จากกรณีที่ชาวสังคมออนไลน์ได้แชร์เรื่องราวของน้องเอก นิสิตคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ขายแซนวิชเพื่อหาเงินช่วยแม่ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง
ล่าสุดน้องเอก ได้สร้างแฟนเพจชื่อ เก็กฮวยช่วยแม่ ซึ่งเป็นแฟนเพจสำหรับ บันทึกเรื่องราวของเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่คุณแม่ล้มป่วยจนไปถึงช่วงเวลาใน การต่อสู้เพื่อหาเงินมารักษาแม่ โดยน้องเอกเล่าในบันทึกบทแรกของแฟนเพจ เก็กฮวยช่วยแม่ว่า
1. ข่าวร้าย 20 พฤศจิกายน 2556 “โรงเล็ก” ในเวลานั้น เป็นช่วงเวลา ที่เด็กๆนิเทศ จะเรียกกันว่า เทศกาล “ละครโรงเล็ก” ที่เปิดโอกาสให้ใครก็ตาม นิสิตปีใดก็ตามสามารถที่จะทำละคร “เล็ก” ของตนออกมาโชว์ฝีมือกัน เป็นผลให้ คณะคนเยอะเป็นพิเศษ เนืองเเน่นไปด้วย ผู้คนที่กำลังพยายามจะเข้าบทบาท อ่านบทและลืมโลกทั้งใบตรงหน้าของเขา แล้วเข้าไปอยู่ในกระดาษแผ่นนั้น
ผมนั่งมอง ผู้คนเหล่านี้ด้วยความชื่นชม เพราะมันเป็นสิ่งหนึ่งที่ผมนั้นเข้าไม่ถึง เหมือนเช่นเคย งานที่ผมทำได้ก็คืองาน “สเตจ” (stage) หรือ ฝ่ายกำกับละคร ที่จริงก็ไม่มีอะไรมากหรอกคับ ผม ขนของเข้าฉาก ออกฉาก พานักเเสดงเข้าออก ดูเเลความเรียบร้อย
และมันก็เป็นความสุขอีกรูปแบบหนึ่ง ที่เราได้เห็นตอนจบที่ทุกๆคน ปรบมือเกรียวกราว หรือคนมีความสุข หัวเราะกับมัน ซึ่งสิ่งที่ผมเห็น ก็จะมีแต่ความมืด และเเสงสีที่แสดงอารมณ์ ตัดกันไปมาที่หลังฉาก เขียว แดง ส้ม ม่วง ตามอารมณ์ นั้นๆที่ต้องการจะสื่อ ผมได้เห็นแค่นั้นจริงๆ แต่ก็ได้รู้สึกไปกับมัน และสนุกไปกับมัน
ระหว่างที่การซ้อมดำเนินไป เวลาก็ล่วงเลยตามไปด้วย 2 ถึง 3 ทุ่มได้เเล้ว แต่ทุกคนยังคงตั้งหน้าตั้งตา ซ้อมต่อไป โทรศัพท์ที่แบตเสื่อมของผม ทำให้แบตอยู่ไม่ยืดถึงกลางคืน ผมต้องชาร์จไว้ใกล้ และฝากเพื่อนไว้ จนพักซ้อม
วันนั้น เพื่อนที่ช่วยดูโทรศัพท์ของผมคือ ฟิวเจอร์ “เอกๆ แม่เอกโทรมาหลายครั้งแล้วอะ โทรกลับด้วย”
แน่ล่ะ ระหว่างที่ซ้อมละคร เราต้องคอยเล่นไปด้วย ยกของ จัดของ เรารับโทรศัพท์ไม่ได้
“โอเคๆ เดี๋ยวโทรไป”ผมปลดล็อกเเละเปิด ขึ้นดู miss call และพบว่า มี 4 สายของแม่ที่ค้างไว้ผมรู้สึกทันทีว่าต้องมีเรื่องด่วนแน่ๆ ปกติอย่างมากคุณแม่จะโทรแค่ 2 สาย รู้ว่าเอกไม่รับ ก็จะทิ้งไว้ก่อน ผมกดโทร ไม่ติด ผมกดโทรอีกครั้ง ก็ยังไม่ติด
ระหว่างนั้นสมองของผมเเล่นไปว่า อะไรน่าจะทำให้เกิดการโทรแบบนี้ แม่ต้องมีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจแน่ๆ และสิ่งที่ผมนึกได้ใกล้เคียงที่สุดก็คือ ม็อบ เดือน พฤศจิกายน เป็นเดือนที่การเมืองเริ่ม เข้มข้น มีการนัดชุมนุมใหญ่ที่ราชดำเนินในเร็วๆนี้
อันที่จริงเหตุการณ์นี้ทำให้ผมนึกถึง เมื่อปี 53 ที่มีการชุมนุม ของ ฝ่าย นปช. คุณพ่อ คุณแม่ก็โทรมา บอกให้ผมกลับบ้านเหมือนกัน เพราะกลัวว่าจะมีอันตรายที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น คราวนั้นผมกลับ
แต่ก็ต้องทิ้งงาน ทิ้งกิจกรรมที่ทำกับเพื่อนในตอนนั้น ซึ่งผมคิดว่า น่าจะเป็นเรื่องเดิมๆ ไม่ผิดเเน่
ผมลงมาจากตึกและไปหาอะไรใส่ท้อง ที่หอยู ตามประสา เด็กนิเทศฯ ที่มักจะทำกิจกรรมกันดึกๆ และมาหาอะไรกินตอนนี้ งานนี้เซเว่น กับร้านเกาเหลารับทรัพย์ไปเต็มๆ ผมซื้อเเซนวิช ไข่ต้มและน้ำ จากเซเว่น เเละเดินไปกลางลาน ระหว่างหอหญิง หอชาย
ตรงนั้นมีที่ให้เรานั่งและพักขาได้ ผมค่อยๆกินอาหาร และมองดูความนิ่งของบรรยากาศยามค่ำคืนของหอยู เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้น และเป็นคุณแม่ที่โทรกลับมา เอกรีบรับโดยไม่ต้องคิด
“ครับแม่ ว่าไง”
“อืม คือ พรุ่งนี้จะมีทำบุญที่บ้าน อยากให้เอกมาด้วย”
“เห้ย ตลกป่าวแม่ เราไม่เคยทำบุญบ้านเลยนะ ทำไมอยู่ดีๆทำอะ”
“ก็อยากจะทำให้มันดีๆ สบายใจ เพราะดูเหมือนจะมีเเต่ปัญหาอะไรหนักๆเข้ามาเยอะ หลวงปู่ จะเข้าเมืองมาทำด้วย แม่ให้ป้าช่วยติดต่อละ”
“เดี๋ยวครับ แม่ คือไม่ได้บอกเอกก่อน เอกมีต้องช่วยพี่เค้าทำละคร คือ ตกลงกับพี่เค้าไปแล้วด้วย ถ้าเอกอยู่ดีๆไปมันจะ ไม่ดีนะแม่”
“อืม ก็อยากให้เอกมา”
น้ำเสียงแม่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน “แม่มีอะไรรึเปล่า บอกเอกตรงๆได้เลยนะ” “ก็คือ งานทำบุญบ้านอะไรนี่เราก็ไม่ได้มีบ่อยไง ก็อยากให้เอกมาด้วย อีกหน่อยเอกก็ต้องมาอยู่ จะได้เป็นมงคลกับตัวเอกไง”
“ไม่ๆ ฮะ คือ ถ้าบอกก่อนเอกก็น่าจะไปได้ แต่อันนี้เอก ตกลงกับพี่ไปแล้วอะ”
“มาก่อนวันนึงได้มั้ย ขอพี่เค้าวันนึง จะได้มา…”
ผมเริ่มหงุดหงิด “แม่ มีไรจะบอกเอกรึเปล่า มันแปลกๆนะ ถ้าแบบแม่อยากให้เอกกลับไปเพราะมันมีม๊อบอะ เอกเข้าใจนะแต่เอกกลับไม่ได้ เอกไม่ชอบที่แม่ทำแบบนี้อะ อยากให้บอกเอกมาตรงๆเลย เอกไม่ใช่เด็กแล้ว เอกคุยได้ เข้าใจได้เอางี้คับ ถ้าเป็นเรื่องม็อบ เอกไม่กลับนะเเม่…””ถ้าคิดว่าเป็นเรื่องนั้นก็ตามใจ”แม่วางสายไป
ผมงง ปกติแม่เป็นคนใจเย็นมาก ไม่ค่อยมีจังหวะเสียดสีเท่าไหร่ นี่เหมือนจะเป็นครั้งแรก ผมพบว่ามันผิดปกติอย่างแรง
ผมโทรไปหาน้อง น้องไม่รับ ผมโทรไปหาพ่อ พ่อก็ไม่รับ เหมือนเวลาที่เราอยากจะติดต่อใครมากที่สุด มันมักจะทำไม่ได้
ผมควักโทรศัพท์ขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกง คราวนี้ผมเปิดไลน์ ไลน์ไปถามทั้งพ่อ แม่ น้อง เหมือนทุกอย่างจมอยู่กับความเงียบตอนนี้ผมเริ่มอยากกลับบ้านแล้ว อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เสียงไลน์ดังขึ้น ผมรีบเปิดดูทันที ผมเห็นคุณแม่ไลน์ และสิ่งที่ผมเห็นคือ”แม่เป็นมะเร็งระยะที่สอง“มี 2 notification อันหลังคือข้อความนี้
เอกช็อก ไม่เคยคิดเลยว่า ตัวอักษรเล็กๆในไลน์ จะสร้างความรู้สึกที่แย่ได้มากขนาดนี้ ผมน้ำตาจะไหล ไม่รู้อะไรเกิดขึ้น “มะเร็ง” ชื่อนี้ฟังดูร้ายแรง ผมไม่มีความรู้เกี่ยวกับมันเลย ไม่รู้ว่ามีกี่ระยะ และระยะที่ 2 นี่เป็นอย่างไร ผมปวดหัว และเครียดขึ้นมาทันที
เหมือนทุกๆสิ่งที่จับต้องได้มลายหายไป ทุกกฎ ทุกเรื่องราว ไม่มีอะไรน่าตกใจ สำคัญและต้องใส่ใจมากกว่าข้อความเล็กๆนี้ผมตั้งสติ เอานิ้วแตะลงไปบนไลน์อันนั้น เอก คือ แม่ไปโรงพยาบาลและตรวจพบว่าแม่เป็นมะเร็งระยะที่สอง ไม่มีเวลาสำหรับการคิดอะไรอีกแล้ว ผมกดเบอร์แม่ และโทร โดยทันที “โอเค เอกจะกลับคืนนี้”
“….ผมได้รับรู้ว่าคุณแม่ของผมเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย โลกทั้งใบพังทลาย ความฝันทั้งหลายมลายสิ้น ไม่เหลืออะไรให้ยึดเหนี่ยว สุดท้าย มีแค่ว่า จะสู้หรือจะถอย ผมเลือกอย่างแรก โดยตัดสินใจว่าจะสู้ แม้ว่าจะเหนื่อยเท่าไหร่ อันที่จริงก็ยังไม่รู้หรอก แต่ก็ตัดสินใจ เวลา เหมือน ขาดความหมาย ผมไม่รู้จริงๆว่า ผมเหลือเวลาอยู่เท่าไหร่ เหลือเพียงแค่ให้ทุกวินาทีนั้น ได้คุ้มค่าจริงๆ…”
Mono Mobile
แหล่งรวบรวมคอนเทนต์คุณภาพ ทั้งในรูปแบบวิดีโอคลิป สามารถดูได้ทุกที่ ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง รองรับการใช้งานหลากหลายอุปกรณ์
Mono Technology
อาคารจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ทาวเวอร์ เลขที่ 200 หมู่ 4 ถนนแจ้งวัฒนะ ปากเกร็ด นนทบุรี 11120 เบอร์โทร 021007007
TAGS
บันเทิง, ข่าวสาร, ก็อซซิป, คลิปตลก, คลิปเด็ด, ดูดวง, เพลงฮิต, เกม, ความรัก, กีฬา