ผบ.ตร. ลั่น! คดีนี้เปรียบเหมือนกีฬา ต้องมีแพ้-ชนะ ไม่มีเสมอ มีแต่คนที่จะติดคุก
เวลาประมาณ 13.00 น. วันที่ 28 ก.พ. 2561 ที่ผ่านมา ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. แถลงสรุปคดีหวย 30 ล้าน ว่า ตำรวจจะสอบสวนในส่วนของคดีอาญา ส่วนคดีแพ่งคู่กรณีต้องไปฟ้องร้องกันเอง ในส่วนคดีอาญาของ จ.กาญจนบุรี ครูปรีชา ใคร่ครวญ ได้แจ้งความเอาผิด ร.ต.ท.จรูญ วิมล ว่า
ยักยอกและรับของโจรและได้ฟ้องศาลแพ่ง จากนั้น ร.ต.ท.จรูญ ได้แจ้งความเอาผิด ครูปรีชา ฐานแจ้งความเท็จ โดย สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้สอบสวน และให้บช.ภ.7 ไปตรวจสอบ ก่อนร.ต.ท.จรูญ คิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ในคดีที่สภ.เมืองกาญจนบุรี สอบสวน เกี่ยวกับคดียักยอกทรัพย์และรับของโจร จึงมาร้องเรียนพล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. ก่อน พล.ต.ท.ฐิติราช จะมาปรึกษาคดีนี้
ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า หากเปรียบเทียบคดีนี้เป็นกีฬาก็ต้องมีแพ้ ชนะ และ เสมอ แต่คดีนี้มีแพ้-ชนะ ไม่มีเสมอ มีแต่คนที่จะติดคุก ก่อนมีการโอนคดีจาก บช.ภ.7 มาให้กองปราบตรวจสอบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทำงานกันอย่างหนัก
โดยใช้เวลา 3 อาทิตย์เศษๆ ซึ่งคดีลักษณะนี้มีเกิดขึ้น 5 คดี เชื่อว่าคดีนี้จะเป็นคดีสุดท้ายสำหรับคนที่คิดจะทุจริต ยุคนี้ไม่มีมวยล้มต้มคนดูแน่นอน สลากฯไม่ใช่ทรัพย์มีทะเบียน ผู้ใดครอบครองย่อมเป็นเจ้าของ ทรัพย์ที่ตกหล่นสูญหาย เจ้าของต้องแจ้งต่อเจ้าพนักงานทันที แต่กลับแจ้งความในภายหลังประกาศรางวัล จึงมีเหตุสงสัยว่าผู้ร้องได้ทำสลากฯหายจริงหรือไม่
ด้าน พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างการต่อสู้และสืบสวนในชั้นศาล เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งสองฝ่าย โดย ร.ต.ท.จรูญ ให้การโดยที่ไม่มีอะไรสามารถอ้างอิงได้เลย ส่วน ครูปรีชา มีพยานแต่ในการให้การต่างๆ สืบได้ว่าคำกล่าวอ้างทั้งหมดขัดแย้ง ไม่สอดคล้องทางนิติวิทยาศาสตร์
อย่างไรก็ตาม จากการแถลงครั้งนี้ สรุปสั้นๆ ได้ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถชี้ชัดได้ใครเป็นเจ้าของเงิน เพราะอยู่ระหว่างศาลแพ่งพิจารณา โดยตำรวจออกหมายจับเนื่องจาก ร.ต.ท.จรูญ แจ้งความว่า ครูปรีชา แจ้งความเท็จ และพบข้อมูลจึงขอศาลออกหมายจับได้ เพราะเป็นคดีอาญา ส่วนที่ ครูปรีชา แจ้งว่า ร.ต.ท.จรูญ ยักยอกทรัพย์นั้นไม่พบมูลหรือหลักฐานเป็นคดีอาญา
