นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยถึงกรณีประชาชนมีความต้องการให้รัฐบาลประกาศปิดประเทศ ว่า นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำในเรื่องของมาตรการ เพราะว่าได้ยินได้ฟังจากฝ่ายต่าง ๆ เรียกร้องให้มีการประกาศปิดประเทศ
รัฐบาลออกกฎเข้มกันคนเข้าประเทศ
แต่เราไม่อยากให้ประชาชนไปยึดติดกับคำว่าปิดประเทศ เพราะอยากให้ดูที่ผลลัพธ์ของมาตรการมากกว่า ซึ่งตอนนี้ไทยมีนโยบายกันคนเข้ามาในประเทศมีโอกาสน้อยมากและทุกคนที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทยไม่ว่าจะช่องทางใด จะต้องมีใบรับรองแพทย์อายุไม่เกิน 3 วัน และปลอดเชื้อโควิด-19
รวมถึงกรมธรรม์สุขภาพที่มีมูลค่า 100,000 เหรียญ และต้องกักตัวอีก 14 วัน ถึงแม้ไทยจะไม่ได้ประกาศปิดประเทศแต่ผลลัพธ์มีลักษณะคล้ายกัน นั้นก็คือเชื้อจากต่างประเทศเข้ามาไม่ได้
ทั้งนี้ ความยุ่งยากสำหรับคนไทยที่จะกลับเข้ามาที่ประเทศนั้น ทางทีมไทยแลนด์จะอำนวยความสะดวก โดยรัฐบาลยืนยันว่าไม่เคยห้ามคนไทยกลับบ้าน แต่มีความเข้มงวดมากกว่าเดิม
ปิด กทม. ไม่ได้หมายถึงห้ามออกจากบ้าน
นางนฤมล กล่าวต่อว่า ส่วนเชื้อในประเทศนั้น ที่พูดถึงคำว่า ปิด กทม.หมายความว่า แค่ไม่ให้คนเข้าออก กทม. หรือไม่ให้ออกจากบ้านเลย ถ้าไม่ให้ออกจากบ้านจะส่งผลกระทบต่อชีวิตทุกคนใน กทม.
ถ้าประกาศออกไปเลยจะเกิดผลกระทบอย่างมาเลเซีย คนจะแห่ออกไปต่างจังหวัดทันที เชื้อจะออกจาก กทม.อย่างรวดเร็วจนควบคุมไม่ได้ เราจึงเลือกใช้วิธีการที่จะควบคุมเชื้อใน กทม.และปริมณฑล โดยการปิดสถานที่ต่าง ๆ และสร้างการรับรู้
นางนฤมล กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรี ฝากเน้นย้ำขอความร่วมมือจากประชาชน งดการเคลื่อนที่หรือเคลื่อนย้ายตนเองออกจากพื้นที่ หากเป็นไปได้ขอให้ประชาชนอยู่บ้านตามที่มีแพทย์จากหลาย ๆ แห่งร่วมกันรณรงค์
ตอนนี้อยู่ระหว่างปรับพฤติกรรมคนไทย ก่อนมีคำสั่งคุมไม่ให้ออกจากบ้าน
โดยวันนี้ขอรณรงค์แคมเปญ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” เมื่อร่วมมือกันทั้งภาครัฐและประชาชน ก็จะสามารถทำให้การควบคุมไม่ให้ออกจากบ้านต้องมีแผนรองรับ ทั้งการเตรียมอาหาร ของใช้จำเป็น ต้องมีการเตรียมพร้อมให้เพียงพอ
รวมถึงกระบวนการลำเลียงสิ่งของไปให้ ซึ่งได้มีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนอยู่ ตอนนี้เป็นการปรับพฤติกรรมคนไทยในการดูแลตัวเอง ขณะที่บุคลากรทางแพทย์เหมือนอยู่ในสนามรบ เป็นด่านหน้าปะทะกับเชื้ออยู่
“ถ้าอยากช่วยขอให้ทุกคนอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ หากยกระดับ พวกเราจะได้พร้อมที่จะเข้าสู่การยกระดับ จึงขอให้ทุกคนร่วมมือกับรัฐ ถ้าจะมีการปิดสถานที่อะไรเพิ่มเติม ขอให้รับฟังจากศูนย์ฯ นี้เท่านั้น” นางนฤมล กล่าว
