ชุ่มฉ่ำไปกับ 5 ที่เที่ยวหน้าฝน
1. ทุ่งดอกกกระเจียว จ. ชัยภูมิเมื่อเข้าสู่ช่วงเดือนมิ.ย – ก.ค. ของทุกปี เจ้าดอกกระเจียวสีชมพูต่างบานชูช่อเคล้าสายหมอก ชุ่มช่ำด้วยหยาดน้ำค้าง กลายเป็นทุ่งสีชมพูกว้างไกลสุดตา ทุ่งดอกกระเจียวยอดฮิตที่ได้รับความสนใจจากเหล่าบรรดานักท่องเที่ยวคงไม่พ้น ทุ่งดอกกระเจียวอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม และอุทยานแห่งชาติไทรทอง จ. ชัยภูมิ
2. มอหินขาว จ.ชัยภูมิเมื่อเรามาถึงจังหวัดชัยภูมิ ไม่ควรพลาดที่ต้องมาเยือน “มอหินขาว” อีกแหล่งท่องเที่ยว ที่มีความงดงามทางธรรมชาติไม่แพ้ทุ่งดอกกระเจียว ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูแลนคา อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ นอกจากจะได้พบเห็นประติมากรรมทางธรรมชาติของเสาหินที่ได้รับสมญานามว่า “สโตนแฮนจ์เมืองไทย” หากมาท่องเที่ยวในฤดูฝนยังได้พบดอกไม้ป่าหลากชนิดบานสะพรั่งเป็นภาพที่สวย งามและน่าชมนัก หากคุณได้เข้ามาสัมผัสมนต์เสน่ห์ของที่นี่จะหลงใหลมิรู้ลืม
3. ทุ่งแสลงหลวง จ. เพชรบูรณ์ หรือ ทุ่งหญ้าสะวันนาเมืองไทย ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติแสลงหลวง ในฤดูฝนสถานที่แห่งนี่ก็งดงามไม่แพ้ที่ใด ผืนป่าหน้าฝนของทุ่งแสลงหลวงมองไปทางไหนก็เขียวขจี ชุ่มชื่น ความงามของทิวสนเรียงรายที่ ทุ่งนางพญา ความโรแมนติกของหมอกฝนในยามเช้าที่จุดชมวิวดุสิตา ยังคงเป็นภาพศิลปะที่ธรรมชาติช่างสร้างสรรค์ได้อย่างเยี่ยมยอด
4. ปิล๊อก ทองผาภูมิ จ. กาญจนบุรีเมื่อตำนานแห่งความรุ่งโรจน์ของเหมืองแร่ได้ปิดฉากลง แต่ชื่อ ปิล๊อก ก็ไม่ได้ปิดฉากลงตามไปด้วย ในวันนี้กลับกลายเป็นสิ่งท้าทายให้นักเดินทางผู้ถวิลหาธรรมชาติและการผจญภัย หลั่งไหลไปเที่ยวอย่างไม่ขาดสาย เพื่อมาชมธรรมชาติแห่งขุนเขา สายธารน้ำตกที่อุดมสมบูรณ์ สัมผัสวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวบ้านในหมู่บ้านอีต่อง หากมาเที่ยวในหน้าฝนเราก็จะได้พบกับบรรยากาศอันสดชื่นของภูเขาเขียวขจีที่ เรียงรายสลับซับซ้อนเคล้าสายหมอกในฤดูฝน สิ่งเหล่านี้จึงเปรียบเสมือนแม่เหล็กที่คอยดึงดูดให้นักเดินทางมุ่งหน้าไป สัมผัสดินแดนที่เต็มไปด้วยมนต์ขลังแห่งนี้
5. โครงการหลวงแม่ลาน้อย จ. แม่ฮ่องสอนตั้งอยู่ในตำบลห้วยห้อม อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่ยังคงมี ความเป็นธรรมชาติและบริสุทธิ์ อบอุ่นไปด้วยวิถีชีวิตที่งดงามของชาวเขา ในช่วงเดือน ก.ย. ซึ่งป็นฤดูทำนาข้าว นักท่องเที่ยวจะได้ ชมความสวยงามของนาข้าวขั้นบันไดภายในพื้นที่ของโครงการตลอดสองข้างทาง รวมทั้งชมแปลงผักปลอดสารพิษ ที่ปลูกตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยังสามารถท่องเที่ยวเชิงนิเวศบ้านห้วยห้อม ชมแปลงกาแฟอาราบิก้า ฟาร์มแกะในที่สูง ที่สำคัญที่สุด คือ แม่ลาน้อยยังคงเป็นดินแดนแห่งธรรมชาติความเจริญยังไม่เข้าถึง ชาวบ้านยังคงใช้วิถีชีวิตแบบพอเพียง มีน้ำใจ และเป็นมิตร เมื่อได้มาที่นี่ คุณจะหลงรักในเสน่ห์ของแม่ลาน้อยไปโดยไม่รู้ตัว
ขอบคุณข้อมูลจาก travel.mthai.com
