หลังจากเหตุการณ์ท่อส่งน้ำมันของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด(มหาชน) เกิดการรั่วไหลกลางทะเลอ่าวไทย ตั้งแต่วันที่ 27ก.ค.ที่ผ่านมา จนส่งผลทำให้มีน้ำมันดิบจำนวนมากแพร่กระจายบนผิวน้ำเป็นบริเวณกว้าง ก่อนที่คราบน้ำมันดังกล่าวจะถูกซัดเข้าอ่าวพร้าว ในเกาะเสม็ด ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ รวมถึงการท่องเที่ยวของจ.ระยอง
จากนั้นได้มีชาวเน็ตรายหนึ่งได้ตั้งกระทู้ในเว็บบล็อกชื่อดังเชิญชวนคนไทยร่วมฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ด้วยการขอรับบริจาค เส้นผม หรือขนสัตว์ เพื่อนำมาทำเป็นทุ่นดูดซับคราบน้ำมันที่รั่วไหลอยู่ในทะเลขณะนี้ เนื่องจากเส้นผมมีคุณสมบัติสามารถได้
"เส้นผมของคนไทยทั้งชาติ สามารถช่วยเกาะเสม็ดได้ อย่ารีรอ!!!
ผมรักษ์ทะเล ขอแรงเพื่อนพ้องน้องพี่ เริ่มรวบรวมเส้นผมจากร้านตัดผม ร้านทำผม หรือจากที่ใดก็ได้ จะเอามาทำทุ่นดักน้ำมันที่รั่วไหลลงทะเล และกระจัดกระจายแถวๆ ระยอง เกาะเสม็ด เชื่อมั่นว่าพลังภาคประชาชนสามารถช่วยเหลือวิกฤตชาติได้เมื่อถึงเวลา รบกวนบอกต่อๆ ไป
เพื่อช่วยกันติดต่อและรวบรวม ใส่ในถุงน่องเก่า มัดเป็นรูปทรงไส้กรอก เราจะนำมาต่อกันไล่ดูดซับน้ำมันที่ ปตท.ทำรั่วทิ้งไว้ ช่วยกันบอกต่อ ช่วยกันทำไส้กรอกเส้นผม ช่วยประเทศไทยกันนะครับ ดูประสิทธิภาพได้จากคลิปครับ
ส่งไปที่ ทีมอาสาระยองช่วยฟื้นฟูหาดระยอง บริษัทแอซซ่าเอ็นจิเนียริ่งแอนด์เซอร์วิส จำกัด 104/6 หมู่7 ตำบล ทับมา อำเภอ เมือง จังหวัด ระยอง 21000 เราเชื่อว่า ทุกคนสามารถช่วยอ่าวไทยให้กลับมาสดใสอย่างเดิมได้ ช่วยกันแชร์ต่อๆ ไปนะคะ"
ซึ่งเมื่อข้อความดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไปก็ทำให้มีคนนำบทความดังกล่าวไปแชร์ต่อในสังคมออนไลน์มากมาย จนมีคนได้ตั้งข้อสงสัยว่าเส้นผม และขนสัตว์สามารถดูดซับคราบน้ำมันได้จริงหรือไม่ ?
ก่อนที่นักวิชาการและผู้เชียวชาญหลายคน จะออกมาไขคำตอบขยายข้อสงสัย ว่า เส้นผมสามารถดูดซับน้ำมันได้จริง แต่ทำได้ในปริมาณน้อย หรือนิยมทำกันในครัวเรือนเท่านั้น ไม่สามารถนำมาใช้กับคราบน้ำมันที่ลอยอยู่ในทะเลได้
เพราะมันจะทำให้คราบน้ำมันกระจายวงกว้างออกไปกว่าเดิม อีกทั้งการเก็บกำจัดเส้นผมเหล่านั้นก็ทำได้ยาก เนื่องจากเส้นผมดูดเอาน้ำมามากจะทำให้หนักและจมลง จนทำให้เป็นการเพิ่มมลภาะทางทะเลขึ้นไปอีก
โดยยกตัวอย่างการกำจัดคราบน้ำมันที่รั่วไหลในอ่าวเม็กซิโก ของบริษัทบีพี ในปี 2010 ที่เคยใช้วิธีนี้ในการจัดเก็บ แต่ก็ต้องยกเลิกไปเพราะเหตุผลดังกล่าวข้างต้นนั่นเอง
