ความคืบหน้ากรณีการหายตัวไปของ ด.ญ.กชกร หรือ น้องแก้ม อายุ 13 ปี ขณะที่เดินทางมาจาก จ.สุราษฏร์ธานี มุ่งหน้า กรุงเทพมหานคร ซึ่งโดยสารมากับขบวนรถไฟ (ตู้นอนที่3) เที่ยวที่ 174 เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมานั้น
มีรายงานว่า น้องแก้ม ได้เสียชีวิตแล้ว โดยภายหลังที่ นายวันชัย ผู้ต้องสงสัยสารภาพว่า ได้ลงมือก่อเหตุฆ่าข่มขืน ก่อนโยนร่างน้องแก้มทิ้งหน้าต่างรถไฟ เมื่อเวลา 02.40 น. เจ้าหน้ามูลนิธิสว่างแผ่ไพศาลธรรมศาลา (ปราณบุรี / หัวหิน) พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 20 นาย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมกว่า 100 นาย แบ่งกำลังเป็น 2 ชุด เดินเท้าปูพรหมสองฝั่งทางรถไฟในพื้นที่ที่คาดว่าน้องแก้มจะหายตัวไป
จนเมื่อเวลา 04.10 น. เจ้าหน้าที่พบร่างหญิงสาวภายในพงหญ้า ลักษณะนอนคว่ำหน้า เปลือยกลาย บริเวณเลยจุดตัดทางเข้าเขตวนอุทยานปราณบุรี 2 กิโลเมตร ห่างจากรางรถไฟไปประมาณ 2 เมตร
ซึ่งเมื่อพบศพญาติของน้องแก้มที่เดินเท้ามาพร้อมกับเจ้าหน้าที่ได้ยืนยันว่า ศพหญิงสาวในพงหญ้า เป็นน้องแก้มจริง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุเอาไว้ได้ ทราบชื่อ นายวันชัย แสงขาว อายุ 22 ปี หรือเกมส์ พนักงานปูเตียงที่เข้ามาทำงานได้ไม่นาน
จากการสอบสวน นายวันชัย ให้การรับสารภาพว่า ได้เฝ้ามองน้องแก้มมาตลอด ตั้งแต่ขึ้นรถไฟที่ จ.สุราษฎร์ธานี กระทั่งสบโอกาสที่น้องแก้มตื่นขึ้นมาเข้าห้องน้ำกลางดึก จึงลากตัวไปข่มขืนที่ห้องพักพนักงานบนรถไฟ 2 ครั้ง ก่อนโยนร่างทิ้งหน้าต่างรถไฟ ช่วงระหว่างสถานี วังก์พง อ.ปราณบุรี กับสถานีหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมกับนำปลอกหมอน ผ้าปูที่นอนและเสื้อผ้าเปื้อนเลือดของน้องแก้มโยนทิ้งข้างทางด้วย
ขณะค้นหาร่างน้องแก้ม เจ้าหน้าที่ได้พบหลักฐานเป็นผ้าปูที่นอนของรถไฟ และเสื้อเปื้อนเลือด ที่บริเวณริมทางรถไฟสถานีหนองแก และพี่สาวยืนยันว่า เสื้อตัวดังกล่าวเป็นของน้องแก้มจริง เจ้าหน้าที่จึงเร่งดำเนินการค้นหาร่างน้องแก้มอีกครั้งจนพบเป็นศพดังกล่าว
ขณะที่ นางลักขณา ทองพัฒน์ อายุ 48 ปี มารดาน้องแก้ม เมื่อทราบข่าวถึงกับเป็นลมหมดสติ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้เข้าปฐมพยาบาลทันที
ด้าน นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ล่าสุดได้รับรายงานจากตำรวจแล้ว โดยผู้ต้องหาฆ่าข่มขืน ด.ญ.แก้ม คือพนักงานปูเตียงบนรถไฟฯ และพบว่าติดยาเสพติดเพราะตรวจปัสสาวะสีม่วง จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า
เป็นพนักงานบริษัทที่รับสัมปทานดูแลความสะอาด ไม่ใช่พนักงานการรถไฟฯ โดยอยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียดของบริษัท รวมทั้งกฎระเบียบต่าง ๆ ว่า เหตุการณ์สะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นครั้งนี้ จะสามารถเอาผิดบริษัทได้อย่างไรบ้าง ในส่วนของพนักงานคนนี้สั่งไล่ออกทันที แต่จะขยายผลถึงบริษัทด้วยว่าเอาผิดอย่างไรเพิ่มเติม
นายประภัสร์ ยังกล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฐานะผู้ว่าฯ รฟท.รู้สึกช็อก สลด และเสียใจต่อครอบครัวของด.ญ.แก้ม ถือว่า ตั้งแต่ก่อตั้งรถไฟมา 117 ปี เป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรงสะเทือนขวัญที่สุด เพราะก่อนหน้านี้เคยเกิดแค่กรณีการทำอนาจารบนรถ จนทำให้มีการเปิดโครงการโบกี้สำหรับผู้หญิง
สำหรับมาตรการในอนาคตนั้น คงต้องยกเครื่องและสังคายนาระบบการให้บริการกันใหม่ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นผู้โดยสารที่ปัจจุบันมีภาพลักษณ์ย่ำแย่อยู่แล้วกลับ คืนมา และต้องใช้เวลานานเพราะกระทบต่อความเชื่อมั่นอย่างรุนแรง
