ไอดอลสุดฮอตของวัยรุ่นไทยยุค2018 ต่อ-ธนภพ ลีรัตนขจร ที่นอกจากโครงหน้าความหล่อเท่สไตล์เกาหลี ความสามารถที่ไม่เบาตั้งแต่การแจ้งเกิดจากบทวัยรุ่นสุดเกเร “ไผ่ ฮอร์โมน” จนต่อมาอีกหลายๆ เรื่อง และล่าสุดกับบทพี่ยิม หนุ่มออทิสติก พลิกคาแรกเตอร์ให้คนได้อินไปในทุกบทบาทการแสดงทำให้หนุ่มคนนี้ไม่ได้มีดีแค่หน้าตาแน่นอน แคมปัสฉบับเดือนกุมภาพันธ์เลยขอจับต่อมาหล่อในเซ็ตแฟชั่นสายเกาเบาๆก่อนจะตามไปค้นลึกถึงชีวิตหลังจากเพิ่งได้เป็นบัณฑิตมาหมาดๆมุมมองชีวิตต่อไปจากนี้ รวมถึงสะกิดหัวใจในวันแห่งความรักที่บังเอิญไปตรงกับวันเกิดพอดิบพอดี
เรื่องที่คนถามบ่อยที่สุดตอนนี้คือแพลนหลังเรียนจบต่อไปจะเป็นยังไง
ก็เพิ่งจบได้ไม่นาน (คณะอุตสาหกรรมเกษตร (ภาคพิเศษ) ภาควิชาเทคโนโลยีการบรรจุและวัสดุ ม.เกษตรศาสตร์) คิดว่าคงจะเรียนโทต่อแน่ๆ ผมว่าเดี๋ยวนี้ทางเลือกการเรียนมันเยอะขึ้น เราไม่จำเป็นต้องไปต่อเมืองนอกหรือไปอะไรที่เป็นป.โทขนาดนั้น มันมีการเรียนที่เป็นการเอาใบ Certificate เฉยๆ ซึ่งมันตอบโจทย์มาก ปรึกษาที่บ้าน คุณอาที่ทำงานในแวดวงนี้เหมือนกัน เขาก็ไม่มีเวลา ก็ใช้วิธีว่าอยากรู้อะไรแล้วไปเรียนเจาะมันซึ่งใช้เวลาน้อยกว่าปริญญาโทที่อาจจะสองปี อันนี้อาจจะแค่หกเดือน ซึ่งที่มองอยู่ก็น่าจะเป็นเรื่องของการ Manage ก็น่าจะดี
ถ้าย้อนเวลากลับไป คิดว่าได้อะไรจากคณะที่เราเรียนและได้ประสบการณ์อะไรจากชีวิตในมหา’ลัยบ้าง
จริงๆ ผม Proud to Present มากเลยนะ คณะที่เราเรียนมา เราไม่เคยเรียนคณะอื่นแต่ในความเข้าใจของเราคือเป็นคณะที่ได้ใช้ความรู้ตั้งแต่ปีหนึ่งถึงปีสี่จริงๆ ผมรู้สึกว่ามันหายาก มันไม่ได้มีทุกคณะที่ได้ใช้ทุกอย่าง สิ่งที่เราได้จากคณะนี้คือความระมัดระวังในการใช้ชีวิต ต้องบอกเลยว่ายุคนี้แพคเกจจิ้งมันโตไวมาก แล้วมันไปอยู่ในทุกอย่าง กินข้าวอะ ถ้าอยู่ตามกองข้าวกล่อง โดนและ..แพคเกจจิ้ง แม้แต่จานหรืออะไรก็ตาม พอเราได้เรียนรู้ถึงพวกวัสดุเบื้องต้น เช่น พลาสติก โลหะ แก้ว มันจะรู้หมดเลย รู้ถึงประโยชน์และโทษ พอกินน้ำปั๊บพลิกดูตรงตูดพลาสติก เด็กแพคเกจจิ้งจะแบบ เอ้ย ใช้พลาสติกถูกเปล่าเนี่ย อะไรแบบนี้ เหมือนเรารู้ว่ามีสารพิษอะจริงๆ แล้วมันมีโทษหมดทุกอย่าง เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้คนเราควรรักษาสุขภาพไง ถ้าสุขภาพดี ทุกอย่างก็โอเค อีกอย่างที่เราได้เรียนรู้คือการได้รู้จักเอาตัวรอด คำจำกัดความที่ผมให้มหา’ลัย หนีไม่พ้นคำว่าเอาตัวรอดจริงๆ ไม่ใช่เรื่องเรียน ไม่ใช่เรื่องอะไรใหม่ๆ ไม่ใช่เรื่องเพื่อนด้วย ผมรู้สึกว่าพอจบมหา’ลัยปั๊บ เหมือนเรามีความจบหลักสูตรชีวิตวัยเรียนประมาณหนึ่ง ถ้าเรามองย้อนกลับไปเพื่อนมหา’ลัยก็เป็นสังคมที่ช่วยเหลือกัน แต่ไม่ได้ช่วยขนาดนั้นอะ คือทุกคนต้องเอาตัวเองให้รอดก่อน ถามว่าต้องช่วยกันมั้ย ใช่ต้องช่วยกัน แต่ถ้าต้องเลือกก็ต้องเลือกตัวเองให้รอดด้วย นี่น่าจะเป็นประสบการณ์ที่อาจจะทำให้เราได้เป็นแลนมาร์คของมหา’ลัยก็ได้ (ยิ้ม) ประหลาดดีตอนปีแรกจำได้เพื่อนเคยเสิร์จชื่อผมใน Google Map แล้วมีคนเอาชื่อเราไปเป็นแลนมาร์คในมหา’ลัยด้วย คือแบบฮืมม (หัวเราะ)
ชีวิตดีขึ้นเมื่อได้เรียนจบเป็นบัณฑิตซะที
จากที่เคยรับงานไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ทุกวันนี้คือเปิดร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ยังไม่ค่อยคุ้นเท่าไหร่ ยังจบมาได้ไม่นาน ต้องปรับตัวอีก แต่คือคำว่าเปิดร้อยเปอร์เซ็นต์ มันก็ต้องเวทกับเวลาพักด้วย มนุษย์เราไม่ใช่หุ่นยนต์ให้ทำงานขนาดนั้นอาจจะไม่ไหว ปีที่แล้ว มีช่วงหนึ่งที่ร่างกายผมแย่มากเกือบน็อก เลยต้องรีบไปเช็กอัพตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล สรุปตอนนี้ก็กลับมาแข็งแรงขึ้น ก็แข็งแรงมากแต่ก็ต้องออกกำลังกายหนักขึ้น เพราะเมื่อก่อนพอทำงานเยอะ แล้วต้องเรียน ต้องสอบอีก พอไม่ได้ออกกำลังกาย มันก็อ่อนแอ เปลี้ย เดี๋ยวนี้เลยต้องทุ่มเวลาออกกำลังกายด้วยให้ร่างกายแข็งแรงอยู่ตลอดอนาคตตอนนี้ถ้าเรื่องงานก็เริ่มมองเรื่องความเจริญก้าวหน้า ยิ่งเรียนจบ ไฟมันเยอะมาก ผมอยากไปอีก ไม่ได้อยากหยุดแค่นี้ ถ้ามันมีโอกาส แต่คนที่ทำให้มันมีโอกาสไม่ใช่ผม ผมไม่สามารถสร้างโอกาสได้ด้วยตัวเอง แต่ถ้าวันนี้มันยังมี ผมก็จะพยายามไปต่อให้ไกลที่สุดเท่าที่เราจะไปได้ ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็เริ่มคิดรองรับอายุในอนาคต เพราะว่าทางนี้มันคงไม่ใช่อาชีพที่เป็นอมตะ เราน่าจะสนุกได้ถึงแค่ช่วงอายุหนึ่ง ก็มีหลายอย่างที่เราแพลนไว้ เป็นสิ่งที่เราคิดว่าเราอินแล้วอยากทำมันนอกเหนือจากทางนี้ อย่างผมรู้ตัวว่าผมชอบกางเกงยีนส์ จะมีอะไรที่มันอะแดปต่อได้หรือเปล่า เราก็คิดไปเรื่อย แต่ยังไงก็คือต้องเลี้ยงป๊าเลี้ยงแม่ได้ด้วยนะ
เคยคิดมั้ยว่าถ้าเราไม่ได้รับโอกาสจากพี่ย้งให้มาแสดงเป็น “ไผ่ ฮอร์โมน” ทุกวันนี้เราจะทำอะไรอยู่
เคยนะครับ เคยคิดว่าจริงๆ พาร์ทที่เราไม่ได้ทำงานก่อนหน้านั้น ชีวิตเราดีนะ ไม่ได้ดีในแง่หาเงินได้เยอะ หมายถึงว่ามีความสุขมากๆ อยู่แล้ว สิ่งนี้เลยเหมือนเป็นโบนัสชีวิตทุกวันนี้ที่ได้มา มันเป็นคำถามโคตรง่ายสำหรับผมแบบว่าถ้าผมไม่ได้เข้าวงการเป็นนักแสดง ผมไม่น่าจะเอนคณะนี้ ผมอาจจะไปอีกทางหนึ่งที่มันอาร์ตไปเลย รากฐานของผมมาจากถาปัด ผมว่าผมมีความเป็นเด็กถาปัด เมื่อก่อนผมติวพวกนี้จริงจังมาก คิดภาพตัวเองน่าจะเป็นเด็กอาร์ตเซอร์ๆ แต่พอเข้าวงการ พูดจริงๆ ดีกับน้องๆ ที่ได้อ่านคือ ผมเป็นตัวอย่างของคนไม่ตั้งใจเรียนแล้วกลับมาตั้งใจเรียน นั่นคือสิ่งที่อยากจะเตือน รู้สึกว่าเราผ่านมาแล้ว แล้วเรื่องบางเรื่องวัยรุ่นต้องลองเอง เชื่อพี่เหอะ เข้าใจที่พ่อแม่สอนแล้วว่ามันคืออะไร พูดง่ายๆ คือเราเป็นคนหนึ่งที่เรากลับตัวได้ แต่เรากลับตัวไม่ทัน เวลาเราไม่ได้มากเท่าไหร่ พอเรากลับตัวปั๊บ แล้วมันดันเข้ามาพร้อมงาน เราไม่มีอะไรตั้งตัวได้เลย เพราะฉะนั้น สิ่งที่เราทำได้คือเราต้องตะเกียกตะกายหาทางเข้าให้ได้ ซึ่งตอนแรกผมยอมรับว่าคณะที่เราจบมามันไม่ได้อยู่ในความคิดเราเลยว่าอยากเรียน แต่พอเราเข้ามาแล้ว ผมก็ใช้ความเชื่อ เชื่อในมัน พยายามเรียน พอเราเชื่อแล้วเดี๋ยวมันจะรับ จะเจอสิ่งที่มันอุ้ย ดีจัง คือตอนยื่นคะแนนสี่อันดับผมสอบไม่ติด แล้วตอนนั้นที่เลือก ปกติเด็กจะเลือกคะแนนเอาไปเทียบว่าชั้นอยู่ตรงไหน แต่ธนภพไม่เคยทำสิ่งนั้น ไม่เคยอยู่ในหัว รู้สึกว่าเฮ้ย เพื่อนทำอะไรกัน ไร้สาระ สำหรับผมความเท่เริ่มจากการที่มีคนพูดว่าสี่อันดับเนี่ย เป็นสิ่งที่เราเลือกครั้งเดียวในชีวิต แล้วพอมันเป็นครั้งเดียวในชีวิต ผมคิดภาพป้ายประกาศแบบที่มันติดตัวเรา ใช่..สี่อันดับนี้ต้องเท่ไว้ก่อน หนึ่งในนั้นก็มีสถาปัตย์ กับนิเทศฯ จุฬา ประมาณนั้น ก็เข้าใจตอนไม่ติดเลย ตอนนั้นก็ท้อแท้มาก โคตรนอยเลย มีความชีวิตวัยรุ่นพัง จากนั้นก็ต้องมาลองแอดมิดชั่นรอบสอง เอาคะแนนที่เรามีอยู่ไปยื่นใหม่
ตลอดชีวิตในวงการที่ได้เริ่มเข้ามาจนถึงตอนนี้ เรื่องอะไรที่คิดว่าประสบความสำเร็จสุดๆ และอะไรที่คิดว่าเฟลสุดๆ
ที่คิดว่าประสบความสำเร็จที่สุด คงเป็นตอนที่ผมเพิ่งเจอตอนเริ่มทำงานว่าผมชอบอะไร คือเคยเป็นคนไม่มีความฝัน พอได้ทำสิ่งนี้แล้วมันได้เจอว่าอ๋อ เราชอบอันนี้นี่เอง แต่ถ้าเรื่องเฟลที่สุดคือผมมีชีวิตที่ไม่ได้เป็นชีวิตของตัวเอง จริงๆ มันก็ไม่ใช่ชีวิตของเราแหละ แต่มันเป็นเอฟเฟคกัน เหมือนกันที่คนบอกว่าถ้าเราหาได้เยอะกว่าคนอื่น เราก็ต้องเสียมากกว่าคนอื่น ผมแค่เฟลกับสิ่งที่ผมเสียเฉยๆ เอาจริงๆ ตอนเล่นซีรีส์ฮอร์โมน ผมพูดตรงๆเลย คือ ผมเคยคิดแค่ว่ามาเล่นเฉยๆ แล้วก็จบ บทเราก็ไม่น่าจะมีอะไรอยู่แล้ว เผลอๆ คนน่าจะด่าพอตัว ก็เลยเล่นไป อ้าว ยาวเลย งงเลย แล้วครูแอกติ้งคนแรก ชื่อ ครูบิว เขาก็เป็นคนที่ทุบความรู้สึกของผม ทำให้ผมเจอว่าจริงๆ แล้วผมเป็นผู้ชายเซนซิทีฟ แล้วก็มี Material หลายอย่างที่ควรจะเอามาใช้ในการแสดง พอเราเชื่อเขาแล้วก็เริ่มจริงจังกับการแสดง เริ่มรู้สึกชอบมัน และสนุกกับมันมาก
ธนภพต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เข้าถึงทุกบทบาทตัวละคร
แต่ละบทที่ได้มา ผมจะยึดเสมอว่า ผมจะทำทุกอย่างที่ทำ ไม่ว่าอะไรก็ตามถ้ามันจะเกี่ยวข้องกับตัวละครตัวนี้ อย่างล่าสุดเล่นเป็นออทิสติก เราก็ต้องศึกษา ดูคลิป ดูบทสัมภาษณ์ แล้วหาโอกาสไปของจริงเลยได้มั้ย ไปทุกอย่าง (แล้วจบบทบาทนี้เราติดมาในชีวิตจริงบ้างมั้ย) ติด ไม่เหลือ ถ้าใครได้ดู (Project S The Series) Side by Side จะเข้าใจว่าทำไมผมติด คือเราอยู่กับมันนาน ใช้มันทุกวัน เป็นไปไม่ได้ที่เราจะไม่ติด แต่ถ้าเราเป็นนักแสดง แค่พอเราถ่ายเสร็จ เราต้องหาทางลบมันให้เร็วที่สุด เพราะเราก็จะต้องทำตัวใหม่มาลบมันเหมือนกัน เพราะถ้าผมติด คนดูก็ติด ติดภาพผมเนี่ย ผมคงไม่ได้อยากให้คนดูติดภาพผมเป็นเด็กออทิสติกไปตลอด อย่างในปีนี้ก็กำลังจะมีโปรเจคพิเศษใหม่กับทาง GDH กับลุคส์ใหม่ที่คนไม่เคยเห็นอีกครั้ง อยากให้รอติดตามกันด้วยครับ
จากที่เข้ามากลายเป็นไอดอลของผู้คนมากมาย เราต้องปรับตัวปรับชีวิตตัวเองยังไงบ้างแต่ก่อนผมติดเพื่อนมาก แต่พอผมมาทำงานตรงนี้ คือผมไม่ได้เรียกว่ามันคือโลกส่วนตัว แต่เพื่อนผมบอกว่าเนี่ยคือโลกส่วนตัว คือผมว่าผมไม่มี แต่มันบอกว่าผมมี เดาว่าผมไม่มีละกัน (หัวเราะ) คือผมไม่อยากติสท์อะ พูดไงดี ผมเหนื่อยอะ ผมก็อยากอยู่นิ่งๆ บ้าง ผมว่าดาร์กไซต์ผมมีเยอะ คนเราถ้าจะอยู่ในสังคม คุณต้องยอมรับได้ทั้งด้านสว่างหรือด้านมืดของคน ผมไม่เคยพูดว่าตัวเองเป็นคนดี แต่สิ่งที่วันนี้ผมเป็น ผมว่าโชคดีที่คนทั่วไปแค่รับกับด้านดีของผมได้ แล้วผมแค่รู้สึกว่าผมไม่เคยเฟคใส่แฟนๆ ตัวเองเลยนะ ผมอาจจะไม่ได้มานั่งฮิฮะๆ ผมทำได้เท่าไหน ผมทำได้เท่านั้น ผมมั่นใจว่าผมจริงใจทุกครั้ง อะไรที่มันจริง มันจะเรียล เอาจริงๆ คนไม่ได้โง่ เวลาเห็นอะไรเฟคๆ มันดูออกนะ
แฟนคลับของต่อ ณ ตอนนี้มีหลากหลายคือเรียกว่าแทบจะเปิด AEC ตามประเทศไปได้เลย
ผมว่าด้วยความที่ประเทศเราเปิด AEC ด้วย และบวกกับค่ายเราเป็นค่ายหนัง หนังมันก็ต้องขายเมืองนอกอยู่แล้ว พอเราได้เล่นหนัง มันก็จะเหมือนมีโบนัสทำให้แฟนๆ ต่างชาติรู้จักเรา ก็มีที่เคยเดินทางมาหาที่เมืองไทย ส่วนใหญ่จะเป็นอินโดนีเซีย เวียดนาม จีน ไต้หวัน ที่ว้าวมากก็คือเกาหลี เพราะไม่คิดว่าแฟนคลับประเทศนี้จะมา ตอนนั้นคิดว่าเขาเป็นไต้หวัน แต่พอเดินมา..อันยองฮาเซโย ผมบอก What! อ้าว เราไม่ค่อยเจอไง ถ้าพูดถึงจีนไต้หวันพอเข้าใจได้ โอเคๆ เกาหลีหรอ เป็นอะไรที่ใหม่ แต่แฟนคลับทุกประเทศเขาก็จะมีคาแรกเตอร์ต่างกันไป ที่เวลาเจอจะมองออก จะอ๋อเลย
คนมองว่าต่อมีความหล่อระดับโอปป้าเกาหลี สาวเกาหลียังมาเป็นติ่งไอดอลไทย แล้วส่วนตัวต่อมีความเป็นติ่งเกาหลีบ้างหรือเปล่า
จริงๆ ผมเกาหลีหรอ (ยิ้ม) ผมไม่ได้คิดว่าตัวเองเกาหลีขนาดนั้น อย่างเสื้อผ้าสไตล์เราก็ชอบยีนส์ดิบๆ ที่คนเห็นแบบนั้น เพราะเรื่องทรงผมมากกว่า แบบทุกครั้งที่ผมเปลี่ยนทรงผมหน้าผมก็เปลี่ยน มันเปลี่ยนอัตโนมัติ ถ้าวันนี้ผมตัดสกินเฮด ผมจะไม่หน้าแบบนี้ อาจจะมีความกร้าวกร้านขึ้นมาอีกหน่อย (หัวเราะ) อย่างกระแสเกาหลีตอนนี้ก็ชอบครับ มีนักแสดงเกาหลีหลายคน เขาไม่ใช่ไอดอลผม แต่ผมเคยเสพผลงานเขาแล้วรู้สึกชื่นชมว่าคุณเล่นดีนะ เล่นดีจริงๆ ยอมรับเลย เคยถ่ายโฆษณากับ GOT7 แล้วไปเจอ Extra ที่โน่น อาชีพ Extra ที่โน่นต้องจบ Academy แบบโรงเรียนการแสดงมานะ ซึ่งต่างกับบ้านเรา บ้านเราคือหนูๆ ว่างมั้ยลูก ห้าร้อยมานั่งนี่มา แต่ประเทศเขาจริงจังมาก บ้านคุณเป็นอย่างนั้นหรอ ประเทศเราไม่ได้นะ แค่ Extra ยังไงก็ต้องเรียนแอกติ้ง ผมว่าเขามีความรักในวัฒนธรรมของประเทศเขา เชื่อมั่นว่าแอกติ้งบ้านเขาไม่เหมือนประเทศอื่น ซึ่งมันก็จริง อย่างเบอร์ใหญ่ๆ ของบ้านเขา พูดได้เลยว่าหลายคนมากไม่ได้มีดีแค่หน้าตา หรืออย่างวัฒนธรรมอื่นๆก็เข้ามาในไทยเยอะมาก อาหารปิ๊งย่างเกาหลี กิมจิ แล้วช่วงนี้ฮิตปูดองเกาหลีใช่มั้ย (ยิ้ม) ผมก็กินอยู่ตลอดนะ แต่ว่าบางทีก็ต้องสลับๆ บ้างเนอะ ไม่ได้กินเป็นอาหารหลัก
สะกิดหัวใจสักนิด กับวันวาเลนไทน์ที่จะถึงนี้ เพราะมันเป็นวันเกิดของต่อ-ธนภพด้วย (ว้าว)
เป็นคนให้ความสำคัญกับวันวาเลนไทน์นะ ผมต้องไม่ลืมอยู่แล้ว มันเป็นวันเกิดผมไง จริงๆ เคยคิดว่าวันเกิดเป็นวันวาเลนไทน์ มันจะต้องพิเศษมากๆ แต่มันก็ไม่ใช่ขนาดนั้น คิดในแง่เพื่อน วาเลนไทน์พูดกับใคร อุ้ย เกิดวันวาเลนไทน์เลยหรอ ในใจผมคือแบบอุ้ย ทำไม ทุกคนจะคิดว่าวันวาเลนไทน์วันดี เพื่อนเยอะ วันเกิดเรา ทุกคนก็ไปหาแฟนกันหมดป่ะ มันเป็นเรื่องปกติ เราก็ต้องให้ความสำคัญกับคนที่เราคิดว่าให้ความสำคัญ แต่จริงๆ วาเลนไทน์ผมไม่ใช่ให้ความสำคัญแค่แฟนอย่างเดียว ผมมีแม่ด้วย ปีที่แล้ว ผมให้ของขวัญวาเลนไทน์แม่ก่อนแฟนอีก ผมเลยคิดว่าวันสำคัญผมมี แต่ผมจะพยายามทำให้มันไม่สำคัญกว่าวันปกติมาก บางครั้งเคยมีคำถามเหมือนกันว่าคนเราต้องรอถึงวันสำคัญจริงหรอ ถ้าเราอยากให้วันนี้มันเป็นวันสำคัญไม่ได้หรอ
Mono Mobile
แหล่งรวบรวมคอนเทนต์คุณภาพ ทั้งในรูปแบบวิดีโอคลิป สามารถดูได้ทุกที่ ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง รองรับการใช้งานหลากหลายอุปกรณ์
Mono Technology
อาคารจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ทาวเวอร์ เลขที่ 200 หมู่ 4 ถนนแจ้งวัฒนะ ปากเกร็ด นนทบุรี 11120 เบอร์โทร 021007007
TAGS
บันเทิง, ข่าวสาร, ก็อซซิป, คลิปตลก, คลิปเด็ด, ดูดวง, เพลงฮิต, เกม, ความรัก, กีฬา