นายเจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ได้เดินทางไปวัดปริมาณฝุ่น PM 2.5 ที่หน้าเครื่องฟอกอากาศยักษ์ราคาแพง ของสำนักงานเขตราชเทวี ซึ่งทาง กทม. ได้นำมาติดตั้ง แต่ปรากฏว่า ค่าที่วัดได้ปริมาณฝุ่น PM 2.5 สูงเกินค่ามาตรฐาน
อ. เจษฎา เปิดเผยว่า แวะไปที่หน้าสำนักงานเขตราชเทวี เพื่อไปดู เครื่องฟอกอากาศยักษ์” ตัวที่สองของ กทม. (คนละตัวกับที่เคยตั้งไว้หน้าเซ็นทรัลเวิลด์นะ ตัวนี้ใหญ่กว่าเยอะ ราคาแพงกว่าเยอะด้วย) ลองวัดปริมาณฝุ่น PM 2.5 ที่แถวหน้าเครื่องแล้ว
ซึ่งเขาเคยอ้างว่าสามารถสร้างอากาศบริสุทธิ์ ครอบคลุมรัศมีเป็นหลายร้อยเมตร หรืออาจจะเป็นกิโลได้ แต่ค่าที่วัดได้ ก็สูงปรี๊ด ขึ้นสีแดง เกินเกณฑ์มาตรฐานอากาศประเทศไทยไปเยอะ หึๆๆ หลอกกันอีกแล้ว
หวังว่าคงไม่มีใครมาแถลงข่าวชื่นชมในความสำเร็จของการใช้เครื่องนี้ แก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 นะครับ … ควรเลิกคิดหาทางแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แล้วไปจริงจังกับการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุดีกว่าครับ
ขณะเดียวกัน วิทยาลัยสารพัดช่างพิษณุโลก ได้นำผลงานการประดิษฐ์ “เครื่องพ่นหมอกกำจัดฝุ่น PM 2.5” ของนักศึกษาแผนกช่างยนต์ ปวช.3 มาติดตั้งใช้งานจริง เพื่อบรรเทาสภาพปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่วิทยาลัย
กลุ่มนักศึกษาเจ้าของแนวความคิดการประดิษฐ์เครื่องพ่นหมอกกำจัดฝุ่น PM 2.5 บอกว่า เครื่องนี้ใช้งบประมาณ 11,000 บาท และมีคุณสมบัติพิเศษจากการออกแบบกระบอกลมให้หมอกสามารถพุ่งขึ้นไปในอากาศได้สูงถึง 8 เมตร และใช้มอเตอร์ทำให้กระบอกลมส่ายไปมาเพิ่มการกระจายหมอกในพื้นที่ นอกจากนี้ ยังประหยัดน้ำ เพราะใช้น้ำเพียงชั่วโมงละ 1 ลิตรเท่านั้น
ผู้อำนวยการวิทยาลัยสารพัดช่างพิษณุโลก เปิดเผยว่า จะสร้างเครื่องพ่นหมอกกำจัดฝุ่นเพิ่มอีก3 เครื่อง เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในวิทยาลัย และสามารถเคลื่อนย้ายออกไปใช้บรรเทาปัญหาฝุ่นนอกสถานที่ได้ด้วย เพราะเครื่องนี้ใช้ได้ทั้งระบบไฟฟ้ากระแสสลับ และพลังงานจากแสงอาทิตย์
