ล่าสุดเพิ่งกลายเป็นบัณฑิตหมาดๆ ได้เกือบปี อินกำลังมุ่งทำฝันให้เป็นจริง จากสองเส้นทาง คือ หนึ่ง เริ่มทำโปรเจกโฮสเทลเล็กๆ กับเพื่อน และสอง เป็นนักแสดงคุณภาพที่เล่นได้ทุกบทบาท
4 ปีที่ใช่กับความฝันมาจากคุณพ่อ
เรียกว่าเดินตามฝัน เพราะมีคุณพ่อเป็นไอดอล ตลอด 4 ปีรู้สึกใช่เลย เราชอบขนาดตอนเอนท์ยังเลือกอันดับ 1-4 เป็นถาปัดหมด แค่คนละมหา’ลัย ถึงแม้ตอนเรียนจะเหนื่อยมาก เรียนเหมือนเซเว่นเจ็ดวัน 24 ชม. บางช่วงที่ท้อ แต่พอกลับมาทวนจุดมุ่งหมายในชีวิตเราแล้วว่าอยากเป็นอะไร มันคือคำตอบของเรา เราก็ต้องสู้ต่อไป สิ่งที่ได้จากการเรียนที่นี่ พาร์ทแรกคือการศึกษา เรียนอินเตอร์ ได้ครูที่เก่งมากจากรอบโลก ได้ไอเดียในการทำงานเยอะมาก พาร์ทสอง คือได้เรียนรู้การใช้ชีวิตในมหา’ลัย เจอสังคมเพื่อนที่มันใหญ่ขึ้น แล้วก็ทำให้เรารู้จักแบ่งเวลาเป็น คืออินแบ่งทุกอย่างเป็น 4 อย่าง หนึ่งเรียนแน่นอน สอง คือการงาน สาม ครอบครัว สี่ เพื่อน ที่ทุกอย่างต้องบาลานซ์กัน ยกตัวอย่างอินสอบ แน่นอนเราต้องแบ่งเวลาให้การเรียนอันดับหนึ่ง แต่ช่วงไหนเราสามารถชิลๆ ได้ ช่วงกลางเทอม เราแบ่งเวลาให้การงานมั้ย หรือช่วงไหนงานไม่ได้เยอะ เราไปให้ครอบครัวมั้ย ให้เพื่อนมั้้ย คือมันปรับได้ทุกๆ วัน แล้วแต่วันนี้เราอยากแบ่งอะไรให้ได้ดีที่สุด แค่นั้นเอง
สถาปนิกรุ่นใหม่ที่หลงรักงานแสดง
เมื่อก่อนไม่ได้สนใจอาชีพนักแสดงเลย เราเป็นเด็กเปิ่นๆ ที่ไม่ได้ติดตามหรือชอบในสาขานั้น แต่มันมาเริ่มสนใจจริงๆ ตอนปี 4 ที่มีงานบอลแล้วมีโอกาสไปเชิญบอล ก็เลยมีคนติดต่อเข้ามา ได้มาแคสช่อง 3 จากที่เราคิดว่าแค่จะขอลองทำดู พอได้มาเล่นซีรีส์เรื่องแรก เรารู้เลยว่าอาชีพนักแสดงไม่ใช่อาชีพที่ลองได้ ไม่สามารถก้าวขาเข้ามาครึ่งเดียวได้ แล้วพอลองได้เล่น ก็รู้สึกชอบ ผูกพันกับมัน เลยตัดสินใจอยู่กับมันเต็มตัว ตอนนี้มีละครสองเรื่อง “ซีรีส์ ลูกผู้ชาย ตอน ภูผา” กับ “ดวงใจในไฟหนาว” บทบาทก็ต่างกันเลย อินอยากเล่นหลายๆ บทบาท อยากเป็นนักแสดงคุณภาพที่คนไม่ได้ตัดสินแค่ข้างนอกว่าเอ้ย คิ้วบอย แต่อยากให้รู้ว่าเฮ้ย ทำได้นะ
ความฝันสุดท้าย เที่ยวให้ได้รอบโลก
จบแล้วขอป๊าทำโฮสเทล เรามีเงินเก็บจากการทำงานมาแล้ว เลยขอป๊าว่า ขอทำเป็นโรงแรมเล็กๆ อยากจะลองดูว่า ถ้ามันเจ๊งก็ให้มันเจ๊งไป ให้มันรู้ไปว่าจะทำได้มั้ย แต่ก็ยังมีพ่อแม่ไกด์ไลน์ให้อยู่นะ ตอนนี้อยู่ในช่วงดีไซน์ น่าจะเปิดกลางปี 2562 อยากทำให้เป็นดีไซน์โฮเต็ล ที่ให้ความสำคัญกับงานอาร์ตคนรุ่นใหม่ที่ชอบถ่ายรูปเช็กอินน่าจะชอบ ก็ค่อนข้างยาก ต้องทำด้วยความรอบคอบมากขึ้น ตอนนี้ก็มีอาชีพสองอย่าง ที่มันเป็นครึ่งหนึ่งของชีวิตไปแล้ว แต่ก็รู้สึกอาชีพสองอาชีพคือสถาปนิกกับนักแสดงมันคล้ายกันอยู่ ถาปัดก็ออกแบบบ้าน นักแสดงก็ออกแบบตัวละครที่เราได้รับโจทย์มาเหมือนกัน มันเป็นสองอย่างที่อยากให้อยู่ไปกับเรานานๆ มุมมองการใช้ชีวิตตอนนี้ก็จริงจังขึ้น เรามีคุณพ่อคุณแม่เป็นไอดอล คุณแม่ประสบความสำเร็จเกษียณตั้งแต่อายุ 28 ตอนนี้เขาไปเที่ยวรอบโลกแล้วคือเก่งมาก ก็อยากทำชีวิตเราให้ได้อย่างนั้นบ้าง อยากเที่ยวรอบโลกเหมือนกัน ไปดูสถาปัตย์บ้านเมืองแต่ละประเทศว่าเป็นยังไง แต่ตอนนี้คงต้องเก็บตังค์ก่อน (หัวเราะ)