15 หมู่บ้านสวยทั่วโลก งดงามเหมือนต้องมนต์สะกด!

15 หมู่บ้านสวยทั่วโลก งดงามเหมือนต้องมนต์สะกด!

01

วันนี้เราจะพาไปชม 15 หมู่บ้านสวยทั่วโลก กัน! ซึ่งแต่ละที่นั้นถือว่าสวยที่สุดของแต่ละประเทศ ทั้งความงามของธรรมชาติ บ้านเรือน อีกทั้งยังเป็นมรดกโลกอีกด้วย และในปัจจุบันก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

  1. Bibury, England

[caption id="attachment_44230" align="alignnone" ]

02

ขอบคุณภาพ https://www.facebook.com/wannabethaitraveler/[/caption]

Bibury หมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในแคว้น Gloucestershire, Cotswolds ขนานนามว่าเป็นหมู่บ้านที่สวยงามที่สุดของประเทศอังกฤษ และเป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในโลก หากใครได้มาที่นี่จะรู้สึกเหมือนต้องสมต์สะกด มีบ้านหลังเก่าๆ ตั้งอยู่เรียงแถว รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ ต้นไม้ใบหญ้าสีเขียว บรรยากาศร่มรื่นและเงียบสงบ รู้สึกและสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเมืองผู้ดีเก่า อีกทั้งยังมีฝูงสัตว์นก ปลา ในลำธารไหลเย็น.. เหมือนได้ใช้ชีวิตแบบเต็มที่โดยไม่ต้องรีบร้อนเหมือนอยู๋ในเมืองใหญ่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอมฮิตที่ผู้คนชอบมามากที่สุดแห่งหนึ่งเลยทีเดียว

  1. Smögen Village, Sweden

[caption id="attachment_44231" align="alignnone" ]

03

Cr. Forbes[/caption]

หมู่บ้านชาวประมงดั้งเดิม ตั้งอยู่บนเกาะ Smögen ชายฝั่งทะเลตะวันตกที่สวยงามแห่งหนึ่งของประเทศสวีเดน อีกทั้งยังเป็นท่าเรือประมง ท่าเรือยอร์จ ผู้คนนิยมเดินทางมาพักผ่อน ท่องเที่ยวช่วงฤดูร้อน ที่นี่จะมีบ้านพักมีสไตล์โดดเด่น ก็คือ สร้างด้วยไม้ และแต่ละหลังจะทาด้วยสีสันสดใส ตั้งอยู๋ตามแนวชายฝั่ง ถือเป็นมนต์เสน่ห์ที่น่ามาสัมผัสไม่ว่าจะช่วงฤดูไหนก็ตาม

  1. Najac, France

[caption id="attachment_44232" align="alignnone" ]

04

Cr. Flickr[/caption]

[caption id="attachment_44233" align="alignnone" ]

05

Cr. www-memo-fr[/caption]

Najac เป็นหมู่บ้านที่สวยที่สุดในประเทศฝรั่งเศส หมู่บ้านเก่าแก่ที่สร้างขึ้นไปตามแนวภูเขา เคยใช้ที่แห่งนี้เป็นจุดทางยุทธศาสตร์ ในอดีตมีความเจริญรุ่งเรืองและเป็นเมืองสำคัญทางประวัติศาสตร์ หากมองขึ้นไปยังด้านบนยอดก็จะเห็นป้อมปราการเก่าตั้งอยู่ และจากบนนั้นสามารถมองเห็นวิวเมืมองได้แบบ 360 องศา ตามทางเดินก็จะได้พบกับบ้านเรือนเก่า สงบร่มรื่น ในช่วงฤดูหนาวจะพบผู้คนในแถบนี้น้อยมากๆ ไม่ถึง 100 คน ซึ่งแต่ต่างจากช่วงหน้าร้อนที่จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางกันมามากมาย ไม่ขาดสาย

  1. Hallstatt, Austria

06

ฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) เมืองริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก และยังเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศออสเตรีย (Austria) โดยเมืองฮัลล์สตัทท์ ตั้งอยู่ในรัฐอัปเปอร์ออสเตรีย (Upper Austria)

ความโดดเด่นของเมืองนั้น สิ่งแรกที่นักท่องเที่ยวจะสัมผัสได้ก็คือความเป็นเมืองชนบทเล็กๆ ที่มีอากาศแสนบริสุทธิ์ เหมาะอย่างยิ่งที่จะเดินทางมาพักผ่อนตากอากาศ และชมทัศนียภาพสวยๆ ของตัวเมืองที่ถูกโอบล้มไปด้วยทะเลสาบและเทือกเขาสูงตระหง่าน

  1. Colmar, France

[caption id="attachment_44235" align="alignnone" ]

07

http://www.europeanbestdestinations.com/[/caption]

เมืองกอลมาร์ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส เป็นเมืองหลวงของโอ-แร็ง, อาลซัส กอลมาร์เป็นบ้านเกิดของจิตรกรและช่างแกะพิมพ์มาร์ติน โชนเกาเออร์ และประติมากรเฟรเดริก โอกุสต์ บาร์ตอลดีผู้ออกแบบอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ กอลมาร์มีชื่อเสียงในการอนุรักษ์เมืองให้ยังคงเป็นเมืองที่มีลักษณะสถาปัตยกรรมและบรรยกาศของเมืองโบราณ ในตัวเมืองเก่าก็มีพิพิธภัณฑ์ คริสต์ศาสนสถาน และร้านค้าและที่อยู่อาศัยที่คงสภาพเหมือนเมืองในยุคกลาง

  1. Reine, Norway

[caption id="attachment_44236" align="alignnone" ]

08

Cr.My Modern Met[/caption]

Reine หมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในประเทศนอร์เวย์ เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่หลายคนเรียกกันว่า “จิตวิญญาณแห่งนอร์เวย์” อีกทั้งยังได้รับการขนานนามว่าเป็นสถานที่โรแมนติคที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอีกด้วย ตั้งอยู่ห่างจากออสโลประมาณ 1,300 กิโลเมตร รอบเกาะรายล้อมไปด้วยมหาสมุทะแอตแลนติกและทะเลนอร์วีเจียน สมัยก่อนผู้คนส่วนใหญ่จะทำอาชีพจับปลา จนในปรัจจุบันก็ยังคงทำอยู่ เพื่อเป็นการอนุรักษ์วิถีชีวิตแบบดั้งเดิม อีกทั้งบรรยากาศของที่นี้แสนสงบ

  1. Albarracín, Spain

[caption id="attachment_44237" align="alignnone" ]

08

Cr. World Beautifull Places[/caption]

Albarracín (อัลบาร์ราซิน) เป็นหมู่บ้านยุคกลางตั้งอยู่บนภูเขา ทางเหนือของประเทศสเปน อยู่ห่างจากเมือง เตรวยล์ (Teruel) เพียง 3o นาที และห่างจากเมืองวาเลนเซีย (Valencia) ประมาณ 2 ชั่วโมง หมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 11 มีประวัติศาสตร์ที่สำคัญ มีป้อมปราการและกำแพงโบราณล้อมรอบเมือง อีกทั้งเมืองนี้ยังได้รับ UNESCO world heritage ด้าสถาปัตยกรรมยุคกลางด้วย

  1. Cong, Ireland

[caption id="attachment_44238" align="alignnone" ]

09

Cr. www.startribune.com[/caption]

Cong เป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศไอร์แลนด์สำหรับการตกปลา และในเรื่องประวัติศาสตร์ ที่แห่งนี้รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่เงียบสงบ ที่ทำให้ผ่อนคลายในช่วงในพักผ่อนได้ดีที่สุด บริเวณใกล้เคียงก็มีโรงเรียน, พระราชวัง, พิพิธภัณฑ์ ที่มีชื่อเสียงให้เดินชม

  1. Brendan’s Adventures

[caption id="attachment_44239" align="alignnone" ]

10

Cr. travelindicator[/caption]

[caption id="attachment_44240" align="alignnone" ]

11

Cr. brendans-adventures[/caption]

เมืองกรูแยร์ (Gruyeres) ตั้งอยู่ในรัฐฟรีบูร์ (Fribourg) เป็นเมืองเล็กๆ ที่ขึ้นชื่อเรื่องการทำชีส และเป็นต้นกำเนิดของชีสกรูแยร์ ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายยุคเก่า และบ้านเรือนยังคงสภาพแบบสถาปัตยกรรมยุคกลาง ในเมืองแห่งนี้เราสามารถสนุกไปกับการเดินเล่น ชมความงามของตึกรางบ้างช่อง วิถีชีวิตดั้งเดิม เดินชมปราสาทและป้อมปราการทอดยาวที่สามารถมองเห็นวิวสวยๆ ของเมืองได้แบบพาโนรามา ร้านค้า ดนตรี และโรงงานชีสแสนอร่อย

  1. Bled, Slovenia

[caption id="attachment_44241" align="alignnone" ]

12

Cr. İlhan Eroglu[/caption]

[caption id="attachment_44242" align="alignnone" ]

13

Cr. lakebledslovenia.com[/caption]

เบล็ด (Bled) หนึ่งในสถานที่ที่โรแมนติคที่สุดในโลก เป็นเมืองที่ตั้งอยู่กลางทะเลสาป รายล้อมด้วยหุบเขาจูเลียนแอลป์ (Julian Alps) ซึ่งบนเกาะกลางนั้นเป็นที่ตั้งของของโบสถ์พระแม่มารี (Assumption of Mary) หรือโบสถ์อัสสัมชัน (Assumption of Mary Pilgrimage Church) สร้างในศตวรรษที่ 11 ในศิลปะแบบบาโรก ประดับตกแต่งด้วยจิตรกรรมฝาผนังที่มีการบำรุงรักษาเป็นอย่างดี

นอกจากนี้แล้วยังมีอาคารขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ด้านหลังโบสถ์ ที่ถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับงานแต่งงานตามประเพณี เล่ากันว่าหากคู่สมรสคู่ใดได้มาโยกระฆังในโบสถ์จะมีชีวิตคู่ยืนยาว โดยเจ้าบ่าวจะต้องอุ้มเจ้าสาวขึ้นบันไดมาจากท่าเรือจนถึงประตูโบสถ์

  1. Manarola, Italy

[caption id="attachment_44243" align="alignnone" ]

14

Cr. http://travellingcolors.com/[/caption]

มานาโรล่า (Manarola) หนึ่งในเมืองมรดกโลกของประเทศอิตาลี เป็นหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ โดยบ้านเรือนจะปลูกตามไหล่เขา ทาด้วยสีสันสดใส ด้านล่างเป็นหน้าผาที่มองเห็นทะเลได้สุดลูกหูลูกตา เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก เราสามารถเดินชมบ้านเรือน วิถีชีวิตแบบเรียบง่ายได้ตลอดทางเดิน ที่ฝงไปด้วยมนต์เสน่ห์ที่น่าถึงดูด และกิจกรรมสุดฮิตของที่นี่ก็คือการปืนเขา

  1. Pučiśća, Croatia

[caption id="attachment_44244" align="alignnone" ]

15

Cr. Visit Brač[/caption]

Pučiśća หมู่บ้านที่สวยที่สุดในประเทศโครเอเชีย และเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตสำหรับช่วงฤดูร้อน ตั้งอยู่บนเกาะ Brač เป็นเมืองที่เงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อน มีประชากรอาศัยอยู่เพียง 2000 กว่าคนเท่านั้น

  1. Telč, Czech Republic

[caption id="attachment_44245" align="alignnone" ]

16

Cr. Infinite Legroom[/caption]

เต้วช์ (Telč) เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีความงดงามมากแห่งหนึ่งของสาธารณรัฐเชค สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 โดยพื้นที่ของเมืองเต้วช์จะล้อมรอบด้วยทะเลสาบทั้ง 3 ด้าน อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในสถานที่มรดกโลกจากยูเนสโก บ้านในนี้มีเพียง 71 หลัง ก่อสร้างด้วยอิฐปูน แต่งเติมสีสันสดใส ซึ่งแต่เดิมสร้างด้วยไม้แต่เกิดเหตุไฟไหม้ เมื่อสร้างใหม่จึงก้อด้วยหิน-ปูนแทน ในสไตล์เรเนสซอง

  1. Monemvasia, Greece

[caption id="attachment_44246" align="alignnone" ]

17

Cr. amusing-planet[/caption]

18

โมเน็มวาเซีย (Monemvasia) ตั้งอยู่ในเขตลาโคเนีย (Laconia) หรือ Lacedaemonia ของประเทศกรีซ เป็นเมืองที่เคยแยกออกจากแผ่นดินใหญ่จากเหตุแผ่นดินไหว ในปี ค.ศ. 375 และมีประวัติศาสตร์มายาวนาน ตั้งอยู่บนเกาะเล็กๆ อันเงียบสงบ นอกชายฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรเพโลพอนนีส (Peloponnese) ซึ่งเมืองนี้ยังถูกขนานนามว่าเป็น เมืองโลกลืม หรือเมืองลับแล เพราะน้อยคนที่จะรู้จัก แต่ในปัจจุบันกลับเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก หากมองจากตัวเมืองออกหาจะเลจเห็นเพียงเกาะสูงชันเท่านั้น แต่หารู้ไหม่ว่ามีหมู่บ้านที่สวยงามตั้งอยู่ทางด้านหลัง

  1. Giethoorn, Netherlands

19

Giethoorn เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ตั้งอยู่ระหว่างเมือง Zwolle และ Steenwijk ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยได้รับฉายาว่าเป็นหมู่บ้านไร้ถนน เพราะผู้คนที่นี่จะสัญจรกันทางเรือ จึงมีคูคลองเล็ก ๆ ลัดเลาะอยู่รอบหมู่บ้าน บ้านทุกหลังก็จะมีเรือเป็นพาหนะประจำครัวเรือนนั่นเอง

ผู้คนที่นี่ ส่วนมากมีอาชีพเป็นชาวไร่ ฐานะค่อนข้างดี มีฟาร์มเป็นของตัวเอง บ้านแต่ละหลังถูกออกแบบให้เป็นกระท่อมสไตล์ตะวันตกมีความโดดเด่นสวยงาม ในช่วงฤดูใบไม้ผลิคาบเกี่ยวกับฤดูร้อน ถือเป็นช่วงเวลาที่พีคที่สุดในการมาท่องเที่ยวหมู่บ้านแห่งนี้ เพราะจะได้ล่องเรือชื่นชมทัศนียภาพอันสวยงามภายในหมู่บ้าน อากาศกำลังดี รวมถึงได้รื่นรมย์กับดอกไม้ที่ผลิบานสะพรั่งต้อนรับผู้มาเยือน

Source: www.ultimateplaces.net

เรียบเรียงโดย: Travel MThai

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 



SOCIAL NETWORK

Mono Mobile

แหล่งรวบรวมคอนเทนต์คุณภาพ ทั้งในรูปแบบวิดีโอคลิป สามารถดูได้ทุกที่ ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง รองรับการใช้งานหลากหลายอุปกรณ์

Mono Technology

อาคารจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ทาวเวอร์ เลขที่ 200 หมู่ 4 ถนนแจ้งวัฒนะ ปากเกร็ด นนทบุรี 11120 เบอร์โทร 021007007

TAGS

บันเทิง, ข่าวสาร, ก็อซซิป, คลิปตลก, คลิปเด็ด, ดูดวง, เพลงฮิต, เกม, ความรัก, กีฬา