เที่ยว สาธารณรัฐเช็ก (Czech)

เมืองแห่งความเงียบสงบและโรแมนติก

ท่องเที่ยวรอบโลกครั้งนี้ ชวนเพื่อนๆ มาเที่ยวและดูภาพสวยๆ ของเมืองต่างๆในสาธารณรัฐเช็ก ซึ่งดินแดนเดิมของพื้นที่ประเทศนี้ เป็นส่วนของอาณาจักรที่มีการครอบครองทับซ้อนผ่านระหว่างยุคชาวโรมัน เยอร์มานิก และโบฮีเมีย และกล่าวได้ว่า เป็นอาณาจักรที่มีวัฒนธรรมโบฮีเมียนมากมาย ผสมผสานกับ ศิลปะแบบ โกธิค นีโอ-โกธิค บาโรค เรอเนสซองส์ อาณาจักรรุ่งเรืองที่สุดในสมัย พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 4 ชื่อที่ท่องเที่ยวต่างๆ มักจะมีชื่อ Charles หรือ Karl ด้วย ก็ตั้งชื่อตามพระองค์นั่นเอง

ท่องเที่ยว: กรุงปราก (Prague)

กรุง ปราก (Prague) เมืองหลวงของสาธารณรัฐ เช็ก (Czech หรือ Czechia) ดินแดนที่ชื่อว่า มงกุฎแห่งยุโรป (Crown of Europe) เนื่องจากมีความสวยงามและเงียบสงบอยู่ท่ามกลางขุนเขาและเป็นศูนย์กลางอาณาจักรที่ว่ามาแต่โบราณ จึงเต็มไปด้วยเรื่องราว เรื่องเล่า และสถาปัตยกรรมที่สวยงามและยังมีภาษาของตนเอง เรียกว่า Praha อ่านว่า ปรา-หะ

เมื่อปี 2461 ปรากได้ถูกตั้งขึ้นเป็นเมืองหลวงของประเทศอิสระแห่งใหม่ ที่มีชื่อว่าเชโกสโลวาเกีย และต่อมาในปี 2535 เมื่อสโลวักและเช็กตัดสินใจแยกประเทศกัน “ปราก” จึงกลายเป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็กในที่สุด

การเดินทางไป กรุงปราก (Prague)

นั่งเครื่องบินไปที่กรุงปราก (รหัส สนามบิน PRG หรือชื่อเต็มๆคือ Vaclav Havel Airport) จากนั้นการเข้าเมือง สามารถนั่ง bus แบบสายตรง หรือ limousine (โรงแรมส่วนใหญ่จะมีบริการนี้) ประมาณ 1 ชั่วโมงก็จะถึงกรุงปราก และหากหาที่พักแถวๆ Old Town หรือ Lesser Town (หรือไม่ห่างจาก Charles Bridge มากนัก) จะดีมาก เพราะเดินเที่ยวรอบเมืองได้สบายๆเลย ถ้าเหนื่อยต้องการขึ้นรถเมล์ หรือ รถราง (Tram) ให้หาซื้อตั๋วจากแผงหนังสือพิมพ์ ร้านสะดวกซื้อ หรือที่โรงแรมของคุณได้เลย

ไฮไลท์ที่เที่ยวใน กรุงปราก (Prague)

• ปราสาทปราก (Prague Castle) ปราสาทโบราณที่ขึ้นชื่อในกินเนสบุ๊คว่า ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีอายุเก่าแก่กว่า 1,000 ปี ภายในสามารถเดินเล่นได้ฟรี ในโซนตลาด ร้านรวงต่างๆได้เลย แต่ถ้าต้องการเข้าชมโซนพื้นฐาน ให้ซื้อตั๋ว และยังมีโซนพิเศษ อย่างเช่น ชมเครื่องราชฯ และมงกุฎ ก็เสียเงินต่างหาก ภายในมี วิหารนักบุญวิตุส หรือ ไวตุส ( Vitus Cathedral) ซึ่งมีการสร้างผ่านสถาปนิกหลายคนตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 จนจบโครงการที่ศตวรรษที่ 19 จึงมีศิลปะผสม ระหว่างโกธิค นีโอ-โกธิค ภายในประดับด้วยกระจกโมเสคสี (บางส่วนจากฝรั่งเศส) ที่เก็บพระธาตุท่อนแขนของนักบุญวิตุส มีสุสานกษัตริย์แห่งโบฮีเมียหลายพระองค์ ด้านนอกมีภาพกระเบื้องโมเสกเกี่ยวกับวันพิพากษา นักบุญดังกล่าวถือว่าเป็นนักบุญอุปถัมภ์ประเทศนี้ และมีโลงศพศิลปะเงินของนักบุญ St.Nepomuk ตระการตามาก และวิหารแห่งนี้มีความสำคัญถือว่าเป็นจุดรวมใจชาวปรากอีกด้วย นอกจากรอบๆปราสาทยังมี โบสถ์ ที่ทำการราชการโบราญ ถนนสีทอง (Golden Lane) เชื่อว่าเป็นชุมชนโบราณ ที่เคยมีการเล่นแร่แปรธาตุ (alchemy) โดยทำเป็นร้านรวง และจำลองห้องพักสมัยก่อนให้ชม

ปราสาทปราก (Prague Castle)

• สะพานชาร์สล์ (Charles Bridge) เป็นสะพานคนเดินทำจากหิน สะพานสีคล้ำทะมึน อายุกว่า 600 ปี มีรูปปั้นต่างๆ ตลอดสองข้างของสะพานต่างสีต่างสมัยกัน โดยที่วิวทิวทัศน์ข้ามแม่น้ำ Vlatava ก็ดี รูปปั้นก็ดี ตัวบ้านเรือนสองฝั่งแม่น้ำก็ดี (มองเห็น Prague Castle บนเนินเขาด้วย สวยมาก) และยังมี นกบิน หงส์เล่นน้ำอีก มันถ่ายรูปได้หมด ไม่รู้จักจบสิ้น บางคนจึงใช้เวลาถ่ายรูปแค่บนสะพานมากกว่าหนึ่งชั่วโมงเลยล่ะ มีรูปปั้นและจุดที่บ่งบอกจุดที่ Nepomuk ถูกโยนลงแม่น้ำ เพราะกษัตริย์ เคืองที่นักบุญไม่บอกว่า พระราชินีมาสารภาพอะไรเอาไว้ ซึ่งพอท่านเสียชีวิตแล้วปรากฎปาฏิหาริย์ ดาวห้าดวงขึ้นที่ท้องฟ้า

• โบสถ์นักบุญนิโคลัส ( Nicholas Church) โบสถ์ที่ฝั่งของ Lesser Town วิหารที่ดูภายนอกไม่ใหญ่มาก แต่ข้างในวิจิตรมากๆด้วย หินอ่อนแกะสลักและ การตกแต่งด้วยสีทอง สามารถเดินขึ้นไปดูระเบียงชั้นสอง และดูภาพวาดบนเพดานได้สวย ความสงบ ความเย็น และสีในตัวโบสถ์สีขาว สีทอง สลับเลื่อมกันราวกับอยู่ในสวรรค์เลย

โบสถ์นักบุญนิโคลัส ( Nicholas Church)

• Old Town ย่านเมืองเก่า มีสินค้าหัตถกรรม ขนม ไส้กรอกขาย ในช่วงคริสต์มาส ก็จะมีสินค้าเทศกาลขายด้วย มีวิหารเก่า ตึกเก่าที่สวยงาม ขลังไปหมด มีตึกเลขๆที่เรียกว่าเป็นนาฬิกาดาราศาสตร์ ที่บ่งบอกทั้งเวลาและจักรราศีได้ด้วย ร้านรวงแถวนี้ ขายของที่ระลึก คอนเสิร์ต เหล้า เครื่องแต่งกายเต็มไปหมด

Old Town ย่านเมืองเก่า

• Lego Museum สำหรับคนที่ชอบ Lego มาชม คอลเลคชั่นใหญ่น้อยได้เพราะรวบรวมไว้เยอะเหมือนกัน แต่มันไม่ได้ยิ่งใหญ่มากนักนะครับ อย่าคาดหวัง สำหรับคนที่ไม่ได้อินมากไม่ต้องเข้าส่วน Museum ก็ได้นะครับ แต่ส่วน shop ขายเลโก้ ที่มีหลากหลายคอลเลคชั่นมากๆ (หลายอัน ไม่ได้ขายที่ไทยครับ)

Lego Museum

• Mucha Museum เป็นพิพิธภัณฑ์ที่แสดงผลงานของ Alphonse Mucha ซึ่งเป็นศิลปะหญิงสาวพื้นเมือง ที่แต่งกายสวยงามและมีดอกไม้ในภาพ ที่เรียกได้ว่าลายเส้น และสีสันสวยงามแบบร่วมสมัยมากๆ (ดูแล้ว รู้สึกว่า ตัวละครในเกมมือถือสมัยนี้ก็ใช้ลายเส้นแบบนี้แฮะ)
• ถนน Wencesla เป็นถนนช้อปปิ้ง ที่มีสินค้าแบรนด์เนม หลายเกรดขายอยู่ มีห้างที่มีเสื้อผ้าหลายยี่ห้อทั่วยุโรปขายเช่นกัน (บางอย่างถูกกว่าซื้อที่ไทย อย่างเช่น M&S, Sara แต่ก็นะ ก็ยังแพงอยู่ล่ะ สำหรับผม)

ปราก มีชื่อเสียงในด้านงานศิลปะ ทั้งแนวประวัติศาสตร์และในยุคปัจจุบัน ครอบคลุมถึงจิตรกรรม ประติมากรรม วรรณกรรม ดนตรี การออกแบบ และสถาปัตยกรรมด้วย ทั้งยังเป็นเมืองที่โด่งดังในด้านอาหารเพื่อสุขภาพ เบียร์ และอุตสาหกรรมการ ท่องเที่ยว เชิงพาณิชย์

และด้วยความเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์นานนับพันปี ทั่วทั้งเมือง เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ วิธีการสำรวจเมือง ปราก ที่ดีเยี่ยม คือการเดินทอดน่องไปตามถนน ที่ปูด้วยแผ่นอิฐพร้อมกับซึมซับสถาปัตยกรรม ตึกรามบ้านช่อง และโบสถ์ต่างๆ ในย่านปราสาทและจตุรัสเมืองเก่า ร่องรอยประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยอาณาจักรโรมันศักดิ์สิทธิ์ ต่อเนื่องมาจนถึงยุคคอมมิวนิสต์ และทุนนิยม จึงหาชมได้ที่กรุงปรากแห่งนี้

ท่องเที่ยว: เมือง เชสกี้ คลุมรอฟ (Cesky Klumrov)

ถัดจาก กรุงปรากแล้ว เมืองอันดับสองที่น่าเที่ยวคือ Cesky Klumrov เมืองนี้ โดดเด่นเพราะมีปราสาทเชสกี้ คลุมรอฟมรดกโลกที่ขึ้นทะเบียน Unesco เรียบร้อย ตัวบ้านเมืองอนุรักษ์ให้เป็นสีสันของเมืองเก่าได้อย่างดี บรรยากาศของแม่น้ำที่ไหลผ่านโค้งโอบเมืองนี้ไว้ กับทิวทัศน์ต่างๆ ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองเทพนิยาย

เมืองนี้มีประวัติบันทึกไว้ว่าเก่าแก่กว่า 700 ปี และถูกปรับทัศนียภาพพื้นฟูในช่วง 100 ปีก่อนมานี่เอง จนโด่งดังไปทั่วในฐานะแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ โดยที่เมืองใดๆที่มีคำว่า Cesky นำหน้า เขาหมายถึง วัฒนธรรม Bohemia (ซึ่งก็คือวัฒนธรรมเช็กนั่นเอง)

การเดินทางไป “เชสกี้ คลุมรอฟ” (Cesky Klumrov)

การเดินทางด้วยรถไฟใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง ถ้าเดินทางด้วยรถโดยสารหรือขับรถใช้เวลา 2 – 2.5 ชั่วโมง แนะนำให้ใช้วิธีหลังดีกว่า (ยุ่งยากน้อยกว่า และประหยัดเวลากว่า เพราะถ้ารวมไปกลับก็กว่า 5-6 ชั่วโมงแล้ว)

ไฮไลท์ที่เที่ยวใน เชสกี้ คลุมรอฟ (Cesky Klumrov)

• ปราสาท เชสกี้ คลุมรอฟ (Cesky Klumrov Castle) ปราสาท บนเขาที่มีความแนวอีกแบบ เนื่องจากกำแพงปราสาทมีการระบายสีให้เป็นเหมือนมิติของก้อนอิฐ ภาพวาดตามกำแพงดูเหมือนกับศิลปะแนวโรมัน ตัวปราสาทเอง มีลักษณะเป็นการโบราณเหมือนยุคอัศวิน (สู้มังกร) อะไรแบบนั้นเลย เสา กำแพง อาคาร หน้าต่าง ระเบียง สวยทุกจุด รวมทั้งทิวทัศน์จากมุมสูง มองเห็น Cesky Klumrov ทั้งเมือง เห็นเลยว่า เมืองเทพนิยาย สมกับคำร่ำลือจริงๆ

วิวจากปราสาท เชสกี้ คลุมรอฟ (Cesky Klumrov Castle)

• Vitus Church คุ้นๆมั้ย ว่า นักบุญท่านเดิม ชื่อเดียวกันกับ วิหารในปราสาทกรุงปราก ซึ่งคิดว่าคุณค่าทางศิลปะคงต่างกันประเมินไม่ได้หรอกครับ แต่ถ้านับจำนวนเรื่องราวและชิ้นศิลปะแล้ว ผมมองว่า St. Nicholas Church และ St. Vitus Cathedral ณ กรุงปราก มีสิ่งให้ดูให้ชมเยอะกว่า (ถ้าเวลาน้อย ถ่ายภาพจากด้านนอก หรือเข้าชมแบบเร็วๆได้อยู่)

ส่วนสถานที่เที่ยวอื่นๆ ขอบอกเลยว่า ทั้งเมือง ทุกมุม สวยหมด โดยเฉพาะมุมสะพานข้ามแม่น้ำ และจุด town square ตึกรามบ้านช่องที่นี่ สีสันพาสเทล ตกแต่งด้วยกระถางดอกไม้ (คิดถึงความสวยที่ใกล้เคียงก็คือ Hallstatt ของประเทศออสเตรีย)

1. คนที่ชอบศิลปะ มีหอศิลป์ Egon Shiele (เอก้อน ชีลเล่) ซึ่งมีงานศิลป์ และห้องแสดงภาพ
2. พิพิธภัณฑ์หุ่นกระบอก Marionette Museum

นอกจากนี้ ร้านรวงต่างๆ ขายของที่ระลึก เครื่องแก้ว เครื่องประดับคริสตัล งานไม้ มากมาย และเนื่องจากเป็นเมืองเล็กๆ สามารถเดินเที่ยวรอบเมืองได้ภายใน 1 วัน หรือวางแผนเช้าไปเย็นกลับก็ยังไหว

ท่องเที่ยว: เมืองคาลโลวี วารี (Karlovy Vary)

เมืองที่น่าเที่ยวอันดับสาม สำหรับการมาเที่ยว สาธารณรัฐเช็ก คือ คาลโลวี วารี แปลตามภาษาเช็กว่า บ่อน้ำร้อนของคาล (ก็คือ กษัตริย์ชาร์ลส์ ที่ 4 พระองค์เดิม ที่มีชื่อเรียกในสถานที่มากมาย) เมืองแห่งนี้ขึ้นชื่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ สำหรับสปา และดื่มกิน จึงมีโรงแรมสปาทั่วเมือง และที่แปลกด้วยก็คือ มีก๊อกน้ำพุร้อน ให้ดื่มกินทั้งหมด 11 จุด!

การเดินทางไป “คาลโลวี วารี”

การเดินทาง ห่างจากกรุงปรากด้วย รถไฟ หรือ รถยนต์ ประมาณ 1.5 ชั่วโมง ตัวเมืองค่อนข้างคล้ายกับกรุงปรากนั่นแหละ แต่มีถนนใหญ่สายช้อปปิ้งพาดผ่าน เดินง่ายมาก คือ ตั้งแต่ต้นถนน (รูปขวด Becherov ยักษ์) ไปจนสุด ก็คือ เดินทั้งเมืองแล้ว ถ้าเดินกินน้ำพุอย่างเดียว ตลอดเส้นทางก็ 15-20 นาที (ไม่นับเดินกลับ)

ไฮไลท์ที่เที่ยวใน “คาลโลวี วารี”

น้ำพุร้อนสำหรับดื่ม (Drinking Thermal Spring) น้ำพุร้อนสำหรับดื่ม มีทั้งหมด 11 จุด ที่ป้ายจะบอกชื่อและอุณหภูมิเอาไว้ตั้งแต่ 60-72 องศา เรียกได้ว่าร้อนลวกปากได้เลย ดังนั้น คุณสามารถพกแก้วหรือกระบอกน้ำร้อนไว้รองดื่มเองก็ได้ หรือ จะซื้อแก้วทรงพิเศษที่มีด้ามจับเป็นหลอดดูดน้ำ ทำให้การดูดน้ำร้อนทีละนิด ก็ทำให้ไม่ลวกปาก ซึ่งสามารถซื้อแก้วที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองนี้ไว้เป็นของที่ระลึกได้ด้วย โดยระหว่างจุดน้ำดื่ม มีจุดที่เป็น Royal Spa ด้วย ซึ่งเป็นทางเดินที่สวยงาม

น้ำพุร้อน (Drinking Thermal Spring)

กระบอกน้ำร้อน

หากเดินครบ 11 จุด แล้ว มีถนนทอดยาวไปอีก มีสินค้าแบรนด์เนมตลอดทาง ปลายทางคือ Grand Hotel Pupp (อ่านว่า พู้ป) ซึ่งเป็น สถานที่ถ่ายทำ 007 เจมส์ บอนด์ ภาค Casino Royale ตลอดทางเดินตึกรามบ้านช่องสวยงาม มีแม่น้ำไหลผ่านกลางเมือง สิ่งที่หายากนิดนึงคือ ห้องน้ำฟรี ส่วนใหญ่จะคิดเงิน

รสชาติของน้ำพุร้อนเป็นอย่างไร??? น้ำพุร้อนทั้ง 11 จุดนั้นจะมีรสชาติต่างกันไป บางก๊อกจะรสฝาด บางก๊อกรสเค็ม รสซ่า มีกลิ่นสนิม กลิ่นหืน แต่คนเช็ก ยืนยันว่า น้ำพุร้อนสามารถดื่มได้ มีสรรพคุณช่วยเรื่องระบบย่อยอาหารและผิวพรรณดีอีกด้วย

ข้อมูลการท่องเที่ยว

ในสาธารณรัฐเช็กต่างๆที่น่าสนใจ

• สินค้าที่น่าชื้อ ได้แก่ เครื่องแก้ว คริสตัล (ส่วนใหญ่ จะเป็นคริสตัล ที่นำมาจาก Swarovsky) และสินค้าหัตถกรรม จี้คริสตัลราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 600 – 2000 บาท (ถ้าครบเซ็ท หรือ ชิ้นใหญ่ก็แพงขึ้น) แจกันแก้วสวยขัดลาย เริ่มต้นที่ 1200 บาท (ยิ่งมีลายทองแท้ หรือ เคลือบสี ขัดลาย เยอะๆก็จะแพงขึ้น) คนไทยส่วนใหญ่ลงความเห็นว่า ถูกกว่าการซื้อที่ประเทศไทยอยู่ดี

• อาหารการกิน จะคล้ายๆกับ เยอรมัน ออสเตรีย ฮังการี ก็คือ แนวไก่อบ หมูอบ ไก่ทอด หมูทอด ซุปกูลาส โดยมีแกล้มเป็น มันฝรั่งอบหรือทอด และผักดอง/บีทรูทดอง รสเค็ม รสหวาน (มีเปรี้ยวนิดๆ) ส่วนขนมที่ต้องลองชิมคือ “TRDLO” (เท่าที่พยายามฟัง เขาออกเสียงว่า เทร็ด-ดโหล่ พยางค์หลังควบเสียง d กับ l) เป็นขนมปังกลวงๆเคลือบน้ำตาลแอลมอนด์ ปิ้งบนเตาถ่าน กินกับไอศกรีมหรือราดช็อคโกแล็ต ก็อร่อย

ขนม TRDLO

• ค่าครองชีพ น้ำดื่ม ขวดละ 30-50 บาท อาหารจานละ 100-250 บาท ฮอทด็อก (ชิ้นใหญ่กว่าหนึ่งไม้บรรทัด) 75 บาท ไวน์ร้อนแก้วละ 90 บาท
• อัตราแลกเปลี่ยน 1 โครน (Krone หรือ Krona) ประมาณ 1.5 – 1.6 บาท การแลกเปลี่ยนจากประเทศไทย ค่อนข้างยาก ถ้าแลกเป็นยูโรก่อนแล้วไปหาที่แลกเงินโครนอีกทีก็ได้ (แต่ดูอัตราให้ดีนะครับ หลายๆที่มี บอกว่าคิดค่า commission fee แพงเชียว) หลายๆร้านรับเงินยูโร ที่อัตรา 1 ยูโร = 25 โครน [ข้อมูล ณ ธันวาคม 2560]
• สภาพอากาศ ส่วนใหญ่จะชอบเดินทาง ฤดูร้อน (เพราะหน้าร้อนของเขา คือ หนาวแล้ว สำหรับคนไทย) อุณหภูมิ 16-22 องศา อากาศกำลังดี และมีสวนดอกไม้ในหลายที่ให้ถ่ายรูป แต่ … ที่เราไปกันนี้ เราไปฤดูหนาว อุณหภูมิ 0-4 องศา ซึ่งมีข้อสังเกตคือ ควรไปก่อนวันคริสต์มาสซักหน่อย คนยุโรปส่วนใหญ่จะเข้าใจ เพราะว่า ถ้าไปตรงวันหยุดเขา ถึงจะมีแสงไฟสวยๆ แต่หลายๆร้านจะขาดคน (เป็นวันหยุดพักร้อนยาว หรือเป็นวันครอบครัวเขา คล้ายๆสงกรานต์เรา)

• ภาษา ภาษาทางการคือ ภาษาเช็ก แต่คนในตัวเมืองส่วนใหญ่ พูดภาษาอังกฤษได้ดี (อัตราการรู้หนังสือเขาสูงมาก) แต่จะมี translator ไปบ้าง สำหรับการเที่ยวนอกเมืองก็ดี สวัสดี พูดว่า Ahoj (อาโอย) ขอบคุณ พูดว่า děkuji (เด กุย)

เครดิตภาพ : kui:nun:boy: att : max koedchai, prague.fm



ขอบคุณที่มาจาก

BACK