ลูกสาววัย 11 ขวบติดมือถือหนัก เกิดอาการไม่พอใจที่ถูกแม่สั่งห้ามเล่น เขียนจดหมายด่าแม่ตัวเองด้วยถ้อยคำหยาบคาย
สมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความมายังกลุ่ม HerKid รวมพลคนเห่อลูก เพื่อขอคำปรึกษาหลังต้องเผชิญกับพฤติกรรมของลูกสาววัย 11 ปี ที่ติดมือถืออย่างหนัก จนหญิงรายนี้ต้องสั่งห้ามและยึดมือถือลูกเก็บไว้ แต่ที่น่าสะเทือนใจคือลูกสาวเกิดอาการไม่พอใจเขียนจดหมายด่าแม่ตนเองด้วยถ้อยคำหยาบคาย โดยผู้โพสตระบุข้อความว่า
ขออนุญาตปรึกษาหน่อยค่ะ ที่บ้านมีลูกสาวคนโตอายุ11ปี ติดมือถือมากค่ะ แม่พูดดีๆ ก็แล้ว เตือนอะไรต่างๆ ก็แล้ว แต่ไม่เคยฟังค่ะ กลางคืน 4-5 ทุ่ม ปิดไฟแล้วยังแอบเล่นมือถืออยู่ พอแม่จะเก็บมือถือไม่ให้เล่นก็อาละวาด ตะโกนใส่แม่ พอแม่ตีก็มาเขียนใส่กระดาษแบบนี้ค่ะ ถ้าเป็นแบบนี้ควรทำไงดีคะ ขอบคุณล่วงหน้าด้วยค่ะ
ข้อความที่ลูกเขียนด่าแม่
โดยเมื่อโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ต่างมีสมาชิกเฟซบุ๊กเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่แนะนำให้แม่และลูกนั่งคุยเปิดอกกันในครอบครัว ขณะที่บางรายบอกว่าหากแก้ที่ลูกไม่ได้จะต้องแก้ที่ตัวแม่เอง ต้องมีการแบ่งเวลาในการเล่นโทรศัพท์ให้ชัดเจน หรือพาไปพบจิตเวช
ขณะที่มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นบางราย ได้แชร์ประสบการณ์จากเรื่องของตนเองเช่นกัน โดยระบุว่า “ตอนเราเป็นวัยรุ่น อายุประมาณ 14-15 เราเคยเขียนจดหมายเนื้อหาประมาณนี้สอดเข้าไปในห้องนอนแม่ สาเหตุมาจากแม่ชอบตบตีเรา ไม่เปิดโอกาสให้เราพูด ไม่เคยถามเหตุผล เถียงนิดๆ หน่อยๆ ตามประสาวัยรุ่นก็ตบตี
เราว่าปัญหาไม่ได้เกิดจากตัวเด็กค่ะ แต่เกิดจากการเลี้ยงดู การอบรมสั่งสอนมากกว่า อาการแบบนี้ต้องการความอบอุ่นค่ะ สิ่งที่เราอยากได้จากแม่ในตอนนั้นคือการกอด แต่แม่ไม่กอดตบปากอย่างเดียว มันทำให้เรารู้สึกคับแค้นใจ จนในหัวมีแต่คำถามว่าทำให้เกิดมาทำไม แต่พอพ้นช่วงเวลานั้นมา พอโตขึ้นจนปัจจุบันนี้นะ รักแม่มากๆ รักทุกวันเลยค่ะ”
ด้าน กรมสุขภาพจิต เคยให้ข้อมูลการแก้ไขและป้องกันปัญหาเด็กก้าวร้าว มีข้อแนะนำ 7 ประการดังนี้
1.ผู้ใหญ่ควรควบคุมให้เด็กหยุดความก้าวร้าวด้วยความสงบ เช่น ใช้การกอดหรือจับให้เด็กหยุด หลังจากที่เด็กอารมณ์สงบแล้ว ควรพูดคุยถึงสาเหตุที่ทำให้เด็กไม่พอใจจนแสดงความก้าวร้าว เพื่อให้เด็กได้ระบายออกเป็นคำพูด
2.ต้องไม่ใช้ความรุนแรงเข้าไปเสริม การลงโทษอย่างรุนแรงในเด็กที่ก้าวร้าวไม่ช่วยให้ความก้าวร้าวดีขึ้น เด็กอาจหยุดพฤติกรรมชั่วครู่ แต่สุดท้ายก็จะกลับมาแสดงพฤติกรรมนั้นอีก อาจเรื้อรังไปจนโตเป็นผู้ใหญ่ได้
3.ไม่ควรมีข้อต่อรองกันขณะเด็กมีพฤติกรรมก้าวร้าว
4.ควรเริ่มฝึกฝนเด็กตั้งแต่อายุ 3 ขวบให้รู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเองเช่นฝึกให้แยกตัวเมื่อรู้สึกโกรธ
5.ฝึกให้เด็กรู้จักเห็นอกเห็นใจ มีจิตใจโอบอ้อมอารีแก่คน สัตว์ หรือสิ่งมีชีวิตอื่นๆ
6.หลีกเลี่ยงการตำหนิว่ากล่าวเปรียบเทียบ เพราะจะทำให้เด็กมีปมด้อย รวมทั้งการข่มขู่หลอกให้กลัว หรือยั่วยุให้เด็กมีอารมณ์โกรธ เนื่องจากเด็กจะซึมซับพฤติกรรมและนำไปใช้กับคนอื่นต่อ
7.ผู้ใหญ่ต้องเป็นตัวอย่างของความปรองดองเป็นมิตรต่อกัน และมีวินัย หากพฤติกรรมเด็กยังไม่ดีขึ้น ควรพาไปพบแพทย์ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน
