เฟซบุ๊ก ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รายงานว่า เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้เข้าตรวจสอบซากชบาแก้ว ลูกช้างป่าขวัญใจโซเชียลที่ตาย พร้อมกับโรยยาฆ่าเชื้อ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค และนำส่งตัวอย่างไปยังหน่วยงานเพื่อยืนยันการตรวจวินิจฉัย จำนวน 3 แห่ง ได้แก่
1. ศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง (สุรินทร์)
2. คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
3. สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ
ขณะเดียวกัน ผลการชันสูตรการตายของชบาแก้ว จากทีมสัตวแพทย์เบื้องต้น สามารถระบุได้ดังนี้
1. การดูแลอนุบาลชบาแก้ว ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการเป็นไปตามแนวทางที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตามที่มีการแนะนำทุกประการ
2. การดูแลสุขภาพชบาแก้ว โดยนายสัตวแพทย์ประจำ สบอ.10 (อุดรธานี) ที่ผ่านมา ได้เข้ามาตรวจสอบสุขภาพชบาแก้วเป็นประจำ พบว่า มีร่างกายที่สมบูรณ์ แข็งแรง เป็นปกติ ได้ทำการเจาะเลือดตรวจสุขภาพ ไม่มีอาการหรือลักษณะที่บ่งบอกว่ามีการป่วยหรือติดเชื้อแต่อย่างใด
3. อาการป่วยของชบาแก้ว ตั้งสมมติฐานไว้ 2 ประเด็น คือ
- มีลักษณะอาการคล้ายติดเชื้อโรคเฮอร์ปีไวรัสในช้าง (EEHV)
- เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในระบบทางเดินทางอาหาร
สำหรับ 2 อาการที่เกิดขึ้นมานั้น มาจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ทำให้ชบาแก้วเกิดความเครียด ทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายลดลง จนทำให้ติดเชื้อและแสดงอาการอย่างรวดเร็ว อีกทั้งอุณหภูมิระหว่างวันที่ 1-8 ธันวาคมที่ผ่านมา
อุณหภูมิในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว และท้องที่อำเภอบุ่งคล้า จ.บึงกาฬ ลดต่ำลงอยู่ที่ 12-14 องศาเซลเซียสในตอนเช้า และสูงขึ้นตอนบ่ายประมาณ 34 องศาเซลเซียส ถือว่ามีความแตกต่างกันจนเกิดไป
4. ผลการวิเคราะห์จากห้องปฏิบัติการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างไร จะรายงานให้ทราบต่อไป
