เกรท-สพล อัศวมั่นคง วิศวกรหนุ่มหล่อจากสถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธรที่หลังจากสำเร็จเป็นบัณฑิตมาได้ งานบันเทิงก็กำลังรุ่ง ล่าสุดกับการได้เข้ามาเป็นพระเอกดาวรุ่งทางช่อง 7 กับซิทคอม “รักหวาน บ้านวุ่น” และอีกหลายเรื่องที่กำลังรอออนตามมา แต่ใครจะเชื่อล่ะว่าวัยเด็กน้อยสพลในอดีตคือหนุ่มน้อยขี้อายแทบจะไม่กล้าสบตาผู้คนมาก่อนเลย!
จุดเริ่มต้นความเป็นหนุ่มน้อยสายวิศวกร
ตอนนั้นเรายังไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร แล้วด้วยความที่คุณพ่ออยากให้เรียนวิศวะ ที่สถาบันก็มีเมเจอร์ทั้งวิทยาศาสตร์และวิศวะ แถมเป็นอินเตอร์ด้วย ผมก็มีโอกาสไปเรียน Exchange มาก่อน รู้สึกว่าเรียนอินเตอร์น่าจะดีกว่าเลยเลือกเรียนสาขาบริหารอุตสาหกรรมที่นี่ พอมาเรียนจริงๆ โหดมาก (หัวเราะ) คือมันจะไปหนักช่วงสอบมากกว่า แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่ายากเกินไป แค่เราต้องเตรียมตัวทำความเข้าใจกับมัน ติวกับเพื่อนเก่งๆวิเคราะห์ลองทำโจทย์กันดู มันก็ได้อยู่ อย่างวิชาที่เป็นพวก Logistic ผมว่ามันก็สนุกดีได้ลองทำ หาวิธีการขนส่งยังไงให้ได้กำไรมากที่สุด และประหยัดเวลามากที่สุด ซึ่ง 4 ปีในมหา’ลัย มันคุ้มค่ามากสำหรับผม อย่างตอนทำเชียร์ลีดเดอร์เราก็ได้ทำงานในหลายๆ องค์กร ได้มิตรภาพ ได้เข้าสังคม ได้อะไรมาเยอะมาก
บัณฑิตจบใหม่กับโอกาสที่เข้ามา
จบใหม่ๆ ผมมองว่าจะเรียนต่อนักบิน คือมันเป็นความฝันอย่างหนึ่งตอนเด็กเหมือนกัน แต่พอมีโอกาสได้งานในวงการ ก็เริ่มลังเล ขอลองทำตรงนี้ก่อนนะ ไม่เคยฝันว่าจะเป็นนักแสดง ตอนเด็กผมเป็นคนขี้อายมาก (ยิ้ม) พูดน้อย ให้มองหน้าสบตาคนผมยังไม่กล้า ชอบเดินคอตกๆ หลังค่อม (หัวเราะ) แต่มาฝึกพูดมากขึ้นตอนมาเป็นดีเจ คนอาจจะคิดว่าผมทะเล้นเข้ากับคนง่าย จริงๆ ถ้าไม่สนิท ผมจะไม่คุยด้วย เหมือนหยิ่งแต่จริงๆ ไม่รู้จะคุยอะไรมากกว่า แต่พอได้ทำงานมากขึ้น ได้เจอคนใหม่ๆ เราต้องดิว ต้องทำงานกับเขา ทำให้งานราบรื่นจบจ็อบนั้นๆ ไป ก็เริ่มเปลี่ยนทัศนคติตัวเองเรื่อยๆ กล้าพูด กล้าคุยมากขึ้น
ก้าวใหม่กับการเป็นนักแสดงดาวรุ่งช่อง 7
ตอนเด็กๆ ผมเคยงงนะว่าตัวละครเขาทำอะไรของเขา พอมาแสดงจริงๆ มันก็เหมือนเป็นดาบสองคมนิดหนึ่งเพราะช่วงแรกเวลาเล่นจะมอนิเตอร์ตัวเองตลอด มันก็จะตลกๆ หน่อยแต่หลังๆ ก็เริ่มเข้าใจการตีความตัวละครมากขึ้น สำหรับผมการที่คนรู้จักมากขึ้น ก็ไม่ได้ต้องปรับตัวอะไรมาก แค่อาจจะมีเรื่องการแต่งตัวบ้าง เพราะผมชอบแต่งตัวชิลๆ บางทีชิลไปหน่อย รองเท้าแตะ กางเกงขาสั้น (หัวเราะ) ผู้จัดการก็เฮ้ย แต่งตัวให้ดีหน่อย เราเป็นแบบอย่างให้หลายๆ คน ก็ค่อยๆ ปรับเปลี่ยนกันไป ผมมองว่าการได้มาอยู่ตรงนี้มันเป็นเรื่องใหม่ที่เราต้องพยายามพัฒนาตัวเองตลอดเวลา เวลาเจอปัญหาอะไรก็แค่ไปหามุมสงบ เห็นหน้าอย่างนี้ ผมชอบเข้าวัด เพราะคุณแม่ชอบพาเข้าวัดตั้งแต่เด็ก ก็ไปทำใจให้สงบเพื่อกลับมาชาร์ตพลังต่อ อนาคตไกลๆ ถ้าถึงจุดหนึ่งกับงานในวงการแล้วก็อยากจะไปสอบเป็นนักบินนะ ถ้าไม่แก่เกินไปอีกอย่างหนึ่งเลยที่อยากทำคือเปิดรีสอร์ทเล็กๆผมชอบอยู่กับภูเขาต้นไม้ธรรมชาติ (ยิ้ม)