะเบียนคนละครึ่ง เฟส 1 ต้องใช้เงินที่ได้มา 3,000 บาท ให้หมดภายในเดือนธันวาคมก่อน จากนั้นรัฐบาลถึงจะขยายสิทธิและให้เงินเพิ่มอีก 500 บาทนั้น ในเรื่องนี้ นายพรชัย ได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง คนกลุ่มนี้ไม่จำเป็นต้องใช้เงิน 3,000 บาท ให้หมดภายใน 31 ธันวาคมนี้ ก็ยังได้รับสิทธิอยู่
สำหรับคุณสมบัติของผู้ได้รับสิทธิเข้าร่วมโครงการเฟสนี้ ก็เหมือนกับเฟสแรก คือ ต้องมีบัตรประจำตัวประชาชนและเป็นบุคคลสัญชาติไทย , มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน และไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
โดยผู้ได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะไม่สามารถรับสิทธิโครงการคนละครึ่งได้ โดยสามารถตรวจสอบมาตรการสนับสนุนเพิ่มเติมจากภาครัฐฯ ได้ที่ www.cgd.go.th อีกทั้งผู้ที่ได้รับสิทธิและใช้สิทธิในโครงการ “คนละครึ่ง” แล้วจะไม่ได้รับสิทธิมาตรการ “ช้อปดีมีคืน”
ซึ่งการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการนั้น สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์คนละครึ่ง (www.คนละครึ่ง.com) ได้เลย ที่สำคัญคนที่ผ่านการลงทะเบียนเรียบร้อย ก็ต้องมีแอปพลิเคชั่น ‘เป๋าตัง’ ด้วย เนื่องจากแอปฯ นี้ใช้ทำธุรกรรม และยืนยันตัวตนของผู้รับสิทธินั่นเอง
ขณะที่การยืนยันว่าได้รับสิทธิแล้วนั้น ผู้ที่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติจะได้รับ SMS ยืนยันการได้รับสิทธิ ภายใน 3 วันทำการ
เมื่อได้รับ SMS แล้ว จะต้องใช้สิทธิครั้งแรกภายใน 14 วัน นับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ได้รับ SMS แจ้งรับสิทธิ หรือวันที่เปิดให้เริ่มใช้จ่ายตามโครงการ
มิฉะนั้นจะถูกตัดสิทธิ และไม่สามารถลงทะเบียนใหม่ได้ เงินจะถูกดึงคืนกลับมาที่รัฐ และไม่สามารถสมัครลงทะเบียนได้อีก ที่สำคัญการใช้สิทธิในโครงการนี้ต้องจำไว้เลยว่า ห้ามเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้ในการลงทะเบียนโดยเด็ดขาด !!! ไม่อย่างนั้นแล้วจะไม่สามารถใช้สิทธิคนละครึ่งได้
ส่วนร้านค้าที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ คนละครึ่ง สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com เช่นกัน หรือ ณ สาขา หรือจุดรับลงทะเบียนของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จากนั้นให้ดาวน์โหลดแอปฯ ถุงเงิน เพื่อใช้รับเงินเท่านี้ก็ร่วมโครงการคนละครึ่งได้แล้ว
