เรื่องชีวิตหลังความตาย กับข้อพิสูจน์เรื่อง “ผี” และ “เทวดา

9_1_a799e7a2b9594ff

เรื่องราวของความตายเป็นสิ่งที่ทุกคนให้ความสนใจกันค่อนข้างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งชีวิต “หลังความตาย”

ดร.สนอง วรอุไร อาจารย์ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ให้คำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า สมัยก่อนไม่เคยเชื่อเรื่องเทวดา นรก สวรรค์ เปรต ชาติภพ การเวียนว่ายตายเกิด เพราะคิดว่าเป็นเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ จนกระทั่งเรียนจบจากต่างประเทศ ระหว่างที่รอสอนที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ช่วงนั้นว่างไม่รู้อะไรดลใจให้อยากพิสูจน์สิ่งที่ไม่เคย   1 เดือนเต็มๆ กับการปฏิบัติกรรมฐานที่วัดมหาธาตุ ส่งผลทำให้ความเชื่อของ ดร.สนองเปลี่ยนไป จนถึงขนาดกล่าวว่า
“ความเป็นวิทยาศาสตร์ที่ร่ำเรียนมาถอดทิ้งหมดเลย เพราะสามารถสัมผัสเทวดา ผีข้าง ถนนได้จริงๆ ซึ่งผมพยายามพิสูจน์มากว่า 30 ปียังหาข้อผิดพลาดไม่ได้ คุณจะสัมผัสได้ทั้งเทวดาและผี จิตวิญญาณทุกตน หากมีจิตสื่อถึงคนนั้น”

นอก จากจะได้สัมผัสเทวดา ผี แล้ว ดร.สนอง บอกว่ายังได้เห็นชาติภพที่ผ่านมา รู้ว่าเคยเกิดเป็นอะไรมาบ้าง ตรงนี้ทำให้รู้ว่าทุกคนมีการเวียนว่ายตายเกิด เกิดเป็นเทวดา เป็นเปรต เป็นสัตว์ ส่วนชาติภพไหนจะเกิดเป็นอะไรนั้นขึ้นอยู่ทำบุญ สร้างกรรมไว้มากน้อยเพียงใด ซึ่งหลังจากรับรู้แล้วก็ได้เริ่มสร้างสิ่งดีๆ มาตลอด เริ่มจากสิ่งใกล้ตัวไม่สร้างความเดือดร้อนหรือล่วงเกินใคร ทั้งทางกาย วาจา ใจ และทำบุญทำทาน อุทิศส่วนบุญให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ให้พวกเขารับผลบุญนี้ ดร.สนอง กล่าวถึงคนตายว่า ร่างกายตายแต่วิญญาณยังวนเวียนอยู่กับญาติ พี่น้อง คนรัก เนื่องจากความรักความผูกพันของผู้ตาย ซึ่งหลายคนมองไม่เห็น แต่คนตายเขาต้องการให้รับรู้ว่าเขามาหา จึงสัมผัสได้จากกลิ่น เสียง หรืออื่นๆ และที่ว่ากันว่าหมาหอนเพราะเห็นผีนั้น “เป็นเรื่องจริง” เนื่องเพราะหมามีสายตา จมูก ที่รับรู้ได้รวดเร็วกว่าคน

“จิตครั้งสุด ท้ายก่อนจะออกจากร่าง อยากให้นึกถึงบุญ ความดี ที่เคยทำระหว่างที่มีชีวิตอยู่ หรือนึกถึงพระพุทธรูป สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพสักการะ เพราะผลบุญเหล่านี้จะช่วยให้ดวงวิญญาณก่อนออกจากร่างไปสู่สวรรค์ ถ้านึกคิดแต่เรื่องทุกข์ สิ่งที่ไม่ดี มีอกุศลจิต ตายไปอาจตกนรก ทั้งที่ตลอดชีวิตทำดีมาตลอด อย่างไรก็ตาม ทุกคนจะได้สัมผัสทั้งนรกและสวรรค์เพียงแต่จะอยู่ที่ไหนยาวนานเท่านั้น หากทำความดีเยอะก็ได้รับความสุขสบายอยู่บนสวรรค์” ดร.สนองแนะนำวิธีการเตรียมตัวก่อนสิ้นใจ

ดังนั้น ทุกคนควรเตรียมตัวตายไว้ล่วงหน้า ก่อนร่างกายดับสนิท และก่อนลมหายใจสุดท้าย อยากให้ตั้งจิตอธิษฐานว่าเกิดชาติหน้าอยากเป็นอะไรไว้ด้วย “ตั้งจิต สมาธิ และอย่ายึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่รัก ไม่ว่าจะคน ทรัพย์สินเงินทอง เพราะยิ่งรักมากก็จะทุกข์มาก อยากให้ปล่อยวาง เราเกิดมาแต่ตัวเราก็ไปแต่ตัวเช่นเดียวกัน แล้วหมั่นกระทำความดีตลอดช่วงเวลาที่มีลมหายใจอยู่ เพื่อให้บุญกุศลนี้ช่วยให้ขึ้นสวรรค์”

เรื่องห้องครัว สยองขวัญ

silenthilldownpourscree

เรื่องที่จะเล่านี้เป็นเรื่องที่น่ากลัวของ เพื่อนรุ่นพี่ที่มหาลัยของผม
เหตุ เกิดขึ้นเมื่อประมาณหลายปีก่อน ช่วงที่พี่ซันย้ายบ้านเข้ามาอยู่ในบ้านหลังปัจจุบันซึ่งก็คือที่เกิดเหตุ นั้น มีอยู่คืนหนึ่งคืนแรกๆของการย้ายบ้านเข้ามา พี่ซันนั่งดูหนังจีนเปาบุ้นจิ้นช่องสามตอนค่ำกับ อาอี๊(ป้า) คืนนั้นอยู่กันสองคนป้ากับหลานรัก ช่วงนั้นเป็นหน้าหนาวอากาศหนาวมาก หนังใกล้จบ พี่ซันจะอาบน้ำ

ด้วยความเอาแต่ใจ พี่ซันจึงบอกให้อาอี๊ให้ไปต้มน้ำให้หน่อยจะอาปน้ำ หนาวมาก อาอี๊จึงลุกไปต้มน้ำให้หลานรัก จนหนังจบ อาอี๊ไม่กลับมา ด้วยความใจร้อนไม่รู้เรื่องแบบเด็กๆคิดว่าน้ำต้มเร่งให้เร็วได้ เลยวิ่งไปห้องครัวหลังบ้านจะไปเร่งอาอี๊

ปรากฎว่าเด็กน้อยกลับต้องมาเจอผู้เป็นป้าใส่ชุดสีขาวโทรมๆเหมือนเพิ่งอาบน้ำเสร็จ
ปล่อย ผมยาวปิดหน้าแฉะๆเหมือนสระผมไม่เช็ดหัวยืนทื่ออยู่!!! จึงตะโกนบอ�
�ว่าเร็วๆน่าอี๊หนาวมาก อย่ามาแกล้งเค้าเลย อยากอาบน้ำนอนแล้ว ว่าแล้วกลับไปดูทีวีต่อ เวลาผ่านไปไม่เท่าไหร่เด็กน้อยกลับไปที่ห้องครัวพบกับผู้เป็นป้าในสภาพ เดิม!! จึงตรงเข้าไปหาป้า!! ดึงข้อมือ กระชากแขน!! ซ้ำๆหลายครั้งแรงๆ “อาอี๊อาอี๊ ต้มน้ำเสร็จเร็วๆซี่ เร็วซี่” อาอี๊ยังคงยืนทื่ออยู่ “อาอี๊ทำไมตัวเย็นขนาดนี้ อาบน้ำก็ไม่เช็ดตัวให้แห้ง”!!! หลานจึงกำชับอีกครั้งว่าเร็วน๊ะ

แล้วจึงเปิดประตูหน้าบ้านจะออกไปเดินเล่นข้างนอกหน้าบ้าน
แต่ ภาพแรกที่ปรากฎคือ เห็นกาต้มน้ำ เห็นอาอี๊ในชุดปรกติที่ไม่ใช่ชุดขาวตัวผมไม่เปียกเลย ผมมัดรวบไม่ยาว กำลังนั่งที่ม้านั่งคุยกับเพื่อนบ้านหน้าบ้าน!!อนิจจา เด็กน้อย…..เท่านั้นพี่ผมคนนี้ ร้องไห้โฮออกมาไม่หยุดแล้วกลายเป็นโรคกลัวผี ตั้งแต่บัดนั้น อยู่ในบ้านคนเดียวไม่ได้ เข้าห้องน้ำต้องเปิดประตู ไม่เข้าห้องครัวคนเดียวเด็ดขาด…..555 (เรื่องอาจจะสั้ยหน่อยนะครับ)