“อเวย์ กาญจนบุรี เทวมันตรา”
รีสอร์ทหรู สไตล์โคโลเนียล
Travel.mthai ชวนหลบความวุ่นวาย ไปนอนชิลล์ริมน้ำ เงียบสงบ ใกล้ชิดธรรมชาติ ที่ อเวย์ กาญจนบุรี เทวมันตรา รีสอร์ท แอนด์ สปา (Away Kanchanaburi Dheva Mantra Resort & Spa) รีสอร์ทหรู ระดับ 5 ดาว ริมแม่น้ำแควใหญ่ จังหวัดกาญจนบุรี
การเดินทางมาที่รีสอร์ท สามารถเลือกได้ 2 วิธี คือรถยนต์ หรือ รถยนต์แล้วต่อเรือ หากเลือกอย่างหลัง เรือจะล่องไปตามลำน้ำแควใหญ่ ลอดใต้สะพานข้ามแม่น้ำแคว ก่อนจอดเทียบท่าที่ห้องอาหารแพริมน้ำของรีสอร์ท
อเวย์ กาญจนบุรี เทวมันตรา รีสอร์ท แอนด์ สปา ตกแต่งสไตล์โคโลเนียล ผสมผสานกับดีไซน์ทันสมัย โดยได้แรงบันดาลใจมาจากพระราชวังบางปะอิน จ.อยุธยา พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน หัวหิน และบ้านพิบูลธรรม กรุงเทพฯ นั่นเอง จุดเด่นอีกอย่างนอกจากเรื่องดีไซน์ ก็คือบรรยากาศรอบๆ ร่มรื่นด้วยสวนและต้นไม้ใหญ่ มองไปทางไหนก็ดูสดชื่นสบายตา
ก้าวแรกที่เข้าไป ในส่วนของ Lobby มีความใหญ่โต โอ่อ่า เพดานสูงโปร่ง เน้นโทนสีขาว-ไข่ไก่ ได้ความวินเทจ เหมือนหลุดเข้ามาอยู่ยุคอดีตราวๆ 100 ปีก่อนเลยทีเดียว ตลอดจนเฟอร์นิเจอร์ โต๊ะ โซฟา และบานหน้าต่างประตูฉลุไม้ลวดลายไทย ยิ่งตอกย้ำความหรูหรามากขึ้นอีก
ห้องพักของอเวย์กาญจนบุรีฯ มีด้วยกันทั้งหมด 104 ห้องนอน กระจายตัวอยู่ตามตึกทั้ง 5 หลัง ที่สร้างโค้งเป็นรูปตัว U เชื่อมเข้าหากัน แบ่งเป็น Superior room, Deluxe Room, Family Deluxe, Junior Suite และ Prestige Suite แทบทุกห้องมีระเบียงส่วนตัว พร้อมเก้าอี้นั่งเล่น สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำแควไหลผ่าน และสวนสวยๆ รอบอาณาบริเวณ
Superior room
นี่คือห้องพักของเรา 1 คืนค่ะ ถ่ายออกมาเหมือนขนาดห้องซูพีเรียทั่วไป แต่ความจริงคือกว้างขวางมาก ขนาด 52 ตร.ม. เป็นแบบ Garden view สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพัก มีโทรทัศน์ เครื่องเล่นดีวีดี ตู้เย็น เสื้อคลุมอาบน้ำ โต๊ะเครื่องแป้ง ส่วนห้องน้ำมีอ่างให้นอนแช่ตัวสบายๆ แยกส่วนกับมุมอาบน้ำแบบฝักบัว ตรงกลางเป็นอ่างล้างหน้า มีอุปกรณ์อาบน้ำครบครัน
ระเบียงหน้าห้องพัก
Presidential Suite
ใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัว หรือคู่รักที่อยากมาดื่มด่ำน้ำผึ้งพระจันทร์ เราขอแนะนำห้องนี้เลยค่ะ Presidential Suite ห้องพักขนาดใหญ่ที่สุดของรีสอร์ท กว้างขวางถึง 232 ตารางเมตร และมีเพียงห้องเดียวเท่านั้น ที่สำคัญ สมเด็จพระเทพฯ เคยเสด็จมาประทับแรมที่ห้องนี้ด้วย
ภายในแบ่งสัดส่วนออกเป็น ห้องครัว มุมโต๊ะกินข้าว ห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น โดยออกแบบให้มีประตูเชื่อมต่อกับห้องนอน ในห้องนอนก็มีห้องน้ำในตัว และในห้องน้ำยังแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นห้องแต่งตัวอีก แบบว่ากว้างใหญ่มากกก มากกว่าห้องที่เรานอนหลายเท่า ส่วนวิวตรงระเบียงก็ดีงามสุด มองเห็นสระว่ายน้ำ และทิวทัศน์ทั่วรีสอร์ท
ห้องน้ำ
ห้องอาหาร The Tiara
มื้อเย็นเราฝากท้องไว้ที่ห้องอาหารเดอะ เทียร่า (The Tiara) ของรีสอร์ท เป็นห้องอาหารแบบ all day dining ทานได้ทุกเวลา ตั้งแต่ 06.30 น. – 23.00 น. บริการอาหารไทย ยุโรป และพิเศษสุดที่เราได้ทานกันวันนี้ Healthy Food สำหรับคนรักสุขภาพ รสชาติไม่ได้จืดอย่างที่เราคิด แต่ก็ไม่จัดจ้านจนเกินไป อร่อยแบบพอดีๆ ขอแนะจานแรกเรียกน้ำย่อย เมล่อนสลัดกับน้ำส้มเดรสซิ่ง ตามด้วย ยำทูน่ากับสลัดกรอบ, เมี่ยงตะไคร้ใบชะพลู,ซุปข้าวไรซ์เบอรี่กับขนมปังกระเทียม ตบท้ายด้วยปลาแซลมอนย่าง เสิร์ฟกับสลัดผักสคาร์ติโช๊คและซอสบัลซามิค
เมล่อนสลัดกับน้ำส้มเดรสซิ่ง
ปลาแซลมอนย่าง เสิร์ฟกับสลัดผักสคาร์ติโช๊คและซอสบัลซามิค
ซุปข้าวไรซ์เบอรี่กับขนมปังกระเทียม (ใครไม่ชอบไรซ์เบอร์รี่ลองชิมดูก่อน อร่อยจริงนะ คอนเฟิร์ม)
ยำปลาทูน่ากับสลัดกรอบ
เมี่ยงตะไคร้ใบชะพลู
สระว่ายน้ำ
กินอิ่มนอนหลับ ตื่นเช้ามา เราไปเดินสำรวจรอบๆ รีสอร์ทกันค่ะ บอกเลยว่าใครชอบถ่ายรูป หรือชอบเป็นแบบให้คนถ่าย ต้องติดใจมากแน่ เพราะมีมุมสวยๆ ให้รัวชัตเตอร์ได้เป็นร้อยๆ รูป อย่างสระว่ายน้ำของที่นี่ ก็ถือเป็นจุคพีคอีกหนึ่งจุดที่ไม่อยากให้พลาด
สระว่ายน้ำเป็นแบบระบบเกลือค่ะ ระดับความลึก 0.90 เมตร เล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ รวมถึงใช้ระบบการทำงานแบบ Over Flow คือปล่อยให้น้ำล้นออกนอกสระ ไหลผ่านรางระบายน้ำ ลงสู่บ่อพักน้ำ เพื่อทำการกรองและฆ่าเชื้อโรค ก่อนที่น้ำจะไหลลงสระอีกครั้ง น้ำในสระจึงดูใสสะอาดตลอดเวลา
Le Dheva Spa
ว่ายน้ำจนเหนื่อย เมื่อยแล้วไปสปากันดีกว่า ซึ่งนอกจากการตกแต่งรีสอร์ทที่เลิศหรูอลังการ แฝงเสน่ห์แห่งความคลาสสิคที่น่าหลงไหล เลอ เดวา สปา (Le Dheva Spa) ก็มีชื่อเสียงไม่น้อยหน้าใคร มีทั้งบริการนวดน้ำมัน อโรม่า นวดไทย ประคบสมุนไพร นวดเพื่อบำบัดรักษา รวมถึงการทำบอดี้แร็ป เพื่อฟื้นฟูสภาพผิว ส่วนตัวได้ลองนวดน้ำมันค่ะ เคลิ้มมาก สบ๊ายสบาย พี่พนักงานมือนิ่มสุดอะ ถ้ามีโอกาสจะกลับไปใช้บริการอีกแน่นอน
สำหรับใครที่ไม่ได้เข้ามาพักที่นี่ ก็สามารถเข้ามาใช้บริการได้เช่นกันค่ะ โดยจะเปิดบริการตั้งแต่เวลา 10 โมงเช้า – 21.00 น.
ห้องอาหาร Rice Barge
ห้องอาหาร Rice Barge นอกจากเป็นร้านอาหาร ยังเป็นท่าเรือที่เรามาลงเรือวันแรกด้วย
มื้อเที่ยงก็ไม่ต้องออกไปกินข้าวที่ไหนไกล เรามาทานอาหารกันที่ห้องอาหารไรซ์บาร์จ (Rice Barge) มีลักษณะเป็นแพริมน้ำสีขาว เพดานยกสูง บรรยากาศภายในโปร่งสบาย อากาศถ่ายเทสะดวก ล้อมรอบด้วยกระจกใสบานใหญ่ เปิดให้เห็นวิวด้านนอกได้แบบพาโนราม่า ซึ่งมีที่นั่งทั้งโซนเก้าอี้ และโซนนั่งพื้นสไตล์ขันโตก
สำหรับเมนูอาหารจะเป็นอาหารไทยต้นตำรับ และมีการนำอาหารพื้นบ้านของกาญจนบุรีมาผสมผสาน อย่าง ปลาคัง จะเอาไปทำลวกจิ้ม หรือ ต้มโคล้งก็อร่อย นอกจากนี้ยังมีเมนูพิเศษ สำรับอาหารจากละครบุพเพสันนิวาส ทั้งหลนเต้าเจี้ยว หมูสโร่ง กุ้งเผา แกงคั่วหอยขม แม้จะเป็นรสชาติไทยออริจินัล แต่ไม่เผ็ดมาก จะมีกลิ่นของสมุนไพรนิดๆ เพื่อให้คนไม่ทานเผ็ดก็สามารถทานได้
กินคาวต้องกินหวาน … ใครถนัดสายหวาน ที่นี่เขามีเซ็ต Afternoon Tea เสิร์ฟตอนบ่าย 2 ถึง 5 โมงเย็น ในรูปแบบทาวเวอร์ 3 ชั้น ชั้นแรกเป็นอาหารทานเล่นกรุบกริบ ชั้นสองเป็นมาการอง ส่วนชั้นสุดท้ายเป็นพันนาคอตต้า บอกเลยว่าการได้นั่งทานขนม พร้อมจิบชาร้อนสักแก้ว มันช่างมีความสุขจริงๆ
หากใครกำลังมองหาโรงแรมดีๆ เดินทางสะดวก ใกล้กรุงเทพฯ ราคาคุ้ม คุณภาพเกินมาตรฐาน พนักงานยิ้มแย้ม บริการเป็นเลิศ มีกิจกรรมให้ทำเยอะแยะ มีมุมถ่ายรูปชิคๆ สไตล์วินเทจทั่วรีสอร์ท ต้องไม่พลาดให้ อเวย์ กาญจนบุรี เทวมันตรา รีสอร์ท แอนด์ สปา เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่พักครั้งต่อไปของคุณ ทั้งยังอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต ไม่ว่าจะเป็น สะพานข้ามแม่น้ำแคว, สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก, วัดถ้ำเสือ, เมืองมัลลิกา ซึ่งห่างกันเพียงไม่กี่กิโลเมตร
ขอบคุณการเดินทางครั้งนี้ : บีเอชเอ็มเอ (BHMA) และ Away Kanchanaburi Dheva Mantra Resort & Spa
Mono Mobile
แหล่งรวบรวมคอนเทนต์คุณภาพ ทั้งในรูปแบบวิดีโอคลิป สามารถดูได้ทุกที่ ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง รองรับการใช้งานหลากหลายอุปกรณ์
Mono Technology
อาคารจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ทาวเวอร์ เลขที่ 200 หมู่ 4 ถนนแจ้งวัฒนะ ปากเกร็ด นนทบุรี 11120 เบอร์โทร 021007007
TAGS
บันเทิง, ข่าวสาร, ก็อซซิป, คลิปตลก, คลิปเด็ด, ดูดวง, เพลงฮิต, เกม, ความรัก, กีฬา