คลิปวินาที ปริศนา!! เครื่องบินของสายแอร์เอเชีย ได้หายไปจากจอเรดาห์ ระหว่างบินสุราบายา อินโดนีเชีย ไปสิงคโปร์
เมื่อวันที่ (28ธ.ค.) มีรายงานว่า เครื่องบินแอร์เอเชีย เที่ยวบิน QZ8501 เดินทางจากสุราบายาของอินโดนีเชียไปสิงค์โปร์ ได้ขาดการติดต่อ หายไปจากจอเรดาห์
หลังได้บินขึ้นฟ้าในช่วงเวลาประมาณ 05.30น. ตามเวลาท้องถิ่น ของวันที่ 28 ธันวาคม 2557 และมีกำหนดจะเดินทางสู่จุดหมายที่สนามบินนานาชาติชางงี เวลา 08.30 น. ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือ 162 คนยังไม่ทราบชะตากรรม
ขณะที่ทางแอร์เอเชียได้ออกแถลงการณ์ยอมรับ และเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมสั่งหน่วยกู้ภัย เร่งติดตามหาเครื่องบินลำดังกล่าวให้เร็วที่สุด ขณะที่สถานทูตไทย ในอินโดนีเชีย ยืนยันไม่มีคนไทยโดยสารไปเครื่องบินลำดังกล่าวแต่อย่างใด
รายชื่อผู้โดยสารทั้งหมด บนเที่ยวบิน QZ8501
จนกระทั่ง เวลา 13.00 น. กต. ยันไม่มีคนไทยบนเครื่อง แอร์เอเชีย QZ8501
เพจ AirAsiaThailand ได้ออกมาชี้แจงผ่านเฟซบุ๊คว่า สายการบินแอร์เอเชียอินโดนีเซีย จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องยืนยันว่าเที่ยวบิน QZ8501 ซึ่งออกเดินทางจากสุราบายา สู่ สิงคโปร์ ได้ขาดการติดต่อกับหอบังคับการบิน เมื่อเวลา 7.24 น. (ตามเวลาท้องถิ่นเมืองสุราบายา) เช้าวันนี้ (28 ธ.ค. 2557) เที่ยวบินดังกล่าวออกเดินทางจากสนามบินจูอันดา เมืองสุราบายา เมื่อเวลา 05.35 น. ตามเวลาท้องถิ่น
เครื่องบินที่ให้บริการเที่ยวบินนี้คือ แอร์บัส เอ320-200 หมายเลขเครื่อง PK-AXC โดยมีนักบินจำนวน 2 คน พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน 4 คน และวิศกรอากาศยาน 1 คนกัปตันผู้ควบคุมเครื่องบินมีชั่วโมงบินทั้งสิ้น 6,100 ชั่วโมง ส่วนนักบินผู้ช่วยมีชั่วโมงบินทั้งสิ้น 2,275 ชั่วโมง
เที่ยวบินนี้มีผู้โดยสารทิ้งสิ้น 155 คน แบ่งเป็นผู้ใหญ่ 138 คน เด็ก 16 คน และทารก 1 คน รวมทั้งนักบิน 2 คนและลูกเรือ 5 คน
ผู้โดยสารบนเที่ยวบินนี้ ประกอบด้วย ชาวสิงคโปร์ 1 คน ชาวอังกฤษ 1 คน ชาวมาเลเซีย 1 คน ชาวเกาหลีใต้ 3 คน ชาวฝรั่งเศส 1 คน (นักบินผู้ช่วย) และชาวอินโดนีเซีย 155 คน
ขณะนี้ ทีมค้นหาและช่วยเหลือกำลังเร่งทำงานภายใต้คำแนะนำจากสถาบันการบินพลเรือนของ อินโดนีเซีย (Indonesia of Civil Aviation Authority หรือ CAA)
และแอร์เอเชียอินโดนีเซียได้ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในทุกทาง เครื่องบิน ทำการบินตามเส้นทางที่ได้แจ้งไว้ ก่อนจะถูกขอให้เบี่ยงออกจากเส้นทางระหว่างทางเนื่องจากสภาพอากาศ ก่อนจะขาดการสื่อสารกับหอบังคับการบิน
ขณะนั้นยังอยู่ในการควบคุมของหอบังคับการบินอินโดนีเซีย (Indonesian Air Traffic Control หรือ ATC) สายการบินแอร์เอเชียอินโดนีเซียได้จัดเตรียมหมายเลขฉุกเฉินสำหรับครอบ ครัวและญาติของผู้โดยสารบนเที่ยวบินดังกล่าวเพื่อสอบถามข้อมูลที่ หมายเลข : +622129850801 ทันทีที่แอร์เอเชียอินโดนีเซียมีข้อมูลเพิ่มเติม เราจะแจ้งให้ทราบโดยทันที โดยสามารถติดตามได้ที่ www.airasia.com
หมายเหตุถึงกองบรรณาธิการ: เราขอสงวนเบอร์สายด่วนแอร์เอเชียฉุกเฉินไว้สำหรับเฉพาะให้ครอบครัวและญาติของผู้โดยสารบนเที่ยวบินนี้เท่านั้น
ต่อมาเมื่อ เวลา 17.30 น. ของวันที่ (28 ธ.ค. 57) รมว.คค.มาเลย์แถลงยันยังไม่พบแอร์เอเชียQZ8501วอนอย่าเชื่อข่าวลือ/ หวาดเสียว! อีกลำ AirAsia AK6242 ปีนัง-ลังกาวี ขอลงจอดฉุกเฉิน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ของมาเลเชีย ได้ออกแถลงการณ์ถึงความคืบหน้าการค้นหน้าเครื่องบินแอร์เอเชีย เที่ยวบิน QZ8501 ได้หายไปจากจอเรดาห์ระหว่างบินจากสุราบายา ไปสิงคโปร์ ว่า
ขณะนี้การค้นหายังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และยังไม่มีการยืนยันว่าพบเครื่องบินลำดังกล่าว ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าเชื่อกับข่าวที่ออกมาในช่วงนี้
นอกจากนี้รายงานยังได้ระบุต่ออีกว่า ในเวลาประมาณ 16.50 น. ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุระทึกขึ้นกับเครื่องบินสายการบินแอร์เอเชียอีกครั้ง เมื่อเครื่องAK6242 เดินทางจากปีนังไปลังกาวี ขอบินวนกลับลงจอดฉุกเฉิน เนื่องจากเกิดปัญหาขัดข้องทางเทคนิคด้วย
ล่าสุดวันนี้ (29 ธ.ค.57) ปฏิบัติการค้นหาเครื่องบินแอร์ เอเชีย QZ8501 เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง โดยแบ่งพื้นที่สำรวจเป็น 7 ส่วน บริเวณทะเลชวา หลังจากหยุดค้นหาไปในช่วงกลางคืน
แม้จะมีเรือจากทางการบางลำยังคงค้นหาต่อเนื่องในช่วงกลางคืนอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าใด ยังคงไม่พบร่องรอยของเที่ยวบิน QZ5801
ด้านนายตาตัง คูร์นิอาดี รัฐมนตรีคมนาคมของอินโดนีเซีย ได้เปิดเผยว่า "ตอนนี้ภารกิจหลักของเราก็คือการค้นหาเครื่องบิน เราประสานความร่วมมือจากหลายฝ่ายเท่าที่จะทำได้ รวมถึงได้รับความช่วยเหลือจากประเทศต่าง ๆ อย่างเช่น หน่วยงานด้านการออกแบบและผลิตเครื่องบินจากฝรั่งเศส ทีมปฏิบัติการจากแอร์เอเชียและมาเลเซีย เป็นต้น"
สำหรับประเทศที่ร่วมช่วยเหลือปฏิบัติการค้นหาครั้งนี้ มีอินโดนีเซียเอง ได้นำเรือ 12 ลำ เฮลิคอปเตอร์ 3 ลำ และเครื่องบินกองทัพ 5 ลำ ออกค้นหา, มาเลเซียส่งเครื่องบินกองทัพ 1 ลำ พร้อมเรือ 3 ลำ, สิงคโปร์กำลังส่งเครื่องบินกองทัพ 3 ลำ และคาดว่าอาจจะได้รับการขอความช่วยเหลือเรื่องเรือเพิ่มในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งสิงคโปร์ก็ได้เตรียมไว้แล้วเช่นกัน
