รองโฆษกตำรวจ เตรียมขออนุมัติต่อศาลในการออกหมายจับแก๊งทวงหนี้โหด บุกพังข้าวของลูกหนี้ที่ จ.นครปฐม
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณี มีคนร้ายบุกรุกเข้าไปทำลายทรัพย์สินของผู้เสียหายแล้วได้หลบหนีไป เหตุเกิดในบริเวณ อ.เมือง จว.นครปฐม ว่าได้รับรายงานจาก สภ.เมืองนครปฐม ว่า เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.61 เวลาประมาณ 00.05 น.ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายบุกรุกและทำลายทรัพย์สินของผู้เสียหาย
พนักงานสอบสวนจึงเดินทางไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ พบผู้เสียหายแสดงตนเป็นเจ้าของห้องเช่าเลขที่ 17/1 บริเวณตรอกหลังวัดพระปฐมเจดีย์ ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม
โดยแจ้งว่าได้มีชายไม่ทราบชื่อและสกุลจริง ประมาณ 8 คน สวมใส่หมวกไหมพรมคลุมหน้าสีดำ ซึ่งขับรถยนต์กระบะสี่ประตู ยี่ห้อฟอร์ด สีส้ม ปิดบังแผ่นป้ายทะเบียน จอดรถหน้าบ้าน ตะโกนเรียกนายเอ๊ะ ซึ่งเคยพักอาศัยอยู่ห้องเช่าเลขที่ 17/1 โดยอยู่ติดกับห้องของผู้เสียหายฯ แต่ด้วยนายเอ๊ะฯ ไม่อยู่ประมาณ 1 เดือนแล้ว ชายไม่ทราบชื่อและสกุลจริง จำนวน 4 คน สวมใส่หมวกไหมพรมคลุมหน้าสีดำเข้ามาภายในห้อง
ซึ่งเป็นห้องของผู้เสียหายแล้วใช้ไม้เบสบอล ,ค้อนปอนด์ และแท่งเหล็ก ทุบทำลายทรัพย์สินภายในห้อง ระหว่างทำลายสิ่งของ ผู้เสียหายได้พยายามห้ามผู้ก่อเหตุแต่ไม่เป็นผล โดยตัวผู้เสียหายก็ไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด จากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมดได้หลบหนีไป พนักงานสอบสวนจึงได้ทำการสอบสวนพยานที่เกี่ยวข้อง ถ่ายภาพ ทำแผนที่เกิดเหตุ
และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย อีกทั้งฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนีเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานควบคู่ไปกับฝ่ายสอบสวนเพื่อเร่งรัดติดตามกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้นนั้น สันนิษฐานว่ามาจากมูลเหตุที่นายเอ๊ะ ซึ่งอยู่ห้องเช่าติดกันกับผู้เสียหายได้ไปกู้เงินจำนวน 30,000 บาท จากกลุ่มของผู้ก่อเหตุแล้วผิดนัดในการชำระหนี้ จึงมาติดตามทวงถามและได้ก่อเหตุในครั้งนี้ แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้งไป
โดยการกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุนั้นอาจเข้าข่ายในฐานความผิด ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน และทำให้เสียทรัพย์ มีโทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้กล่าวหา พยานไว้แล้วและรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง โดยจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนทราบถึงกลุ่มผู้ก่อเหตุ ในเบื้องต้นแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติต่อศาลในการออกหมายจับและออกติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้ขับเคลื่อนตามนโยบาย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในการกวดขันดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์ของประชาชน และเร่งกวาดล้างอาชญากรรมในรูปแบบที่เอารัดเอาเปรียบประชาชน ในทุกพื้นที่อย่างจริงจัง
ซึ่ง ผบ.ตร. ได้สั่งการไปยังทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัด ให้เข้าไปดำเนินการกับบุคคลบางกลุ่ม ที่มีพฤติกรรมปล่อยเงินกู้นอกระบบในอัตราที่แพงเกินกว่ากฎหมายกำหนด พร้อมกับการป้องกันและปราบปรามกลุ่มมาเฟียหรือผู้มีอิทธิพลตามพื้นที่ต่างๆ
