โฆษกกองทัพภาคที่ 3 ยืนยัน เฮลิคอปเตอร์ที่ตก รุ่น เบลล์ 212 ใช้งานได้ 30 ปี คาดเครื่องยนต์ขัดข้อง ขณะที่พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ช่วงบ่ายวันนี้
จากเหตุการณ์สุดสลด เฮลิคอปเตอร์คณะตรวจราชการของพล.ต.ทรงพล ทองจีน รองแม่ทัพภาค 3 ประสบอุบัติเหตุตก ที่บริเวณบ้านดอกบัว ต.ท่าวังทอง อ.เมือง จ.พะเยา
จนเป็นเหตุทำให้เจ้าหน้าที่ทหารทั้งหมดที่เดินไปกับเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวเสียชีวิตยกลำ ขณะกำลังเดินทางกลับหลังไปปฏิบัติภารกิจนั้น
พล.ต.ธนา จารุวัต โฆษกกองทัพภาคที่ 3 เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด กรณีเฮลิคอปเตอร์ รุ่น เบลล์ 212 ของคณะ พล.ต.ทรงพล ทองจีน รองแม่ทัพภาคที่ 3 ตกกลางทุ่ง บ้านเจอบัว ต.ท่าวังทอง อ.เมือง จ.พะเยา จากเหตุการณ์ ฮ.ตก ครั้งนี้ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต รวม 9 นาย เบื้องต้นคาดว่าเครื่องยนต์ขัดข้อง
ทั้งนี้ คณะกรรมการนิรภัยการบิน ศูนย์การบินทหารบก จ.ลพบุรี จะลงพื้นที่ตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง นอกจากนี้ พล.ต.ธนา ยืนยันว่า เฮลิคอปเตอร์ รุ่น เบลล์ 212 ยังมีประสิทธิภาพดี สามารถใช้งานถึง 30 ปี และจะใช้งานต่อไป ที่ผ่านมาทางกองทัพบกดูแลบำรุงรักษาเป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม โฆษกกองทัพภาคที่ 3 กล่าวต่อว่า วันนี้ในเวลา 13.00 น. จะมีพีธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ แก่เจ้าหน้าที่ทหารทั้ง 9 นาย ที่ วัดคูหาสวรรค์ จ.พิษณุโลก
ในขณะที่โลกออนไลน์ได้มีการเผยแพร่ภาพข้อความสุดท้ายของ 1 ในผู้เสียชีวิต คือ จ.ส.อ.อนันต์ ชมเชียงคำ(ชรก.ผยย.ทภ.3) ที่ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ก่อนจะทำการขึ้นบิน โดยระบุว่า
“ได้เวลาเย้ยฟ้า ท้าลมหนาวอีกแล้ว …. ฮ.เก่า นักบินใหม่ …. อากาศปิด ประตูนรกเปิด”
“เป็นปลื้มอีกแล้ว รองมท. 3 มาขอจับมือ”
“Let’s go to phetchabun…”
ทั้งนี้จากเหตุที่เกิดขึ้นนับว่าเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สลดสุดสะเทือนขวัญ หลังก่อนหน้านี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อปี 2554 ที่แก่งกระจาน ซึ่งคราวนั้นทำให้สูญเสียนายทหารคนสำคัญไปถึง 16 คน
