วันปีใหม่ไทย หรือ วันสงกรานต์ ที่กำลังจะมาถึงนี้ ใครหลายคนคงกำลังตั้งหน้าตั้งตารอด้วยความใจจดจ่อ เพราะจะได้กลับภูมิลำเนาไปหาครอบครัว หรือไปรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ที่เคารพรัก และเล่นสาดน้ำปะแป้งสงกรานต์ดับร้อนกันให้ชุ่มฉ่ำไปเลย
แต่สิ่งหนึ่งที่ตามมากับเทศกาลแห่งความสุขที่มองข้ามไม่ได้เด็ดขาด!! ก็คงเป็นเรื่องของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะช่วงเวลาวันหยุดตั้งแต่วันที่ 11-17 เม.ย. 57
ปีนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และอำนวยความสะดวกด้านการจราจร พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก ผู้ช่วย ผบ.ตร. รับผิดชอบงานจราจร จึงได้กำหนดแผนงานแม่บท ลด-ละ-อุบัติเหตุ และ ความสูญเสีย แบบเต็มที่ เพื่อมุ่งเน้นให้เป็น ช่วงระยะเวลา 7 วันแห่งความปลอดภัย ในหัวข้อรณรงค์ว่า “ร่วมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย สงกรานต์ทั่วไทยไร้อุบัติเหตุ”
โดยเน้นมาตรการดูแลความปลอดภัยและอำนวยการจราจร การดำเนินการ จากข้อมูลปีที่ผ่านมา พบว่าปัจจัยเกิดอุบัติเหตุมาจาก “ความเมา” เป็นอันดับแรก “ความเร็ว” เป็นอันดับสอง รองมาเป็น “จยย.” ที่ไม่สวมหมวกนิรภัย การรณรงค์จึงเน้นเป็น 3 ช่วงการดำเนินการ ประกอบด้วย
1. เตรียมความพร้อม ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 15-28 ก.พ. (14 วัน) ให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล, กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, บช.ภ.1-9 และ ศชต.
กำหนดเป้าหมายวางแผนสร้าง มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุ รวมทั้งจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับใช้ในการปฏิบัติงาน สำรวจจุดที่มีการจัดงานรื่นเริงหรือจุดที่มีการเล่นสงกรานต์
2.ช่วงการรณรงค์และเริ่มปฏิบัติการ มาตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.-10 เม.ย. (41วัน) ให้ทุกหน่วยรณรงค์ และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 วัน เน้นการกวดขันวินัยจราจร รณรงค์เรื่องเมาแล้วขับ พร้อมทั้งให้ผู้ใช้รถ จยย.สวมหมวกนิรภัย และประชา สัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงเขตพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ ให้เล่นน้ำอย่างสุภาพ ไม่ใช้น้ำผสมแป้งสี น้ำแข็ง หรือปืนฉีดน้ำหรือกระบอกฉีดน้ำแรงดันสูงฉีดใส่ผู้อื่น รวมถึงประชาสัมพันธ์ไม่ให้ร้านค้าจำหน่ายสุราแก่ผู้ที่มีอาการมึนเมาและ บุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์
3.ช่วงควบคุมเข้มข้น ซึ่งเป็นช่วงที่สำคัญที่สุด 7 วันแห่งความปลอดภัย จะเริ่มระหว่างวันที่ 11– 17 เม.ย. (7 วัน) มุ่งเน้นหนัก 3 มาตรการ ได้แก่
3.1 มาตรการบริหารจัดการ ให้จัดตั้งศูนย์อำนวยการฯ ระดับกองบัญชาการ ระดับกองบังคับการ
3. 2มาตรการอำนวยความสะดวกการจราจร เน้นการแก้ไขปัญหาการจราจรถนนสายหลัก และถนนสายรอง เส้นทางเลี่ยง การเปิดช่องทางพิเศษ การวางกำลังเน้น 2 วันแรก และ 2 วันหลังของเทศกาลสงกรานต์
3.3 มาตรการบังคับใช้กฎหมาย เน้นการสนธิกำลังในการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด เน้นบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์การกวดขันจับกุม 10 ข้อหาหลัก ไม่สวมหมวกนิรภัย อุปกรณ์ส่วนควบไม่ถูกต้อง เมาสุรา ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ขับรถฝ่าสัญญาณไฟ ขับรถแซงในที่คับขัน ขับรถย้อนศร โทรศัพท์ในขณะขับรถ และเข้มงวดกับผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เป้าหมายปีนี้คือ ลดจำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุ จำนวนผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บให้เหลือน้อยที่สุด ทำให้ในปีนี้จึงมีการระดมตำรวจทั่วประเทศกว่า 8 หมื่นคน พร้อมอาสาสมัครกว่า 3 หมื่นคน รวมแล้วประมาณ 1.2 แสนคน ดูแลความสะดวกและปลอดภัย มีการกำหนดจุดตรวจ จุดสกัด 2,971 จุด มีชุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ อีก 1,665 ชุด
สำหรับพื้นที่การกำหนดเขตพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์หรือโซนนิ่งนั้น ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เช่น ถนนข้าวสาร สีลม ลานหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ เอเชียทีค สยาม สแควร์ โซนนิ่งดังกล่าว “ห้ามเด็ดขาดในเรื่องจำหน่ายหรือดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์” ฝ่าฝืนมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่โซนนิ่ง แก่เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี หรือขายให้ผู้ที่เมาอยู่แล้ว โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท
Daily Talk ขออวยพรให้เล่นสงกรานต์ด้วยความสนุกสนานและปลอดภัย สวัสดีปีใหม่ไทย^^
ขอบคุณข้อมูล เดลินิวส์
Mono Mobile
แหล่งรวบรวมคอนเทนต์คุณภาพ ทั้งในรูปแบบวิดีโอคลิป สามารถดูได้ทุกที่ ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง รองรับการใช้งานหลากหลายอุปกรณ์
Mono Technology
อาคารจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ทาวเวอร์ เลขที่ 200 หมู่ 4 ถนนแจ้งวัฒนะ ปากเกร็ด นนทบุรี 11120 เบอร์โทร 021007007
TAGS
บันเทิง, ข่าวสาร, ก็อซซิป, คลิปตลก, คลิปเด็ด, ดูดวง, เพลงฮิต, เกม, ความรัก, กีฬา