นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรีว่า การที่ประชาชนสับสนโครงการ มาตรการต่างๆ ของรัฐบาลที่ออกไปก่อนหน้านี้ เช่นโครงการเราเที่ยวด้วยกัน การยกเลิกหรือเลื่อนการเข้าพักในโรงแรมต่างๆ
ทางกระทรวงการคลังได้มีการเจรจาขอร้องสมาคมผู้ประกอบการโรงแรมไทย ขอความกรุณาพิจารณาคืนเงินให้ประชาชนที่จองไปก่อนหน้านี้ หรือประชาชนไม่ยกเลิกแต่ขอเลื่อนไป ขอให้พิจารณาที่จะดำเนินการยกเลิก ขอเงินคืน หรือเลื่อนการเข้าพักสามารถดำเนินการโดยง่าย
ส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบที่ธนาคารกรุงไทยเป็นผู้ดูแลโครงการอยู่ ขอให้ดำเนินการที่จะปรับบางส่วน ที่ผ่านมาอาจจะมีปัญหาการเข้าเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชันแล้วไม่สามารถเลื่อนหรือยกเลิกได้ ธนาคารกรุงไทยกำลังเร่งปรับเพื่อที่จะรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้อย่างเร็ว
สำหรับมาตรการคนละครึ่งที่มีกระแสข่าวอาจต้องเสียภาษีเพิ่มเติมนั้น นายอนุชา กล่าวว่า ได้รับการยืนยันจากกระทรวงการคลังชัดเจน ว่าจะไม่นำมาเสียภาษีหรือนำมาคิดเป็นภาษีรายได้ ขอให้ทุกท่านคลายความกังวล
ส่วนเรื่องการเยียวยาประชาชนในอนาคตกำลังทยอยออกมา มีกระทรวงแรงงาน ออกประกาศโดย รมว.แรงงาน พูดถึงการลดอัตราสมทบเงินเข้ากองทุน ทั้งนายจ้างและผู้ประกันตน การจ่ายสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัยโรคระบาดครั้งนี้
สำหรับลูกจ้างที่มีการประกันตน แล้วมีเงินสมทบครบ 6 เดือน ใน 15 เดือนที่ผ่านมา ไม่ได้ทำงานเนื่องจากต้องกักตัวหรือหยุดประกอบกิจการ จะได้รับสิทธิทดแทนอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างรายวันตลอดระยะเวลากักตัวแล้วแต่กรณี แต่ไม่เกิน 90 วัน
ซึ่งเป็นมาตรการที่ครอบคลุมทั่วประเทศ สามารถให้ทั้งผู้ประกอบการ ผู้ประกันตน ดูสิทธิประโยชน์และกรอกเอกสารได้ที่เว็บไซต์กระทรวงแรงงาน
