เกาะเซบู ฟิลิปปินส์ เป็นที่เที่ยวที่กำลังฮอตสุดๆ สำหรับนักท่องเที่ยวคนไหนที่ชอบธรรมชาติ ทั้งน้ำตกและทะเล บอกเลยว่าต้องมา! ที่สำคัญ ไฮไลท์ของการเที่ยวเกาะเซบูนั้นอยู่ที่ การว่ายน้ำกับพี่ฉลามวาฬ เจ้าถิ่นประจำเกาะเซบูนั่นเองจ้า กิจกรรมนี้ใครมาก็พลาดไม่ได้จริงๆ อารมณ์เหมือนไปญี่ปุ่นแต่ไม่ได้กินซูชินั่นแหละ ตาม มัชรูมทราเวล มาดูกันดีกว่าว่า เที่ยวฟิลิปปินส์ ที่ เกาะเซบู นั้นจะฟินสักแค่ไหน…?!
ตะลุย ทัวร์เซบู ฟิลิปปินส์
ไปสัมผัสให้รู้ แล้วคุณจะหลงรัก!!
พูดถึง เกาะเซบู ประเทศฟิลิปปินส์ ถ้าให้เปรียบเทียบกับบ้านเราก็คงคล้ายๆ กับภูเก็ตนั่นแหละค่ะ เป็นเกาะที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศฟิลิปปินส์ มีที่เที่ยวสวยๆ มากมาย โดยเฉพาะทะเลที่น่าหลงใหลสุดๆ และนั่นก็ทำให้ที่นี่คึกคักไปด้วยผู้คนและเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลก จำนวนนักท่องเที่ยวเริ่มหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวฟิลิปปินส์และเกาะเซบูเพิ่มขึ้นทุกปี ที่สำคัญค่าครองชีพที่นี่ก็ไม่ได้แพงมาก ถูกกว่าบ้านเรานิดหน่อยด้วยค่ะ
การเดินทาง
เดี๋ยวนี้การเดินทางไปเกาะเซบู ง่ายขึ้นแล้วค่ะ เพราะสายการบิน Philippine Airlines เค้ามีไฟล์ทบินตรง กรุงเทพ-เซบู ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงเท่านั้นเอง สะดวกสบายแบบฟูลเซอร์วิส แถมไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องให้เสียเวลาเลย บินรวดเดียว ไปถึงก็เที่ยวได้เลย ทีนี้เราไปดูสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำในเกาะเซบูกันดีกว่าค่ะ
ไม้กางเขน MAGELLAN’S CROSS
เริ่มต้นทัวร์เซบู ที่สถานที่สำคัญที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน นั่นก็คือ ไม้กางเขนโบราณ (Magellan’s Cross) มีความเก่าแก่และมีอายุหลายร้อยปี โดยที่นี่ี่จะเป็นสถานที่ที่ให้เราได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่แสดงถึงความรุ่งเรืองของศาสนาไว้อย่างดี ด้วยรูปทรงของอาคารที่มีเอกลักษณ์ เมื่อเดินเข้าไปด้านในจะพบกับไม้กางเขนที่สร้างด้วยไม้ขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนฐานด้านบนของอาคาร และมีภาพวาดสวยๆ ให้เราได้ดูเพลินๆ อีกด้วย
ว่ายน้ำดูฉลามวาฬ ที่ ออสล๊อบ (OSLOB)
มาถึงไฮไลท์ของเกาะเซบูนั่นก็คือ การว่ายน้ำกับฉลามวาฬ เจ้าทะเลอันยิ่งใหญ่ พร้อมกับชมความสวยงามของน้ำทะเล เกาะเซบู โดยเราจะมากันที่ ออสล๊อบ เริ่มแรก ก่อนที่จะลงไปดำน้ำเราต้องฟังการบรรยายกฎกติกาจากเจ้าหน้าที่ รวมถึงทำความเข้าใจกับข้อห้ามต่างๆ ทั้งสิ่งที่ทำได้และสิ่งที่ทำไม่ได้ เพื่อความปลอดภัยนั่นเองค่ะ จากนั้นเราจะไปทำการใส่ชูชีพและสน๊อคเกอร์ที่เค้าเตรียมไว้ให้
ซึ่งการดำน้ำดูฉลามวาฬก็มี 2 แบบ คือ 1. Snorkel หรือการดำบนผิวน้ำ และ 2. Scuba หรือการดำน้ำลึก ที่จะทำให้เราได้เห็นฉลามวาฬได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น แบบว่าว่ายน้ำข้างกันเลยทีเดียว
แต่จริงๆ การดำน้ำแบบ Snorkel ก็สามารถมองเห็นฉลามวาฬได้อย่างใกล้ชิดแล้วค่ะ ใครอยากลงไปดำน้ำแบบไหนก็ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมกันได้เลย หลังจากฟังบรรยายเสร็จเรียบร้อยก็เตรียมตัวใส่อุปกรณ์ให้พร้อม และลงเรือเล็กเพื่อไปยังจุดให้อาหารฉลามวาฬกันค่ะ
เมื่อถึงจุดที่สามารถลงดำน้ำได้แล้ว ทีนี้ก็เตรียมกล้องกันน้ำไว้ให้พร้อม เตรียมลงไปถ่ายรูปกับฉลามวาฬแบบเก๋ๆ และมีทริคอีกอย่างหนึ่งถ้าใครอยากได้ภาพสวยๆ กับฉลามวาฬ ให้ลองคุยกับเจ้าหน้าเสื้อฟ้าที่มากับเราดูค่ะ
ให้เค้าช่วยถ่ายภาพใต้น้ำให้ เค้าจะพาเราว่ายออกจากไม้กั้นเข้าไปใกล้กับปลาฉลามวาฬแบบว่ายประกบเราเลยค่ะไม่ต้องกลัว แล้วเค้าจะช่วยถ่ายรูปให้ แต่เราต้องมีกล้องของเราเองนะคะ แต่ส่วนตรงนี้ไม่แน่ใจว่ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมไหม บางคนบอกว่ามี บางคนก็บอกว่าไม่เสีย อันนี้คงแล้วแต่ดวงล่ะค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่ด้วยนะคะ ส่วนตอนที่เราไปไม่ได้ให้เค้าถ่ายให้ เลยถ่ายได้มาอย่างทุลักทุเล ประมาณนี้ 555
เพราะฉะนั้นแนะนำว่าให้ถามเจ้าหน้าที่ดูค่ะว่าต้องการถ่ายรูปใต้น้ำกับฉลามวาฬ ถ้าเค้าถ่ายให้ก็จะได้รูปสวยงามแบบนี้เลย จุดนั้นไม่ต้องห่วงกลัวว่าจะเสียเงินหรือไม่เสียเลยค่ะ แนะนำว่าลุยเลย ได้ภาพสวยๆ กับน้องฉลามวาฬเท่าไหร่ก็ยอมเด้อ
เกาะโบโฮล เนินช็อคโกแลต (CHOCOLATE HILL)
ที่เที่ยวต่อมาใน เกาะเซบู ก็คือที่ เนินช็อคโกแลต (Chocolate Hill) ที่นี่เป็นเนินเขาที่อยู่รวมกันประมาณ 1,268 ลูก แต่ละลูกมีความสูงประมาณ 30 เมตรจากพื้นดิน โดยเนินเหล่านี้จะมีสีเขียวในช่วงฤดูฝน และสีน้ำตาลอ่อนในช่วงฤดูร้อน เวลามองดูเลยคล้ายกับก้อนช็อคโกแลตหลายๆ ก้อน จึงเป็นที่มาของชื่อ เนินเขาช็อคโกแลต นั่นเองค่ะ
เกาะซูมิลอน (SUMILON ISLAND)
เกาะซูมิลอน แห่งนี้เป็นเกาะที่มีความเงียบสงบมากๆ ค่ะ เป็นเกาะส่วนตัวที่มีรีสอร์ทเพียงแห่งเดียวบนเกาะ ชื่อว่า Sumilon Bluewater Island ราคาต่อคืนก็ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว แต่เค้ามีการขายแพ็คเกจ วันเดย์ทริปด้วยนะ สามารถใช้บริการทุกอย่างบนเกาะได้ตามข้อกำหนดของเค้า ซึ่งเราว่ามันคุ้มค่าเลยแหละ เพราะวิวที่นี่สวยงามอลังการมาก ถ่ายรูปจนเมื่อยพูดเลย 555 ที่นี่เหมาะมากถ้าใครไปดำน้ำดูฉลามวาฬเสร็จแล้ว ให้ข้ามเกาะมาที่นี่ต่อเลยค่ะไม่ต้องอาบน้ำก็ได้ เพราะไม่ไกลกันมาก นั่งเรือมาประมาณ 30 นาทีเอง
ตะลุยเกาะเซบูกันมาอย่างจัดเต็ม มาต่อที่ ของกินเด่นๆ ของที่นี่กันบ้าง นั่นก็คือ มะม่วงสุก ค่ะคุ๊ณณ พูดเลยว่าทุกที่คือมะม่วง ขนาดไปกินซูชิกับจิบค็อกเทล ยังใส่มะม่วงลงไปด้วยเลย 555 รวมถึงของฝากสารพัดมะม่วงสุก เชื่อแล้วจ้าว่าเป็นของเด่นประจำถิ่นจริงๆ
ส่วนของกินทั่วไปอาหารจะคล้ายๆ บ้านเรา หายห่วงได้ว่าจะกินยากหรือไม่ ที่นี่ปิ้งย่างก็มี อาหารเกาหลีก็เยอะ แต่ที่สังเกตส่วนใหญ่เค้าชอบกินหมูกันค่ะ ทุกมื้อต้องมีหมูทอด สามชั้นทอด ขาหมูทอดหนังกรอบๆ อร่อยดีค่ะ
และนี่ก็คือทริปฟินๆ และสถานที่สวยๆ บนเกาะเซบู ประเทศฟิลิปปินส์ที่เรานำมาฝาก จริงๆ แล้ว เกาะเซบู ยังมีที่เที่ยวอีกมากมายเลยนะคะ ใครเป็นสายลุย อยากไปว่ายน้ำกับฉลามวาฬตัวยักษ์สักครั้งในชีวิต บอกเลยว่าต้องลองไปให้ได้ค่ะ รับรองว่าสนุก ฟิน เที่ยวคุ้มแน่นอน!
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : mushroomtravel
