เที่ยวกรุงเทพ ต้องระวัง! 11 คำเตือน จากสายตาคนต่างชาติ

เที่ยวกรุงเทพ ต้องระวัง!
11 คำเตือน จากสายตาคนต่างชาติ

จากข้อมูลของเว็บไซต์ thisisinsider กล่าวว่า ในช่วงปี 2017 ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย กว่า 35 ล้านคน และสถานที่ที่ได้รับความนิยมสูงสุดก็คือ กรุงเทพมหานคร เมืองศิวิไลที่ใครก็ถวิลหา แต่ก็มีชาวต่างชาติอยู่จำนวนไม่น้อย ที่รู้สึกได้ถึงความไม่ปลอดภัย ความไม่ยุติธรรมต่างๆ นาๆ และนี่คือ 11 คำเตือน จากฝรั่ง ที่ฝากถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เจาะจงมา เที่ยวกรุงเทพ โดยเฉพาะ ตลอดจนคำแนะนำดีๆ ว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไร มีที่ไหนควรไปบ้าง

1. เลี่ยงการจองที่พักผ่านเอเจนซี่ หรือเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ

การจองผ่านตัวแทนและเว็บไซต์ที่ไม่น่าไว้วางใจเหล่านี้ คุณไม่สามารถเข้าถึงโรงแรมที่คุณพักได้โดยตรง และข้อมูลการจองของคุณอาจไม่ปลอดภัยนัก ไม่ว่าจะเป็นชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด หรือ เลขบัตรเครดิต รวมถึงปัญหาต่างๆ ที่ตามมา เช่น มีการจองซ้ำซ้อนจากนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น สภาพห้องพักไม่เป็นอย่างที่ฝัน และรายเอียดที่พักอื่นๆ ของจริงไม่เหมือนตอนจอง

2. พึงระวัง! ราคานักท่องเที่ยว แตกต่างกับ ราคาคนไทย

เรื่องนี้ก็เป็นกันในหลายๆ ประเทศ ที่ราคาสินค้าและค่าบริการบางแห่ง สำหรับนักท่องเที่ยว ย่อมไม่เท่ากับ ราคาคนท้องถิ่น อย่างผู้เขียนคนนี้สำรวจพบว่า ค่าบริการนวดย่านบางลำพู มีราคา 500 บาท แต่ที่ย่านอโศก การนวดแบบเดียวกัน ชั่วโมงเท่ากัน กลับสูงกว่าถึง 3 เท่า อาจเข้าใจได้ว่า ย่านที่มีนักท่องเที่ยวอยู่เยอะ ก็ย่อมเจอเรตที่สูงขึ้นเป็นธรรมดา

3. ระวังการฉกชิงกระเป๋า

กรุงเทพฯ ก็เหมือนเมืองใหญ่อื่นๆ ที่คนพลุกพล่าน เบียดเสียด และนั่นก็เป็นช่องทางให้มิจฉาชีพฉกชิงวิ่งราวได้โดยไม่ทันมีใครสังเกตเห็น ทางที่ดีควรสะพายกระเป๋าไว้ด้านหน้า หรือพกแต่สิ่งของจำเป็นเล็กๆ น้อย โดยใส่ไว้ในกระเป๋าคาดเอว จะปลอดภัยกว่า

4. ขึ้นรถแท๊กซี่หลังจากคนขับกดมิเตอร์แล้วเท่านั้น

แท๊กซี่บางคันหัวหมอ ฟันราคานักท่องเที่ยว โดยคิดเป็นรายหัว ทั้งที่ค่ามิเตอร์เริ่มต้นอยู่ที่ 35 บาท หากไม่อยากเจอเหตุการณ์แบบนี้ ก็เลือกใช้บริการ Grab Taxi สบายใจกว่า

ขอบคุณภาพจาก : bangkok

5. BTS และ MRT ช่วยให้การเดินทางสะดวกสบายขึ้น

กรุงเทพฯ มีทั้งระบบรถไฟฟ้า BTS และ MRT ที่เข้าถึงแหล่งช้อปปิ้งและสถานที่ท่องเที่ยวดังๆ หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นสยาม ประตูน้ำ หอศิลป์ฯ พิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน ฯลฯ ซึ่งค่าโดยสารถูกกว่ามากเมื่อเทียบกับรถแท๊กซี่ หรือ ตุ๊กตุ๊ก สามารถซื้อตั๋วได้กับเจ้าหน้าห้องออกตั๋วโดยสาร และอย่าลืมคว้าแผนที่ที่มีให้ในสถานีติดมือไปด้วย

ขอบคุณรูปภาพจาก : firsttripplanner

6. อย่าขึ้น ตุ๊กตุ๊ก เว้นแต่ตกลงราคากันได้

ตุ๊กตุ๊ก อีกหนึ่งพาหนะที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเทพฯ ไปแล้ว แต่ก่อนขึ้นคุณควรต่อรองราคาให้เรียบร้อยก่อน เพราะมันไม่คุ้มเลยหากจุดหมายปลายทางของคุณอยู่ห่างออกไปเพียง 2 ป้ายรถเมล์ พอขึ้นไปแล้วก็อย่าลืมเกาะแน่นๆ ด้วยล่ะ เพราะบางคันนี่ซิ่งอย่างกับเล่นรถไฟเหาะเลยทีเดียว

7. จ่ายเงินทันที ตั้งแต่สั่งอาหารเสร็จ

หลายคนอาจเคยเจอปัญหาที่ว่า ร้านอาหารบางร้านในกรุงเทพ อยู่ดีๆ ก็เอาอาหารจานที่เราไม่ได้สั่งมาเสิร์ฟให้ แล้วก็เรียกเก็บเงินซะงั้น น้ำเปล่าก็ไม่เว้น เพราะบางที ที่เราคิดว่าฟรี มันกลับไม่ฟรี หรือถ้าเด็กเสิร์ฟคนไหนมีท่าทีแปลกๆ เสนอขายนู่นนี่ให้แบบงงๆ บริการไม่ดี หรือมีท่าทีหยาบคายแล้วล่ะก็ ควรรีบจ่ายเงินตั้งแต่สั่งอาหารเสร็จเดี๋ยวนั้นเลย

8. ถ้าไม่ไป 3 สถานที่นี้ก็เหมือนมาไม่ถึง กรุงเทพฯ

การเที่ยวกรุงเทพฯ ของคุณจะไม่สมบูรณ์แบบหากไม่ได้ไปช้อปปิ้งที่ตลาดนัดจตุจักร ซึ่งเต็มไปด้วยเสื้อผ้าสวยๆ ในราคาไม่แพง ของเก่า งานศิลปะ เฟอร์นิเจอร์ สัตว์เลี้ยง และต้นไม้, เยี่ยมชมสถาปัตยกรรมอันงดงามของ พระบรมมหาราชวัง รวมถึงวัดพระแก้ว วัดที่สำคัญที่สุดของกรุงเทพมหานครและเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของประเทศไทย สุดท้ายคือ ตลาดน้ำอัมพวา เลือกซื้อของที่ระลึก อาหารคาวหวาน และนั่งเรือหางยาวชมวิถีชีวิตผู้คนและวัดรอบๆ

9. สถานที่ที่คนไม่ค่อยไป ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน

ไม่ว่าจะเป็น หอศิลป์ฯ กรุงเทพฯ ที่มีนิทรรศการยอดเยี่ยมมากมาย หมุนเวียนมาให้ชม รวมถึงการจัดเวิร์คช็อปที่คุณสามารถเข้าร่วมได้, สวนเฉลิมหล้า ราชเทวี ไปเก็บภาพงานกราฟฟิตี้เจ๋งๆ ที่ถ่ายทอดลงบนผนังกำแพงได้อย่างเท่สุดๆ, และลองนั่งเรือด่วนเจ้าพระยาชมวิวสองฝั่งแม่น้ำ ทั้งวัดโพธิ สะพานพุทธ พิพิธภัณฑ์เรือพระราชพิธี ฯลฯ

10. ฝึกพูดคำง่ายๆ ของคนท้องถิ่น

เรียนรู้ที่จะพูดภาษาไทยไม่กี่คำ จะทำให้คุณดูน่ารักขึ้นเยอะในสายตาคนท้องถิ่น อย่าง สวัสดีค่ะ สวัสดีครับ พร้อมกับยกมือไหว้ เพื่อแสดงการทักทายและขอบคุณ หรือเมื่อคุณไปตลาดแล้วพูดว่า ลดอีกได้ไหมครับ พร้อมส่งยิ้มอย่างจริงใจ นั่นอาจทำให้คุณได้ของ ในราคาถูกลงจากที่ตั้งไว้ 10 เปอร์เซ็นต์