เงิบอีกแล้ว!! ประเทศไทย ยังคงหลงโคลนตมดังเดิม

อนิจจาประเทศไทย นับวันยิ่งจมปลัก ฤายากที่จะฉุดดึงให้พ้นโคลนตม… เกือบ 8 ปีนับจากวันที่คณะความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) ภายใต้การนำของพล.อ.สนธิ บุณญรัตกลิน พร้อมด้วยผู้นำเหล่าทัพ ได้ทำการยึดอำนาจการปกครองจากรัฐบาลทักษิณ ชินวัตรเมื่อคืนวันที่ 19 ก.ย.2549

1 (1)

ในวันนี้ปีพ.ศ.2557 สถานการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองเสมือนคัดลอก ออกแบบมิต่างจากอดีตที่ผ่านมา ฝ่ายหนึ่งประกาศก้องให้ระวัง “บิ๊กบัง 2” อีกฝ่ายหนึ่งปลุกพี่น้องชาวไทยให้ระวัง “ระบอบทักษิณ” ดังนี้แล้วประเทศไทยจึงยิ่ง “จมปลัก” อยู่กับโคลนตมที่ถูกถมใส่ทุกวี่วัน…ไร้ซึ่งหนทาง ไร้ซึ่งทางออกที่ควรจะเป็นเห็นได้จากการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมที่เรียกตนว่า กปปส.เรียกร้องขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ นานกว่า 5 เดือน โดยมิมีผู้ใดล่วงรู้ว่าจะยุติลงเมื่อใด

เพราะแม้แต่ กำนันเทพ- สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ก็มิหยั่งรู้เช่นกัน…เนื่องเพราะกำนันเทพ เป็นเพียงร่างทรง เป็นเพียงเลขาธิการหาใช่ประธานไม่ ดังนั้นการเรียกร้องขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์จึงต้องดำเนินต่อไป…ท่ามกลางเสียงร้องให้เกิดการ “ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง” หากเป็นเช่นนั้น กรอบเวลาในการจัดการเลือกตั้งใหม่ 3 กรอบที่กกต.กำหนดไว้คือ

1.เลือกตั้งเร็วที่สุดภายใน 90 วัน นับแต่วันที่หารือกับพรรคการเมืองคือเลือกตั้งวันที่ 20 ก.ค. โดยจะให้ พ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้งประกาศในราชกิจจานุเบกษาและใช้บังคับในวันที่ 22 พ.ค.
2. เลือกตั้งภายใน 110 วัน นับแต่วันที่หารือพรรคการเมือง คือเลือกตั้งวันที่ 17 ส.ค.โดยมีการประกาศ พ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้งในราชกิจจานุเบกษาวันที่ 22 พ.ค. แต่ให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 19 มิ.ย.
3 .เลือกตั้งภายใน 138 วัน นับแต่วันที่หารือกับพรรคการเมืองคือเลือกตั้งวันที่ 14 ก.ย.โดยประกาศ พ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้งในราชกิจจานุเบกษาวันที่ 22 พ.ค. แต่ให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 22 ก.ค.จะสามารถกระทำได้หรือ?!

หรืออาจจะมีแนวทางเป็นไปได้เพราะขณะนี้ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้เร่งเดินสายพบปะแลกเปลี่ยนแนวคิดเรื่องการปฏิรูปกับหลายหน่วยงาน กิตติพงษ์ กิตติยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรมก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่เห็นว่า การเลือกตั้งอย่างเดียวไม่สามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นได้

เนื่องเพราะการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งที่ปราศจากการพูดคุยกับคู่ขัดแย้ง จะนำไปสู้หนทางที่ไม่ใช่ทางแก้ปัญหา ดังนั้นจึงต้องออกแบบการเลือกตั้งให้สอดคล้องกับความเห็นคนส่วนใหญ่ ให้เป็นเป้าหมายร่วมกัน

ส่วนตัวผมส่งเสริมการพูดคุยและเจรจา เพราะปัญหาทุกอย่างต้องเริ่มจากการพูดคุย ด้วยการวางกรอบที่ชัดเจน ซึ่งกปปส. ได้ผลักดันการปฏิรูป และขณะนี้การปฏิรูปก็เป็นที่ต้องการของหลาย ๆ ฝ่าย ถ้าจะปฏิรูปท่ามกลางความขัดแย้ง ก็จะเสียโอกาสในการปฏิรูป และจะทำให้การปฏิรูปไม่สามารถเดินต่อไปได้แม้จะมีเจตนาดีก็ตาม

ความหมายคือปัญหาที่เกิดขึ้นจะสามารถจบลงด้วยการเจรจา…ดังนั้นหน้าที่ผู้นำในการเจรจาครั้งนี้คงไม่พ้น“อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แต่ทว่า “กำนันเทพ” ก็ได้ประกาศจุดยืนชัดว่า การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ใช่การต่อสู้เพื่อใครหรือพรรคการเมืองใด และขณะนี้ประชาชนต้องการให้มีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง

ไม่ว่าใครก็ตามอย่าบังอาจตั้งตัวเป็นคนกลางมาเจรจา ไม่ว่าจะเป็นคนที่ผมรู้จัก เคยทำงาน หรือสนิทสนมก็อย่ามาสะเออะ และขอบอกว่านายสุเทพที่เล่นการเมืองมา 36 ปี ขณะนี้ไม่มีแล้ว

วันนี้ผมเป็นเพียงกำนันสุเทพ ที่เป็นร่างทรงของประชาชนเท่านั้น ดังนั้นผมจึงไม่ฟังใครนอกจากประชาชน โดยประชาชนต้องการให้มีการปฏิรูปเราจึงต้องขับไล่รัฐบาลออกไป เพื่อที่จะเดินหน้าปฏิรูปประเทศให้ดีขึ้นด้วยมือของประชาชน” เปิดประตูใส่หน้าดังปังสะขนาดนี้ คนกลางหน้าไหนจะกล้าแหยมแหย่เข้ามาเจรจากันหละหนอพ่อกำนัน…




SOCIAL NETWORK

Mono Mobile

แหล่งรวบรวมคอนเทนต์คุณภาพ ทั้งในรูปแบบวิดีโอคลิป สามารถดูได้ทุกที่ ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง รองรับการใช้งานหลากหลายอุปกรณ์

Mono Technology

อาคารจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ทาวเวอร์ เลขที่ 200 หมู่ 4 ถนนแจ้งวัฒนะ ปากเกร็ด นนทบุรี 11120 เบอร์โทร 021007007

TAGS

บันเทิง, ข่าวสาร, ก็อซซิป, คลิปตลก, คลิปเด็ด, ดูดวง, เพลงฮิต, เกม, ความรัก, กีฬา