ตำรวจฉะเชิงเทราตรวจสอบภาพวงจรปิด เร่งล่ากลุ่มเด็กแว้นรุมทำร้าย สวป.พนมสารคาม บาดเจ็บสาหัส หลังไม่พอใจตร.เข้ายึดรถจยย.แต่งซิ่ง ตร.รู้ตัวแล้ว เตรียมออกหมายจับ
ที่สภ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา พล.ต.ต.ธีรพล จินดาหลวง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย พ.ต.อ.สงคราม เสงี่ยมพักตร์ ผกก.สภ.พนมสารคาม ร่วมกันตรวจสอภาพวงจรปิด ภายในปั๊มน้ำมัน รุ่งพิทักษ์ หมู่ที่ 4 ต.ท่าถ่าน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา หลังช่วงคืนที่ผ่านมาเกิดเหตุ กลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายร่างกาย พ.ต.ท.กฤษ บุญเรืองคณาภรณ์ สวป.พนมสารคาม จนบาดเจ็บสาหัสไม่ได้สติ
จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่า พ.ต.ท.กฤษ ได้เข้ายึดรถจักรยานยนต์ 2 คัน ของกลุ่มเด็กแว้นในปั๊มน้ำมัน หลังจากขับรถยนต์ส่วนตัวไปตรวจบ้านพักนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ แล้วเผอิญเจอกลุ่มดังกล่าวกำลังรวมตัวนำรถไปแข่ง
โดย พ.ต.ท.กฤษ ได้เข้าไปพูดคุยกับ กลุ่มเด็กแว้นได้ระยะหนึ่ง กระทั่งวินาที 48 ของคลิปวิดีโอ ได้มีชายวัยรุ่นรูปร่างสูงใหญ่ ผมยาว สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ เดินอ้อมมาทางด้านหลัง พ.ต.ท.กฤษ ก่อนจะเข้าล็อกคอแล้วชกเข้ากกหู ทำให้ พ.ต.ท.กฤษ ล้มลง จากนั้นชายวัยรุ่นได้จับ พ.ต.ท.กฤษ กดลงกับพื้นแล้วใช้เท้ารุมเตะและกระทืบ เข้าที่บริเวณใบหน้าจน พ.ต.ท.กฤษสลบคาที่ ก่อนที่กลุ่มเด็กแว้นจะเข้ามาเอาจยย. ที่ถูกยึดไว้ ขี่พาชายวัยรุ่นดังกล่าวหลบหนีไปในเส้นทาง ถนนทางหลวงสาย 304 มุ่งหน้า ขาเข้าจาก อ.กบินทร์บุรี เข้าฉะเชิงเทรา
พล.ต.ต.ธีรพล กล่าวว่า ขณะนี้รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมดแล้ว มีทั้งที่อยู่ในอ.พนมสารคาม อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ส่วนหัวโจกที่เป็นคนก่อเหตุนั้น อยู่ในอ.โคกปีบ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้รวบรวมหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับแล้ว
และล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมหัวหน้าแก๊งที่ก่อเหตได้แล้ว ทราบชื่อคือนายคมสันต์ จันทร์ศรี อายุ 28 ปี
จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ก่อเหตุเพราะบันดาลโทสะ ไม่พอใจที่ทาง พ.ต.ท.กฤษณ์ จะตรวจยึดรถจักรยานยนต์ และทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน โดยตำรวจตามจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ร้านตัดผม เพื่อเปลี่ยนโฉมหลบหนี พบประวัติเคยพัวพันยาเสพติด ขณะนี้ได้คุมตัวไปโรงพักพนมสารคาม
ด้านพล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วยผบ.ตร.) และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เปิดเผยว่า กรณีจับกุมตัวชายที่ปรากฏในภาพวงจรปิดทำร้ายตำรวจนั้น มารดาของผู้ต้องหาเป็นผู้พาไปจับกุมตัว
