กทม. ออกมาตรการเข้มคุม 4 พื้นที่ป้องโควิด

คงเป็นที่ทราบกันดี และต้องทำใจยอมรับแล้วว่า ขณะนี้ไวรัส โควิด-19 ได้กลับมาระบาดรอบใหม่อย่างเต็มตัวแล้ว หลังมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อที่ จ.สมุทราสาคร เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จากนั้นเชื้อค่อยๆ ขยายวงกว้างไปตามจังหวัดต่างๆ ที่มีพื้นที่ติดต่อกับ จ.สมุทราสาคร

โดยเฉพาะใน กทม. ที่ทางโฆษก กทม. ได้ออกมาประกาศในวันนี้ (21 ธ.ค.63)ว่า ตอนนี้พบผู้ติดเชื้อแล้ว 4 รายซึ่งทั้งหมดเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อโควิด-19 ที่สมุทรสาครทั้งหมด และจากการตรวจพบผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ที่เกิดขึ้น ทำให้ กทม. ได้มีการออกมาตราการป้องกันการแพร่ระบาด 10 ข้อด้วยกันเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดไปก่อนหน้านี้นั้น

ล่าสุดทาง กทม. ได้ประกาศออกมาแล้ว ทาง กทม.ยังได้การเปิดเผยพื้นที่ควบคุม 4 แห่งที่ต้องมีการป้องกัน โควิด-19 อย่างเข้มข้น และต้องมีการแจ้งจำนวนคนด้วยหากมีการจัดงานเกิน 300 คน

ซึ่งสาเหตุนี้ทางผู้ว่าฯ กทม. พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ได้เผยว่า ก็เพื่อต้องการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ให้อยู่ในวงจำกัด เพราะหากปล่อยให้เนิ่นช้าจะก่อผลเสียต่อสาธารณชน หรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะได้ โดยสถานที่ทั้ง 4 ที่ว่านี้ประกอบไปด้วย

  • ตลาด ตลาดน้ำ และตลาดนัด
  • สวนสาธารณะ
  • วัด มัสยิด หรือสถานที่จัดพิธีกรรมทางศาสนา
  • สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอกะ

โดยพื้นที่ควบคุมพิเศษทั้ง 4 แห่ง เจ้าของ ผู้จัดสถานที่ หรือผู้จัดกิจกรรม จะต้องจัดให้มีมาตรการป้องกันโรคแก่ผู้ร่วมกิจกรรมนั้นๆ ดังนี้ คือ

  • บริการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย หรือการคัดกรองอาการป่วยในระบบทางเดินหายใจ
  • ให้สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า
  • อำนวยความสะดวกในการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1 เมตร และจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมมิให้แออัด
  • จัดให้มีที่ล้างมือด้วยสบู่ เจลแอลกอฮอล์ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค
  • จัดให้มีการเช็ดทำควมสะอาดพื้นผิวสัมผัสของสถานที่ที่เกี่ยวข้องก่อนการทำกิจกรรม รวมทั้งระหว่างและภายหลังการทำกิจกรรมด้วย
  • ให้มีการลงทะเบียนก่อนเข้าและออกจากสถานที่ และเพิ่มมาตรการใช้แอปพลิเคชันที่ทางราชการกำหนด
  • ส่วนการจัดงานที่มีผู้เข้าร่วมงานเกิน 300 คน จำเป็นยื่นแผนการจัดงานและมาตรการควบคุมโรคต่อสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ก่อนการจัดงาน หากฝ่าฝืนอาจถูกสั่งปิดกิจการชั่วคราว และมีความผิดตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ

ซึ่งความผิดเหตุฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉินนี้ จะมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพรก.ฉุกเฉิน จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

หรือมาตรา 41 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 7 ปีหรือปรับไม่เกิน140,000หรือทั้งจําทั้งปรับ แล้วแต่กรณี




SOCIAL NETWORK

Mono Mobile

แหล่งรวบรวมคอนเทนต์คุณภาพ ทั้งในรูปแบบวิดีโอคลิป สามารถดูได้ทุกที่ ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง รองรับการใช้งานหลากหลายอุปกรณ์

Mono Technology

อาคารจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ทาวเวอร์ เลขที่ 200 หมู่ 4 ถนนแจ้งวัฒนะ ปากเกร็ด นนทบุรี 11120 เบอร์โทร 021007007

TAGS

บันเทิง, ข่าวสาร, ก็อซซิป, คลิปตลก, คลิปเด็ด, ดูดวง, เพลงฮิต, เกม, ความรัก, กีฬา