ADVISE

คณะการแพทย์แผนไทย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มุ่งผลิตบัณฑิตทางด้านการแพทย์แผนไทย ที่สามารถนำความรู้และทักษะทางด้านการแพทย์แผนไทย ไปประกอบวิชาชีพได้เป็นอย่างดี สามารถพัฒนาองค์ความรู้ทางด้านการแพทย์แผนไทย และผสมผสานความรู้ทางด้านแพทย์แผนไทยและแผนปัจจุบันให้เกิดเป็นความรู้ที่เอื้อประโยชน์ต่อสังคมและการพึ่งตนเองด้านสุขภาพ

DERIVATION

การแพทย์แผนไทย เป็นการแพทย์ที่อยู่คู่กับสังคมไทยมาตั้งแต่อดีต เป็นการแพทย์ที่อาศัยความรู้และภูมิปัญญาของคนไทยที่ได้ทดลอง ปฏิบัติจริง แล้วได้ผลสะสมถ่ายทอดสืบต่อกันมา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์จัดเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำในภาคใต้ และมีปณิธานที่จะให้เป็นที่พึ่งของสังคม จึงเห็นว่าควรจะมีบทบาทที่จะจัดการศึกษาศาสตร์ทางด้านการแพทย์แผนไทยในระดับอุดมศึกษา จึงได้มีการบรรจุหลักสูตรการแพทย์แผนไทยไว้ในแผนฯ 9 ของมหาวิทยาลัย และได้ดำเนินการเพื่อจัดทำหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการแพทย์แผนไทย โดยหลักสูตรดังกล่าวได้ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมสภาวิชาการ เมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2547

SYLLABUS

คณะการแพทย์แผนไทย เปิดสอนหลักสูตรการแพทย์แผนไทยบัณฑิต ประกอบด้วย 4 หลักวิชา ดังนี้

1. เวชกรรมไทย :

เกี่ยวกับการตรวจโรค การหาสาเหตุของการเกิดโรค การวางแผนการรักษาโรค และการตั้งตำรับยารักษาโรค

1. เภสัชกรรมไทย :

เกี่ยวกับเภสัชวัตถุ สรรพคุณเภสัช คณาเภสัช และเภสัชกรรม (การปรุงยาแผนไทย)

1. ผดุงครรภ์ไทย :

เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพแม่และเด็ก ทั้งก่อน-ระหว่าง-หลังคลอด

1. นวดไทย :

เกี่ยวกับการนวดพื้นฐาน นวดราชสำนัก นวดเพื่อการรักษา นวดไทยทักษิณ นวดบริการสุขภาพ

 

MOD-TARO

PRINCE & PRINCESS TTMed 

 ถ้าพูดถึงการแพทย์สไตล์ไทยๆ ในปัจจุบันการเรียนในส่วนนี้กำลังเริ่มเป็นที่สนใจมากขึ้น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ จึงได้เปิดคณะการแพทย์แผนไทยขึ้นมา ซึ่งจะมีวิชาการเรียนน่าสนใจยังไงบ้าง ดาวเดือนขวัญใจชาวคณะมด-อินทิพร ห่วงเอี่ยม และทาโร่-ศุภกร คาโดกิ ทาโร่ จะพาเราไปเข้าคลาสเพื่อดูการสอนอย่างใกล้ชิดกันเลยทีเดียว  

ความสนใจที่ตรงกันของสาวใต้กับหนุ่มกรุงเทพ

ทาโร่ : ที่เลือกสาขานี้ เพราะแม่แนะนำว่าตอนนี้เรื่องการแพทย์แผนไทยกำลังเริ่มบูมขึ้น แต่ตอนแรกผมลังเลและมีอคติว่าแพทย์แผนไทยกับหมอนวดจะคล้ายกันหรือเปล่า คือเราคิดไปเองก่อน แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเดินทางจากกรุงเทพมาที่หาดใหญ่ ลงเรียนดู

มด : หนูเป็นคนหาดใหญ่ค่ะ แล้วก็เห็นว่าที่มอ.มีเปิดคณะนี้ มันน่าสนใจดี อยากเรียนเกี่ยวกับสมุนไพร เกี่ยวกับการนวดต่างๆ พอมาเรียนจริงๆ ก็เหนื่อย (หัวเราะ) แต่ก็ได้ความรู้เยอะมาก ทั้งแพทย์แผนไทยแล้วก็แผนปัจจุบันด้วย

พื้นฐานการแพทย์แผนไทย ศาสตร์ใหม่ที่ได้มาเรียน

ทาโร่ : ปีหนึ่งจะเรียนเบาหน่อย เพราะเรียนพื้นฐานสุขภาพทั่วไป แต่ปีสองจะหนักขึ้น เพราะต้องลงรายละเอียดพวกสรรพคุณสมุนไพร การรักษาโรค การผดุงครรภ์ไทย เราเรียนคล้ายแพทย์ทั่วไปนะ แต่จะไม่ผ่าตัด เน้นการใช้ธรรมชาติบำบัด อย่างตอนทำคลอด ของฝรั่งเวลาผ่าตัดเสร็จ ก็จะให้คุณแม่นอนพักธรรมดา แต่ของไทยจะมีการนั่งอยู่ไฟเข้ามา หรือเวลาตรวจร่างกายคนไข้ จะมีการถามวันเดือนปีเกิดด้วย คล้ายๆ ดูดวงเลย ว่าคนไข้ราศีอะไร ธาตุอะไร เหมาะกับการกินแบบไหน การนวดก็ได้เรียนแล้ว ตอนแรกแอบอายอยู่บ้าง ว่าผู้ชายต้องทำด้วยหรอ แต่พอทำจริงๆ แล้วมันก็คือการแพทย์นะ เป็นการรักษาคนไข้เต็มตัว ในคลาสอาจารย์จะให้จับคู่นวดกันจริงๆ แรกๆ กลัวเหมือนกัน กลัวเพื่อนจะกดผิดจุด จะพิการไป (หัวเราะ)

เทคนิคส่วนตัวหนุ่มสาวรุ่นใหม่หัวใจไทย

ทาโร่-มด : อย่างที่บอกว่าเนื้อหาเยอะ คือมันจะมีเป็นคัมภีร์ตำรายาหนาๆ เป็นเหมือนใบลานมาทับกันอะ ในนั้นก็จะมีวิธีรวบรวมให้เราจำง่าย เช่น มีคำคล้องจองต่างๆ แต่ก็คือมีอักษรเขมรด้วย ก็เลยจะมีเรียนวิชาเขมร เพื่ออ่านตำรานี้ พอใกล้สอบ เราก็จะจดรวบรวมในสไตล์ของเราอีกรอบ เพื่อมาอ่านทบทวน คลาสสมุนไพรบางทีก็มีถ่ายรูปเก็บไว้เผื่อกลับมาดูทีหลัง ส่วนคลาสนวด อาจารย์บอกว่าต้องฝึกนวดบ่อยๆ ถึงจะดี ก็มีกลับไปนวดแม่ที่บ้านบ้าง

เรียนคณะนี้ต้องอึดและสตรอง

ทาโร่-มด : ในคณะส่วนใหญ่ผู้หญิงจะเยอะกว่า แต่ว่าผู้หญิงคณะเราต้องอึดและทนจริงๆ (หัวเราะ) เพราะว่าต้องใช้แรงนวดให้มากที่สุด จะมาอ่อนปวกเปียกไม่ได้ ผู้หญิงคณะนี้เลยจะแข็งแรงกว่าผู้ชายซะอีก (ฮา) ปกติต้องเป็นผู้ชายเล่นฟิตเนส แต่อันนี้ผู้หญิงคณะเรานี่แหละเล่นบ่อย แต่นอกจากความอึดแล้ว ก็ได้เรียนรู้เรื่องมารยาท วัฒนธรรมแบบไทยๆ เยอะ คือพอได้เรียนประวัติศาสตร์ไทย ก็ทำให้เราเริ่มซึมซับไปเรื่อยๆ อย่างคณะจะมีเอกลักษณ์การไหว้ จะไม่พูดว่าสวัสดีเฉยๆ แต่พูดว่า “อัญชลี วันทา อัญชลี การแพทย์แผนไทย สวัสดีครับ สวัสดีค่ะ” อาจารย์จะปลูกฝังให้เราทำทุกครั้ง เหมือนเป็นมารยาทที่ต้องรักษาไว้

ความเป็นคณะการแพทย์แผนไทยที่อยากให้น้องๆ เข้ามาศึกษาบ้าง

ทาโร่-มด : สำหรับคณะการแพทย์แผนไทย มันไม่ใช่แค่เรื่องสุขภาพ หรือการนวดอย่างเดียว เรามีความแตกต่างมากกว่านั้น เราเรียนเพื่อเป็นหมอ เรียนเพื่อต้องการรักษาคนไข้ ทำให้คนไข้อยู่ดีกินดี มีสุขภาพแข็งแรง ก็อยากให้น้องๆ เปิดใจ ลองเข้ามาเรียนกัน ตอนนี้โลกของเราพัฒนาขึ้น ด้านสมุนไพรบำบัดหรือการนวดรักษาโรคก็เริ่มเด่นมากขึ้น มันก็เป็นวัฒนธรรมเก่าๆ ของคนโบราณที่สืบสานขึ้นมาแล้วสามารถจะมาประยุกต์ใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อไปได้ เป็นการดำรงรักษาประเพณีของไทยไว้ไม่ให้มันหายไป