เกิดเป็นประเด็นให้ Talk of the town กันทันที ระหว่างความเชื่อของสังคมไทย VS กับผลพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์

จากกรณีที่ทางสำนักเขตจตุจักรต้องการปรับภูมิทัศน์บริเวณต้นโพธิ์ ถนนรัชดาภิเษก หน้าศาลอาญา ที่ถูกขนานนามว่า "โค้ง 100 ศพ" จึงจำเป็นต้องย้ายเครื่องเซ่น ชุดนางรำ รูปปั้นม้าลาย และศาลพระภูมิเก่าที่มีคนนำมาทิ้งไว้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวหลายคนมองว่าเป็นการลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์

ทำให้เมื่อวันที่ (8 ม.ค. 58) ริว จิตสัมผัส พิธีกรรายการคนอวดผีและทีมงาน ได้เดินทางไปยังสถานที่ดังกล่าว เพื่อทำพิธีถวายเครื่องเซ่น ก่อนที่จะเสี่ยงทายสอบถามสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สิงสถิตศาลต้นโพธิ์ว่า ให้ทำความสะอาดบริเวณหรือไม่ โดยการโยนเหรียญตามความเชื่อ ถ้าหากยินยอมให้ทำความสะอาด ขอให้เหรียญออกมาเป็นหงาย-คว่ำ ซึ่งพอโยนเหรียญก็ออกมาเป็นหงาย-คว่ำ จริง ๆ

ทั้งนี้ ริว จิตสัมผัส ยังกล่าวว่า จริง ๆ ตน สัมผัสได้ตั้งแต่เดินเข้าไปแล้วว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์อนุญาตให้ทำความสะอาดแน่นอน แต่เพื่อความสบายใจของสำนักงานเขต จึงทำพิธีให้เห็นกัน

ทั้งนี้ตนยืนยันอีกเสียงว่า ทางสำนักเขตไม่ได้มีนโยบายรื้อต้นโพธิ์ หรือห้ามคนเข้าไปกราบไหว้ ทุกคนยังทำทุกอย่างได้เหมือนเดิม เพียงแต่จะเคลื่อนย้ายสิ่งของออกไป เช่น ชุดนางรำ, ศาลพระภูมิเก่า หรือม้าลาย เป็นต้น อย่างเช่นรูปปั้นม้าลาย ทางสำนักงานเขตบอกว่าจะเอาไปทำสาธารณกุศล อาจจะเอาไปบดเป็นกรวดแล้วนำไปปูเป็นลานวัด

และ ริว จิตสัมผัส ยังบอกเพิ่มเติมอีกว่า ขอฝากไปยังหลายคนที่คิดว่าการทำความสะอาดนั้นเป็นการลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยว่า ทุกอย่างเราทำตามขั้นตอนและได้บอกกล่าวขออนุญาตกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์และดวงวิญญาณบริเวณนั้นแล้ว

ล่าสุด วันนี้(9ม.ค.)  ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธุ์ นักวิชาการด้านวิทยาศาสตร์แห่งจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ได้เผยที่มาที่ไปของศาลดังกล่าวว่า

ศาลตรงต้นโพธิ์โค้งร้อยศพเป็นฝีมือของเพื่อนตน เคยพูดคุยกันและเป็นเรื่องขำๆมาเป็นสิบปีว่า สมัยก่อนตอนเพื่อนของตนเป็นนายช่างวิศวกรคุมโครงการก่อสร้าง ตอนถนนรัชดาตัดใหม่ ๆ

บริเวณศาลอาญา ตอนดึก ๆ พวกคนงานก่อสร้างกะดึก ที่ก่อสร้างโครงการศาลอาญา เลิกงาน แล้วก็ชอบเดินข้ามถนน กลับมาแคมป์คนงานที่ฝั่งตรงข้าม มันก็เดินข้ามตรงนั้น ที่มีต้นโพธิ์อยู่และชอบไปแวะยืนปัสสาวะเป็นกลุ่ม ที่โคนต้นโพธิ์นั่นประจำทุกวัน

จนกลิ่นมันเหม็นโชยข้ามจากเกาะกลางถนนมาถึงฝั่งถนนข้างๆ เพื่อนของตนที่เป็น โปรเจ็กท์แมเนเจอร์ อยู่ที่นั่น ก็เลยออกอุบายไปสำเพ็ง ซื้อผ้าแพรเจ็ดสี มาพันรอบต้นโพธิ์

มีจัดฉากเอาธูปมาปัก ๆ ด้วย เป็นพร็อพ พองาม หลังจากนั้น ไม่มีคนงานไปแวะเยี่ยวที่ต้นโพธิ์นั่นอีกเลย แล้วต่อมาดันมีคนเอาของมาไหว้เพิ่ม มีคนเอาม้าลายมาแก้บน อะไรอีกก็ไม่รู้ เยอะแยะไปหมด จน ตรงต้นโพธิ์นั่น กลายเป็นสถานที่เฮี้ยน ฮิตติดชาร์ท ไปในที่สุด

“…ไอ้เพื่อนผมคนนั้น มันบอกว่า ขับรถผ่านทีไร เห็นแล้ว ก็อดหัวเราะไม่ได้ แทบทุกครั้ง ก็ปล่อยให้มันเป็น Urban Legend กันต่อไป…”