จากกรณีที่มีหนุ่มคนหนึ่งโพสต์ภาพการตากข้าวเปลือกบนถนน และใช้ไม้ตีตะปูวางทับไว้ บนถนนภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งพื้นที่ ต.ดงเค็ง อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น และอีกวันก็โพสต์ว่า ได้เข้าไปหาผู้นำชุมชนเพื่อบอกเรื่องดังกล่าว แต่ผู้นำชุมชนกลับประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงว่าให้เห็นใจชาวนาบ้าง เพราะตากปีละครั้ง ใครขับรถเหยียบผิดกฎหมายนั้น
ล่าสุด นายวรุต (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นผู้โพสต์ภาพดังกล่าว ได้เปิดเผยถึงว่า โดยส่วนตัวคิดว่าไม่ถูกต้อง เพราะการตากข้าวเปลือกจนเกือบเต็มถนน กีดขวางการสัญจร หนำซ้ำยังเอาไม้หน้าสามติดตะปูมาวางทับด้วย ก่อนเข้าไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน ขณะนั้นไม่ทราบว่าเป็นข้าวเปลือกของใคร จึงได้ขับรถกลับบ้าน
กระทั่งมีเสียงตามสายจากหอกระจายข่าวของผู้ใหญ่บ้าน คนที่ตากข้าวและขับรถเหยียบข้าว คือคนทำผิดกฎหมาย จึงงงกับสิ่งที่ผู้ใหญ่บ้านพูด เพราะความต้องการคือ ปรับปรุงการตากข้าวบนถนน ไม่ควรตากเต็มถนน ไม่ควรนำไม้ที่ติดตะปูมาวางบนถนน หากคนที่มองไม่เห็นขับรถเหยียบก็เกิดปัญหาอีก แต่ก็ไม่โกรธ เพราะการตากข้าว ชาวบ้านตากปีละครั้ง แต่ให้คำนึงถึงความปลอดภัยของคนที่ใช้ถนนร่วมกัน
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นายวรวุฒิ นาบำรุง อายุ 56 ปี กำนันตำบลดงเค็ง ซึ่งระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในโซเชียลนั้น เกิดจากฝีมือของคนไม่มีที่นา ไม่ได้ทำนา จึงไม่เข้าใจชาวบ้าน เพราะในช่วงเกี่ยวข้าวนั้น ได้ประกาศประชาสัมพันธ์ ให้ชาวบ้านในพื้นที่ทราบว่า ควรตากข้าวในจุดที่กำหนดให้ แต่เมื่อชาวบ้านเกี่ยวข้าวพร้อมๆ ในหลายๆ หมู่บ้าน พื้นที่ที่เตรียมให้ไม่พอ จึงตากบนถนน
ชาวบ้านทุกคนเข้าใจ แต่คนถ่ายภาพและโพสต์เฟซบุ๊ก บ้านไม่มีที่นา ไม่ได้ทำนา จึงไม่รู้เรื่อง จนทำให้เป็นเรื่องราวในโซเชียลดังกล่าว อีกทั้งการตากข้าวบนถนนเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องทำใจ เพราะต้องตากข้าวให้แห้ง 1-2 วัน เมื่อแห้งก็เก็บใส่กระสอบ
ในส่วนของรายที่ถูกโพสต์ภาพนั้น จากการตรวจสอบทราบว่า มีการจ้างคนมาตากข้าว และเกลี่ยข้าวใส่แดด เป็นช่วงที่คนโพสเฟสบุ๊กมาพบเจอแล้วถ่ายภาพ ส่วนไม้ติดตะปู มีการวางจริง เพราะลมพัดตาข่าย จึงวางทับตาข่าย เพียงครูเดียวก็เก็บขึ้น คนโพสต์น่าจะบอกให้เก็บ ไม่น่าจะถ่ายภาพนำไปโพสโซเชียลจนหมู่บ้านเสียหายเช่นนี้
ขณะเดียวกัน เจ้าของข้าวเปลือกที่ตากบนถนน และมีชาวบ้านถ่ายรูปโพสต์เฟซบุ๊ก ได้เดินทางเข้าพบผู้สื่อข่าว พร้อมกับเปิดเผยว่า ข้าวที่ตากบนถนนนั้น ตากตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย. โดยจ้างคนแก่ในหมู่บ้านมาตากให้ คนแก่ก็เกลี่ยข้าวตากคนเดียว แต่ไม่ได้ตากเต็มถนน เพราะรถจยย. รถเก๋งยังผ่านได้ ส่วนกรณีที่ นายวรุต ถ่ายภาพไม้ติดตะปูในกองข้าวนั้น ได้สอบถามคนตากข้าวแล้ว มีจริง แต่เอามาวางทับตาข่ายไม่นานก็เก็บขึ้น
ความจริงไม่เป็นตามที่ถูกกล่าวหาในโซเชียล เพราะไม่ได้ตากข้าวเต็มถนน รถยังผ่านไปมาได้ แต่ก็ไม่อยากจะต่อว่าใคร เพราะ 1 ปี มีครั้งเดียว ถ้ามีที่ตากข้าวเพียงพอก็คงไม่เกิดปัญหาเช่นนี้ จึงอยากฝากถึงเพื่อนบ้านเข้าใจชาวนาด้วนกัน ต่างก็ตากข้าว พอแห้งก็เก็บ
