ไมค์-วีรภัทร นิ่มอนงค์ โอป้าหนุ่มหล่อสไตล์เกาหลีที่หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตาจากOnli (n) e the Series ชีวิตจริงต้องโกหก กับการเรียนจบในสายบริหารธุรกิจมุ่งต่อยอดทำธุรกิจส่วนตัวในอนาคต ควบคู่กับการวางแผนทำตามความฝันในเส้นทางบันเทิงที่ไม่ได้ง่าย และเส้นทางนี้ยังต้องเดินทางกันอีกยาวไกล

การเรียนบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการจัดการธุรกิจค้าปลีก ม.รังสิต
ผมมองว่าการเรียนบริหารมันจะต่อยอดได้ในอนาคต แล้วผมชอบเลข ชอบคำนวณมาตั้งแต่เด็ก พอมาเรียนจริงๆ ก็แฮปปี้ เป็นสาขาแปลกใหม่ดี คิดไม่ผิดเลยที่มาเรียน ชอบที่มันมีอิสระทางความคิด ทำให้เราได้คิดกระบวนการต่างๆ อาจารย์จะมีโปรเจคให้เราทำทุกเทอม แต่ปีแรก ผมค่อนข้างจะทำกิจกรรมเยอะมาก รับน้องขึ้นสแตนด์ ผมเข้าร่วมตลอด ก็ยอมรับไม่ได้โฟกัสการเรียนเท่าไหร่ พอปี 2 เริ่มเข้าวงการ ก็ต้องเรียนไป ทำงานไปอีก แต่โชคดีมีเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่คอยตามงานให้ คอยติวให้ อาจารย์ก็น่ารักเข้าใจในงานของเรา มีอะไรก็สอบถามอาจารย์ได้ ขอส่งงานเลทหน่อย แต่เราก็ต้องยอมรับในเรื่องคะแนนด้วย สุดท้ายจบมาได้เกรดเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ส่วนหนึ่งจบมาได้เพราะเพื่อนจริงๆ สำหรับผม มหา’ลัยทำให้ผมได้ประสบการณ์การอยู่ร่วมกันในสังคมกับคนอื่น คือข้อดีของผม ผมเป็นคนเข้ากับคนง่าย เฟรนลี่ บางคนเขาอาจจะเกร็งๆ เราก็ต้องเข้าไปคุยกับเขาสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น ซึ่งมหา’ลัยทำให้ผมได้เก็บเกี่ยวทักษะตรงนี้มา

จากความฝันสู่ความจริงบนหน้าจอทีวี
อยากเข้าวงการตั้งแต่เด็ก ฝันอยากเห็นตัวเองในทีวี ในโฆษณาบ้าง ก็เริ่มแคสงานตอนปีหนึ่ง แต่แคสแล้วไม่ได้ๆๆ จนผมท้อ เลยหายไปพักหนึ่ง จนปีสอง เริ่มได้โฆษณามากขึ้น จำได้ชิ้นแรกเป็นโฆษณา Sizzler กินทั้งวัน (หัวเราะ) เพิ่งรู้เบื้องหลังมันต้องกินขนาดนั้นเลยเหรอ แต่ก็สนุกกับมัน หลังจากนั้นก็เริ่มไปแคสงานบ่อยขึ้น มีไปประกวดตามที่ต่างๆ จนได้มีซีรีส์เรื่องแรก Onli (n) e the Seriesเล่นแรกๆ มีแอบเกร็งเหมือนกัน มันมีกล้องหลายมุม มันต้องออกมาต่อเนื่องกันมั้ย แต่ก็ทำเต็มที่ เพราะรู้สึกว่ามันเป็นงานที่ผมรัก ต่อให้ไปออกกองตีสี่ถึงตีสามอีกวันผมก็ชอบ แต่ก็คือมันก็ยังต้องฝึกฝนต่อไปเรื่อยๆ

กฎแรงดึงดูด สิ่งที่คิดจะเป็นไปได้
ผมเจอผู้ใหญ่คนหนึ่งเขาบอกผมว่า ไมค์ลองเอาแนวคิดแรงดึงดูดไปใช้ เหมือนให้เราคิดบวก คิดสิ่งที่เป็นไปได้ แล้วสิ่งที่เราคิดมันจะกลับมาหาเราเอง ผมก็ลองทำดูอย่างการประกวด คิดแต่เรื่องบวกๆ พอขึ้นเวทีปุ๊บ ความคิดมันจะออกมาทางสีหน้าท่าทางของเรา เราไม่มีความกังวลอยู่เลย เราก็จะได้สิ่งที่เราหวังไว้ หรืออย่างบางทีผมจะเป็นคนที่เครียดเรื่องบุคลิกตัวเอง เพราะหนึ่งตอนนี้เราก็อายุเยอะแล้ว แต่ผิวพรรณหน้าตารูปลักษณ์ภายนอกก็ต้องใช้ทำมาหากิน ผมก็คิดว่า จะไม่จมกับมันนานมากแต่ก็ต้องหาวิธีแก้ไขให้เร็วที่สุด แล้วก็ไปหาอย่างอื่นทำให้มีความสุขดีกว่า งานในวงการตอนนี้ส่วนใหญ่จะเป็นงานโฆษณา แต่ก็ฝันอยากให้มีงานแสดงดีๆ อีกสักเรื่องที่จะทำให้คนรู้จักเรามากขึ้น ด้านธุรกิจก็มีมองไว้บ้าง แต่ก็ต้องคิดให้ไกลกว่าคนอื่นเพื่อทำให้มันออกมาสำเร็จ เพราะเศรษฐกิจไทยไม่ค่อยดี ทุกคนก็ผันมาทำธุรกิจขนาดเล็กกันมากยิ่งขึ้น เราก็ต้องระมัดระวังมากขึ้น ต้องใจเย็นหน่อย เป็นเรื่องของอนาคตที่ต้องดูกันต่อไป