ระทึก! นาทีพลเมืองดี ลุยช่วยผู้ประสบเหตุขับรถตกน้ำ ที่ จ.สุราษฎร์ธานี
วันนี้ (18 ธ.ค. 2561) ผู้คนจำนวนมากในโลกออนไลน์ได้พากันเข้าชื่นชมในความกล้าหาญของกลุ่มพลเมืองดีที่กระโดดลงน้ำไปช่วยชีวิตผู้ประสบอุบัติเหตุขับรถตกคูน้ำที่บริเวณ กม.18 จ.สุราษฎร์ธานี
โดยคลิปนาทีชีวิตดังกล่าว ถูกเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊ก นู๋นิล ตัวเล็ก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่เผยให้เห็นภาพกลุ่มพลเมืองดีประมาณ 3-4 คน ลงลุยน้ำเพื่อเข้าไปช่วยชีวิตผู้ที่ติดอยู่ในรถหลังประสบอุบัติเหตุตกคูน้ำ ไม่ว่าจะการโคลงรถไม่ให้จม ใช้ค้อนทุบกระจก ก่อนที่ผู้โพสต์จะมีข้อความระบุว่าคำสั่งเมียมึงกระโดดลงน้ำเลยนะ ถ้าพี่เขาไม่รอดมึงห้ามขึ้นมา แฟนGu เป็นฮีโร่เลย “ทุบกระจก”
ทั้งนี้เมื่อคลิปดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไปทำให้มีคนเข้าไปแสดงความเห็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ชื่นชมคนกลุ่มนี้ที่เข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุทันทีที่เจอเหตุการณ์ พร้อมยกให้เป็นคนดีประจำปี 2018 ให้เจริญๆ ในชีวิตต่อไป
อย่างไรก็ดีหากประสบเหตุขับรถตกน้ำ ก็ได้มีวิธีการเอาตัวรอดเบื้องต้นจากเหตุการณ์ ดังนี้
กรณีอุบัติเหตุรถจมน้ำ คนที่อยู่ในรถมักจะเสียชีวิตเพราะความตื่นตกใจจนขาดสติ แล้วจะต้องทำยังไงให้ตัวเองรอดจากการจมน้ำในรถให้ได้ ไดเร็ค เอเชีย ไทยแลนด์ มีวิธีคิดเพื่อความอยู่รอดมาฝากกัน
1.ตั้งสติ จากนั้นคิดและประมวลผล ขั้นตอนต่อไปในการเอาตัวรอดออกจากรถยนต์ให้ได้
2.“ห้ามปลดเข็มขัดนิรภัย”ขณะที่รถกำลังพุ่งจมลงไปในน้ำรถจะกระแทกไปมาห้ามปลดเข็มขัดนิรภัยจนกว่าจะแน่ใจว่ารถหยุดกระแทกแล้ว จากนั้นปลดล็อกประตูทุกบาน และให้ยกส่วนศีรษะให้สูงเหนือระดับน้ำที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้นในรถ
3.“เปิดประตูรถ”เมื่อรถจมลงไปในน้ำประตูรถจะเปิดไม่ได้ต่อให้ออกแรงมากแค่ไหนก็ตามเพราะแรงดันภายในและภายนอกรถยังไม่เท่ากัน ต้องรอจังหวะให้น้ำไหลเข้ามาในรถจนครึ่งคัน หรือรอจนน้ำไหลเข้ามาเกือบมิดหลังคาประตูรถก็จะเปิดได้ง่ายขึ้น เมื่อเปิดประตูรถได้ให้เปิดประตูรถกว้างๆ แล้วรีบดันตัวเองออกมาจากรถทันที
4.“กระจกรถ”ถ้าไม่สามารถเปิดประตูรถได้ กระจกรถ ก็เป็นอีกช่องทางนึงที่สามารถช่วยได้เมื่อเกิดเหตุจำเป็น ทุบกระจกรถให้ทุบไปที่ตรงกลางกระจกด้านข้างคนขับ เพื่อทำให้เกิดช่องทางให้น้ำไหลเข้ามาในตัวรถเพื่อปรับความดันภายในและนอกรถให้เท่ากันจะได้เปิดประตูรถง่ายๆ หรือให้ถอดที่พนักศรีษะออกมาแล้วใช้เหล็กค่อยๆแงะร่องกระจกจนแตกแล้วจึงรีบเปิดประตูออกมาให้ไวที่สุด ไม่ควรเลือกทุบกระจกหน้าหรือกระจกหลังก่อนเพราะเป็นกระจกนิรภัยซึ่งจะแตกยากกว่าและทำให้เสียเวลา
5.“ปล่อยตัวอยู่ในสภาวะไร้น้ำหนัก” ช่วงที่ว่ายน้ำออกมาจากรถที่กำลังจมเราจะรู้สึกถูกดึงลงในน้ำด้วย เนื่องจากแรงดันของรถจะดึงตัวเราให้จมลงไป ในช่วงนี้ให้ปล่อยตัวอยู่ในสภาวะไร้น้ำหนักมากที่สุดจนกว่ารถจะจมลงไปหมดห่างจากตัวเราแล้วจึงค่อยๆว่ายขึ้นสู่ผิวน้ำ ถ้าจมไปลึกมากจนมองไม่เห็นว่าต้องว่ายไปทางไหนดี ให้ปล่อยตัวค่อยลอยขึ้นสู่ผิวน้ำเอง หรือเป่าปากแล้วดูว่าฟองอากาศลอยไปทางไหนแล้วค่อยว่ายน้ำตามไป
การมีสติและคิดวิธีแก้ปัญหาได้อย่างถูกวิธี จะช่วยให้คุณรอดปลอดภัยจากวินาทีวิกฤตได้ แต่ดีที่สุดคือเราควรขับรถด้วยความไม่ประมาทเตือนตัวเองเสมอเหมือนประโยคที่ได้ยินกันประจำคือ “ตั้งสติก่อนสตาร์ท” ทุกครั้ง
