ขอเคลียร์เอง แตงโม ภัทรธิดา ควงคุณพ่อออกมาเปิดใจ หลังกินยาฆ่าตัวตาย และอาการดีขึ้นแล้ว ข่าวบันเทิง : แถลงเอง! แตงโม ควงพ่อเปิดใจ หลังคิดสั้น ฆ่าตัวตาย !!
หลังมีคลิปและภาพสุดระทึก! อ้างกำลังช่วยชีวิตดาราสาว แตงโม ภัทรธิดา เนื่องจากเจ้าตัวได้กินยานอนหลับเกินขนาดไปวานนี้ (6 ก.ค.) จึงต้องรีบส่งตัวไปล้างท้องที่โรงพยาบาลเป็นการด่วนเพื่อช่วยชีวิต
ล่าสุดสาว แตงโม อาการดีขึ้น ควงคุณพ่อ โสภณ พัชรวีระพงษ์ พร้อมนายแพทย์ คมสัน อังคณานุพงศ์ ออกมาตั้งโต๊ะเปิดใจเกี่ยวกับที่มาที่ไปทั้งหมด ณ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น โดยดาราสาว แตงโม ภัทรธิดา ปล่อยโฮ!! ชุดใหญ่ เผยกรณีที่นักร้องหนุ่ม โตโน่ ภาคิน ประกาศตัวว่า "โสด" กลางเวทีคอนเสิร์ตนั้นเป็นแค่ส่วนหนึ่ง ซึ่งเธอมีโรคประจำตัวเป็นโรคซึมเศร้า บวกกับปัญหาหลายเรื่องรุมเร้าจึงคิดสั้น เปรยขอยอมรับผิดและทุกคำวิจารณ์ วอนอย่าต่อว่าทางฝ่ายชายยินดีสนับสนุนต่อไป ลั่นยังรักเหมือนเดิม พร้อมขอโทษที่ทำให้คุณพ่อและทุก ๆ คนผิดหวัง
ส่วนงานหมั้นที่จัดขึ้นไปนั้น ยอมรับคืองานแต่งงานของจริง แต่เพื่อหลีกเลี่ยงสภาพจิตใจคนฟังเลยใช้เป็นพิธีหมั้นแทน โดยทั้งคู่ยังไม่ได้มีการจดทะเบียน เนื่องจากต้องเตรียมเอกสารเยอะ แต่ที่ผ่านมาก็ใช้ชีวิตดั่ง สามี-ภรรยา กันปกติ
โดย แตงโม เผยว่า "ก่อนอื่น ต้องขอกราบประทานโทษทางโรงพยาบาลก่อนค่ะ ที่มีรูปหลุดตัวของหนู ออกไปโดยเพื่อนสนิท ความที่เขาอาจจะไม่ทันได้คิด โดยขณะนั้นเองตัวหนูก็ไม่รู้สึกตัวแล้ว พึ่งมารู้เรื่องรูปหลุดเอาทีหลัง ก็ให้เพื่อนลบรูปออกไปเพราะอาจส่งผลเสียต่อรพ.ได้ กราบขอโทษทางรพ.ด้วยนะคะ"
"มุมที่หนูอ่อนแอมากก็มีเหมือนกัน ตัวหนูเองมีโรคซึมเศร้าเป็นโรคประจำตัวอยู่แล้ว การที่ได้รับคำพูดหรือสถานะการในชีวิตตอนนี้มันค่อนข้างที่จะหนักมาก ภายนอกเหมือนจะแข็งแรงรับไหวแต่ภายในคืออ่อนแอมาก หนูจะไม่เล่าให้ใครฟังแม้แต่พ่อเอง จะเก็บเอาไว้คนเดียวไม่กล้าเล่า
เลยมีวินาทีที่ขาดความยั้งคิด ตอนนั้นด้วยความน้อยใจหลาย ๆ อย่างทำให้ขาดสติแล้วคิดว่าไม่อยากจะอยู่รับกับอะไรหลาย ๆ เรื่อง ส่วนเรื่องคำพูดของโตโน่ว่าโสดมันเป็นแค่ส่วนเล็ก ๆ เท่านั้น จริง ๆ ไม่ใช่ ตลอดเวลาที่เราห่างกัน ช่วงนั้นมันเป็นอะไรที่คลุมเครืออย่างที่เห็น แต่ ณ เวลานั้นหนูผิดที่ไม่เคยคิดถึงพวกเค้าเลย หนูลืมว่ายังมีคนรักเค้ามากมาย คนที่เจ็บที่สุดคือพ่อและพระเจ้าของหนู หนูขอโทษที่ทำให้ทุกคนผิดหวัง ขอโทษผู้ใหญ่ทุกคน"
"ก่อนที่เราจะห่างกันอยากที่บอกไปว่ามีเรื่องไม่เข้าใจกัน เรื่องของชีวิตคู่ เราปรับกันแล้ว แล้วเราเข้ากันไม่ได้ โตโน่เลยตัดสินใจแยกออกจากบ้านไป กับการที่เค้าออกไปแต่ว่า ก็ยังคงมีการติดต่อกันอยู่ตลอดเวลา ของในบ้านก็ยังวางไว้เหมือนเดิม หนูก็อยู่ในที่เดิม ๆ ต้องนอนคนเดียว ในที่ ๆ เราเคยนอนอยู่ด้วยกัน ตั้งแต่มีข่าวว่าเราห่างกัน หนูเองก็พยายามติดต่อไปให้กำลังใจเค้า แต่ว่าหนูเองก็ทนอยู่กับสภาพและอาการของหนู และทำงานหนักไม่ต่างกัน มันก็หนักสำหรับชีวิตหนู เพราะว่าหนูเป็นหนึ่งที่รับคำว่าจะแต่งงานกับผู้ชายคนนี้แล้วชีวิตครอบครัวมันไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด"
"ที่เค้าหายไปเค้าไม่กลับมาเลย ส่งอะไรไปก็ไม่มีการตอบแต่อ่าน นาน 2 เดือนแล้วค่ะ แต่ว่าทุกครั้งที่เราให้สัมภาษณ์ อย่างที่ทุกคนเห็นเราห่างแต่ยังไม่มีคำพูดว่าหย่าร้างออกมาเลย หนูไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไร?"
"ทางบ้านหนูเจออะไรมาเยอะ แฟนคุณพ่อก็พึ่งเสียพี่สาวไป คุณแม่ของแฟนพ่อก็จะจากเราไปภายในปีนี้ หันไปทางไหนก็มีแต่ปัญหา ไม่รู้ว่าจะคุยกับใครได้เลย เหมือนเมื่อก่อน หนูมีเพื่อนมีพระเจ้าที่ควรจะพึ่งพาเค้า หลังจากนี้จริง ๆ หนูไม่กล้าพูดอะไรเพราะ สภาพจิตใจหนูตอนนี้ยังสับสนหลาย ๆ อย่าง ในความเป็นจริงหนูก็ควรตัดใจและเดินหน้าต่อไป แต่ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือเปล่า"
"ตอนที่เราเคยเถียงกัน ก่อนเค้าจะหายไปนาน คุณพ่อขอบคุณเค้าที่มีช่วงที่เค้าทำ อย่างสุดความสามารถ หนูขอบคุณเค้าเวลาที่หนูแย่ มีหลายครั้งที่คิดค่าตัวตายตอนแรกที่เราคบกัน หนูก็โดนด่า หนูเหมือนจำเลยสังคมไปโดยอัตโนมัติ แต่มีครั้งที่สองที่เราพยายามกลับมาปรับจูนอีกครั้ง หนูยืนยัน หนูขอที่จะสู้ปัญหาชีวิตครอบครัวไปกับเค้า เดินหน้าต่อไป หนูก้มลงกราบแม่น้อย แม่บอกขอให้เจริญ ๆ เป็นสัญญาณว่าจากกันไหมไม่รู้ เค้าบอกให้หนูเดินต่อไป"
"ทุกครั้งที่เค้าออกมา ยังไม่ได้ยินคำว่าหย่าออกจากปากเค้า ไม่รู้ว่าคำตอบคืออะไร หนูสับสนว่าเราเลิกกันหรือยัง หนูทำทุกทางแล้วที่ยื้อเค้า จนถึงวันนี้ก็ยังยินดีที่จะยังรักเค้าเหมือนเดิม ขอบคุณคนรอบข้างที่เข้าใจและให้กำลังใจ และไม่ซ้ำเติมคนที่คิดสั้น พยายามจะทำให้ตัวเองไม่อ่อนแอ ถ้าไม่มีเรื่องที่กระทบแรงจะไม่ทำตามคำพูดแบบนั้น หนูยังทำมาตลอดว่าหนูสามารถตายแทนคนที่รักได้ เค้าจะเป็นยังไงก็ตามหนูเลือกแล้ว ตัดสินใจในสิ่งที่ทำลงไป ไม่เคยเสียใจ"
"ส่วนกรีดข้อมือก็ทำไปโดยไม่รู้ตัว หลังจากทานยานอนหลับเข้าไป ขอบคุณพระเจ้าที่ยังช่วยชีวิตหนู แผลลึกไหมไม่ทราบเหมือนกัน ตอนนี้โมเล่นไอจีอย่างเดียว ไม่มีเฟส ฉะนั้นถ้ามีอย่างอื่นนอกจากนั้นถือว่าเป็นของปลอมแน่นอน ถ้ามันไม่เกิดกับตัว ว่าคนที่เป็นโรคนี้ไม่รู้หรอกว่ามันเป็นยังไง คำด่า ว่า โมยอมรับไว้ทั้งหมด ไม่โทษใคร อย่าไปว่าโตโน่เลย ไม่ใช่ความผิดของเค้า ยังไงเค้าก็เป็นคนที่หนูรักมาก ๆ คนหนึ่ง สนับสนุนเค้าให้มีที่ยืนต่อไป"
"กับกระแสที่ให้โตโน่เดินออกไปจากชีวิตเพราะไม่พอใจหนู เรื่องนั้นหนูก็ผิดเอง แต่ไม่ขอลงลึกในรายละเอียด ชีวิตคู่ถ้าแพ้ก็แพ้ทั้งคู่ มันมีหลาย ๆ อย่างที่ไม่เข้าใจกัน เป็นโน่เองที่เดินออกไป ไม่เคยรู้สึกเสียใจที่ตลอดเวลาที่คบกัน ภูมิใจมากที่สุดที่รักเค้า ไม่งั้นคงไม่มีชื่อเค้าบนเรือนร่างของหนู กับงานหมั้นที่ผ่านมาเพราะเราก็พยายามรักษาสภาพจิตใจคนฟัง เราเลยเลี่ยงคำว่าแต่งงาน แต่ในพิธีนั้นมันคือการแต่งงานค่ะ ส่วนที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นเพราะเอกสารมากกว่าเพราะเราขี้เกียจด้วย"
