ด้วยภาพลักษณ์ของความเป็นพระเอกภาพยนตร์อารมณ์ดี ติสท์ๆ แนวๆ ในแบบฉบับของตัวเอง กลายเป็นเสน่ห์ที่หนุ่มเต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี มีในสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งนอกจากจะประสบความสำเร็จในฐานะนักแสดงภาพยนตร์แล้ว อีกบทบาทหนึ่งที่เต๋อยอมรับว่าเป็นบทบาทที่ตัวเองหลงรักเช่นกัน นั่นคือ การเป็นนักเขียนบทมือทอง จากการร่ำเรียนเก็บเกี่ยวความฟุ้งซ่านจากเอกฟิล์ม คณะนิเทศฯ จุฬา จนพาหนังฮิตติดอันดับทำเงินมานับเป็นถ้วน
เต๋อในวันนี้ กับก่อนเข้ามหาวิทยาลัย มีความเป็นคนละคนกันสูงมาก
ตอนม.ปลายเป็นเด็กเนิร์ด เรียนสายวิทย์ แล้วมีจุดเปลี่ยนตอนไปดูหนังเรื่อง BRAVE HEART ที่เมล กิบสันเล่น ปกติเป็นคนชอบดูหนังตั้งแต่เด็ก ก็คิดว่าเรื่องนี้เป็นแนวแอกชั่น ปรากฏว่ามันมีดราม่าด้วย มันจี๊ดมาก เขาทำได้ยังไง อยากทำอย่างนี้บ้าง ก็เลยไปค้นหาข้อมูลเจอสาขาภาพยนตร์และภาพนิ่งที่จุฬาฯ ตอนนั้นผมมาคิดว่า ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา เราก็เรียนได้ แต่ไม่ได้ชอบขนาดนั้น เราเข้ามหา'ลัยเรียนในด้านที่ไม่ได้ชอบ จบมาก็ทำงานในสิ่งที่เราไม่ได้ชอบขนาดนั้นไปทั้งชีวิต ก็เลยรู้สึกว่า ไปหาอะไรที่เราชอบขนาดนั้นดีกว่า เลยตัดสินใจจะเอนท์เข้าเรียนที่นี่ แล้วบังเอิญที่คณะมีสอบวิชาเลขสอง ก็คิดว่าเราน่าจะเก่งกว่าเด็กสายศิลป์ แต่ก็ต้องอ่านสังคม ภาษาไทยเพิ่มด้วย สุดท้ายก็ติด แต่ระหว่างที่เปลี่ยนสาย ก็คุยกับแม่อยู่นานเหมือนกัน แม่เขาอดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะตอนนั้นอาชีพนี้ยังไม่มี เขาก็ไม่รู้ว่าจบไปจะทำงานอะไร
ค้นพบความเป็นเด็กแนวผสมผสานในแบบตัวเอง
ผมว่าเด็กนิเทศฯ จะมีความเป็นเด็กแนวที่มั่วซั่วสูง อย่างสถาปัตย์จะเป็นผู้ชายเซอร์ๆ หน่อย วาดรูปเก่ง ส่วนครุ อาร์ตก็น่าจะเกินสถาปัตย์ อาจจะมีสร้อย กำไล เจาะหู วาดรูปเก่งกว่าสถาปัตย์ เป็นแนวศิลปินจริงๆ แต่นิเทศฯ นี่มั่วไปหมด (หัวเราะ) มีทั้งคนที่ตั้งใจเรียนมาก คนที่เป็นแบบสถาปัตย์ หรือครุอาร์ตก็มี แต่ตอนเรียนผมเป็นนักศึกษาที่ขี้เกียจมาก คือไม่ชอบเรียนรู้พวกวิชาจัดไฟ ไฟมีองค์ประกอบอะไร กล้องภาพยนตร์ กล้องฟิล์มโหลดยังไง แต่ชอบในส่วนของการเขียนบท กำกับ แสดงมากกว่า แต่คือด้วยความที่เราไม่ได้รู้สึกว่ากำลังเรียนอยู่ไง ไม่ได้มีความเครียดกับการอ่านหนังสือ สุดท้ายจบมาได้เกรดเฉลี่ย 3.00 พอดี ก็โอเค เพราะไม่ได้หวังเกียรตินิยมอยู่แล้ว
จากนักศึกษานิเทศฯ นักกิจกรรม จนได้ออกมาเจอโลกแห่งความเป็นจริงในการทำงานครั้งแรก
จบใหม่ๆ ทำงานแรก คือ งานถือวิดีโอหน้าโรงหนัง คอยสัมภาษณ์คนที่ดูหนังว่าเขาชอบไม่ชอบ แล้วก็เอาคลิปไปตัดต่อ ฉายหน้าโรงหนัง สนุกดี ได้วันละ 500 บาท แล้วพอดีมีช่วงที่แก๊งแฟนฉันโด่งดังขึ้นมา ก็เริ่มมีคนทำหนังเยอะขึ้น ก็เลยได้ทำงานให้แกรมมี่ฟิล์ม ก่อนที่เขาจะรวมบริษัทกันเป็น GTH ตอนแรกที่ไปทำงานผมรู้สึกเท่ นักศึกษาทำงานได้เงิน แต่จริงๆ ตอนหลังก็มารับรู้ว่าเงินที่ได้มามันน้อยเหมือนกัน (ฮา) แล้วก็ได้เรียนรู้อีกอย่างว่า สิ่งที่เราเรียนกับสิ่งที่เราไปทำงานจริงๆ มันไม่เหมือนกัน มันต้องปรับเยอะมาก อย่างตอนที่เราเรียนในห้องเรียน เราได้วิชาเขียนบท A A+ ตลอด เป็นมาสเตอร์พีชของวงการเขียนบทในห้องเรียน แต่พอเราออกมาจากห้อง เราเอาสิ่งที่เราได้ A A+ มาทำไม่ได้ มาตรฐานในห้องเรียนกับมาตรฐานในความเป็นจริงมันต่างกันมาก คือในห้องเรียนเราสามารถคิดบทหนังอะไรก็ได้ ให้น่าสนใจ อย่างเช่น เขียนบทฉากจรวดยิงขึ้นฟ้าระเบิด ปัง! นักบินอวกาศไล่ยิงเอเลี่ยน อาจารย์บอก โอ้โห ฉากนี้ดี ผมชอบ คุณเอา A ไป แต่ถ้าผมไปเขียนฉากนี้ขายค่าย ใครเขาจะทำ นึกออกมั้ย สิ่งที่คิดว่าดี จริงๆ แล้วมันมีดีกว่านั้นมาก ดังนั้น ตอนผมเขียนเรื่องบทแรก ก็ใช้เวลาเขียนกับเพื่อนๆ ในเอกถึงสองปีเต็ม เสร็จแล้วพอเอามานั่งดูก็ยังรู้สึกว่าตัวเองน่าจะทำได้ดีกว่านี้ ตอนทำงานใหม่ๆ รู้เลยว่าตัวเองยังเก่งไม่พอ เราเก่งแต่ในห้องเรียนจริงๆ
แนวคิดติสท์ๆ ในการใช้ชีวิตฉบับเต๋อ-ฉันทวิชช์
เมื่อก่อนผมมีคติประจำใจว่า พยายามทำทุกวันให้เป็นเหมือนวันสุดท้ายของชีวิต เมื่อเวลานั้นผ่านไป เราจะได้ไม่ต้องกลับมานั่งนึกว่า ทำไมวันนั้นเราไม่ทำอย่างนั้น สิ่งนี้ทำให้ผมรู้สึกมีความสุข แต่พอผมเริ่มโตขึ้น กลับรู้สึกว่าชอบอยู่บ้านมากกว่า เพราะเราทำอะไรมาเยอะแล้ว ก็เลยรู้สึกว่าสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรา คือ ความพอดีนั่นแหละ หมายถึง การที่เราได้ใช้ชีวิตหนึ่งวัน โดยตั้งโจทย์ว่าวันนี้จะเป็นวันที่เรามีความสุข แล้วหาอะไรที่เราทำแล้วมีความสุขในวันนั้น แค่นี้ ทุกวันมันก็มีความสุขหมดแล้ว อย่างเรื่องล่าสุด “แฟนเดย์...แฟนกันแค่วันเดียว” บทบาทก็เปลี่ยนไปมาก ผมอยากเล่นแนวดราม่าบ้าง แต่ก็ต้องไปทำการบ้านเยอะมาก อย่างกายภาพก็ต้องทำผมหยิก ไปหล่อให้ฟันเก บุคลิกต้องเนิร์ด เก่งเรื่องคอม ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง ซึ่งแรกๆ ยาก แต่พอทำไปสักพักก็เริ่มชิน ก็คาดหวังว่าคนดูว่าเป็นผม แต่ให้รู้สึกว่าเป็นตัวละคร “เด่นชัย” ในเรื่อง เพราะถ้าคนดูหนัง แล้วยังเห็นว่าเป็นเต๋ออยู่ ผมจะถือว่าผมล้มเหลวโดยสิ้นเชิง นี่คือเป้าหมายสูงสุดตอนนี้ของผมเลย
Mono Mobile
แหล่งรวบรวมคอนเทนต์คุณภาพ ทั้งในรูปแบบวิดีโอคลิป สามารถดูได้ทุกที่ ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง รองรับการใช้งานหลากหลายอุปกรณ์
Mono Technology
อาคารจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ทาวเวอร์ เลขที่ 200 หมู่ 4 ถนนแจ้งวัฒนะ ปากเกร็ด นนทบุรี 11120 เบอร์โทร 021007007
TAGS
บันเทิง, ข่าวสาร, ก็อซซิป, คลิปตลก, คลิปเด็ด, ดูดวง, เพลงฮิต, เกม, ความรัก, กีฬา