แต่งงานดีไหม หรือโสดดีกว่า

 

 

หลายท่านคงเคยได้ยินคำกล่าวเกี่ยวกับการแต่งงานว่า 

“คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า” 

แสดงให้เห็นว่าประสบการณ์ของคนเกี่ยวกับชีวิตคู่มีทั้งแรงดึงดูดที่อยากให้ไปใช้ชีวิตด้วยกันเป็นคู่

ขณะเดียวกันพอได้ไปใช้ชีวิตคู่ด้วยกันจริงๆ กลับมีแรงผลัก ทำให้ไม่อยากใช้ชีวิตคู่ต่อไป ที่จริงแล้ว

ทุกอย่างในโลกนี้จะมีแง่บวกและแง่ลบปนเปกันอยู่เสมอ ดังนั้นจึงขึ้นกับความสามารถหรือสติ

ปัญญาของแต่ละคน นั่นคือเราต้องรู้เท่าทันสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวกับชีวิตคู่เสียก่อน จะทำให้เราสามารถ

ใช้ชีวิตคู่อย่างมีความสุขได้แน่นอน

                            

แต่งงานดีอย่างไร?

ในกรณีที่เรารู้ทันเรื่องของชีวิตคู่ได้ การแต่งงานน่าจะเป็นเรื่องดีกว่าการอยู่เป็นโสด เนื่องจากเป็น

ธรรมชาติของมนุษย์ที่มีความต้องการพื้นฐานของจิตใจที่อยากจะมีความสัมพันธ์กับมนุษย์ด้วยกัน

จึงทำให้มนุษย์ชอบอยู่กันเป็นสังคมเป็นหมู่เป็นเผ่าอยู่แล้ว ฉะนั้นการที่มีมนุษย์อีกคนที่พิเศษอย่าง

ยิ่งจะมาอยู่ใกล้ชิดกับตัวเรายิ่งกว่าใครๆ ที่จะสามารถตอบสนองความต้องการพื้นฐานนี้ด้วย และ

สามารถตอบสนองความต้องการต่อกันเรื่องอื่นๆ อีก เช่น ให้ความรัก ความอบอุ่น ความเป็นเพื่อน

เป็นที่ปรึกษาคู่คิด ให้ความห่วงใย สนใจเอาใจใส่ช่วยทำให้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว ไม่อ้างว้าง ไม่

หงอยเหงา ไม่ไร้ค่า มาดูแลและช่วยเหลือกันด้านอื่นๆ อีก ที่เกี่ยวกับการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้

ชีวิตง่ายขึ้นไม่ต้องทำเองทุกๆ เรื่อง เพราะมีหุ้นส่วนชีวิตมาช่วยกันคิดช่วยกันทำ ร่วมทุกข์ร่วมสุข

 

ฉะนั้น การมีชีวิตเป็นคู่จึงมีจุดมุ่งหมายหนึ่งคือการช่วยแบ่งเบาภาระของการดำรงชีวิต แบ่งงานกัน

ทำ เช่น คนหนึ่งทำอาหาร คนหนึ่งช่วยซ่อมสิ่งที่เสียหายในบ้าน หรือคนหนึ่งดูแลบ้าน คนหนึ่งไป

ทำงานหาเงินสำหรับครอบครัวเหมือนครอบครัวส่วนใหญ่ในสมัยก่อน แต่ปัจจุบันทั้งคู่มักทำงาน

หาเงินนอกบ้านด้วยกันเพื่อเพิ่มความมั่นคงทางการเงินของครอบครัวหรือความมั่นคงของอนาคต

ของทั้งคู่ จึงจำเป็นที่เวลาเข้าบ้านแล้วทั้งคู่จะต้องช่วยกันแบ่งเบาภาระต่างๆ ในบ้านด้วยไม่ควร

ปล่อยให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรับศึกสองด้านแต่ผู้เดียว เพราะนานวันเข้าจะนำไปสู่ความไม่พอใจจาก

ความอ่อนล้าเหน็ดเหนื่อยเกินไป หรือรู้สึกว่าฝ่ายหนึ่งเห็นแก่ตัว หรือจากความรู้สึกถูกเอาเปรียบ

แล้วอาจนำไปสู่ความแตกร้าวของชีวิตคู่ได้ในที่สุด ซึ่งได้เกิดให้พบเห็นเป็นประจำ

 

การแต่งงานไม่ใช่เรื่องจำเป็นว่าต้องแต่ง ถ้าเราสามารถดูแลตัวเองได้ หาเลี้ยงตัวเองได้ โดยเฉพาะ

ผู้หญิงที่มีอาชีพทำ จะช่วยตัวเองได้ ไม่ต้องพึ่งผู้ชายเหมือนสมัยโบราณ ผู้หญิงสามารถอยู่คนเดียว

ได้อย่างมีความสุขในสมัยนี้ แต่ถ้าสามารถเลือกคู่ได้ดีได้เหมาะสมที่จะมาร่วมชีวิตร่วมเดินทางชีวิต

ด้วยกัน มาช่วยกัน มาเป็นเพื่อนกัน ก็จะเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดี ที่มีความสุขได้มากๆ เหมือนกัน

ฉะนั้นการคิดจะแต่งงานต้องคิดคำนึงให้รอบด้าน ให้รอบคอบ โดยมีหลักอยู่ว่าถ้าแต่งงานแล้วชีวิต

ไม่ได้ง่ายขึ้น ไม่ได้ “กำไร” ชีวิต แต่จะมีภาระและความลำบากมากขึ้นรออยู่ข้างหน้าละก็ จงอย่า

แต่ง โดยเฉพาะผู้หญิงซึ่งสังคมบ้านเรายังอาจจะกลัวถูกกล่าวหาว่าหาคู่ไม่ได้ ไม่มีใครต้องการ และ

ถูกตราหน้าว่า “ขึ้นคาน” ก็ให้คิดว่าอยู่บนคานทองรับลมชมวิวสบายใจดีกว่า อย่าลงมาแบกขื่อเลย

ซึ่งตรงกับที่โบราณได้กล่าวไว้แล้วด้วยว่า “แม้แผ่นดินสิ้นชายที่พึงเชย อย่ามีคู่เสียเลยจะดี

กว่า” ตรงข้ามกับฝ่ายชายที่ค่อนข้างได้เปรียบกว่าฝ่ายหญิง เพราะมีงานวิจัยว่าผู้ชายที่แต่งงานมักมี

สุขภาพจิตดีขึ้นหรือมีความสุขมากกว่าชายโสด ส่วนผู้หญิงกลับพบว่าหลังแต่งงานอาจมีสุขภาพจิต

ลดถอยลงหรือมีความสุขน้อยลง ฉะนั้นจึงต้องใคร่ครวญตัดสินใจให้ดีๆ ก่อนแต่งงาน

 

 

อยู่เป็นโสดจะอยู่อย่างไรดี?

คนสมัครใจอยู่เป็นโสดมีมากขึ้นเรื่อยๆ ในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมที่พัฒนาแล้ว ใน

สังคมเมืองใหญ่ๆ ซึ่งคนมีการศึกษามากขึ้นทั้งชายและหญิง ทำให้ตัวเองใช้ช่วงชีวิตยาวนานไปใน

การศึกษาหาความรู้ และหลังจากเรียนจบมาแล้วต้องทำงานหนักเพราะมีการแข่งขันกันมาก คนไม่มี

ผลงานอาจถูกคัดออก หรืออาจไม่ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน เรียกว่าใครอยู่ข้างหลังอาจถูกทิ้งไป

แล้วยังต้องต่อสู้กับกระแสโลกที่ผลักดันให้คนนิยมชมชื่นกับวัตถุและเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งต้องใช้

เงินมาก จึงต้องยิ่งทำงานมากเพื่อหาเงินมากๆ เพื่อมาบริโภควัตถุราคาแพงต่างๆ เช่น บ้านหลัง

ใหญ่ๆ รถราคาแพง โทรศัพท์มือถือรุ่นแพงๆ คอมพิวเตอร์ และอื่นๆ อีกจนกล่าวไม่หมด จึงทำให้

หนุ่มสาววัยทำงานมีเวลาน้อยลงสำหรับนึกถึงชีวิตคู่ ไม่มีเวลาไปมองหาคู่ครองที่เหมาะสมกับตัว

เอง ซ้ำบางคนไม่อยากมีภาระผูกมัดกับใคร อยากเป็นอิสระจะได้คล่องตัวในการทำงานได้เต็มที่ ไม่

ว่าจะทำงานจนดึกดื่น หรือต้องเดินทางบ่อยๆ เพราะการงาน จะได้ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง อีกทั้ง

สามารถไปทำสิ่งที่ตัวเองต้องการได้ หรือสามารถใช้เงินที่หามาได้เต็มที่คนเดียวไม่ต้องแบ่งปันให้

ครอบครัวเช่น บางคน จะสะสมวัตถุที่ตัวเองชอบ ไปท่องเที่ยว ไปเล่นกีฬา ไปไล่ซื้อเครื่องมือเครื่อง

ใช้อุปกรณ์ให้ทันสมัยเสมอ เช่น รถยนต์ โทรศัพท์มือถือ เครื่องเสียง โดยคิดว่าเป็นวิธีหาความสุข

อย่างหนึ่ง บางคนอาจกลัวจะเป็นคนไม่ทันสมัยถ้าไม่ได้ใช้ของรุ่นล่าสุดอยู่เสมอ

ดังนั้น ข้อดีของการเป็นโสดจึงมีไม่น้อย คือ ความเป็นอิสระไม่มีความห่วงกังวล ทำตามใจตัวเอง

ได้เต็มที่ ข้อด้อยจะมีบ้าง คือ เมื่อไม่มีห่วงกังวลถึงใครเลยอาจทำให้ใช้ชีวิตอย่างเสี่ยงเกินไป เช่น

ขับรถเร็วเกินไป หรืออาจไม่ดูแลรักษาตัวเองให้ดีในเรื่องสุขภาพ อาจกินง่ายๆ ไม่ถูกสุขลักษณะ

อาจกินอาหารซ้ำๆ ที่สำเร็จรูป เพราะไม่มีคนดูแลเรื่องอาหารการกิน และกินคนเดียวอาจไม่นึกอร่อย

จึงมีอะไรก็กินกินไปมื้อๆ หนึ่ง บางคนอาจจะกินนอนไม่เป็นเวลา อาจใช้ชีวิตกลางคืนมากพร้อมกับ

การใช้เหล้าเบียร์ทำให้เสียสุขภาพ จึงพบมีการรายงานจากงานวิจัยว่า คนที่เป็นโสดโดยเฉพาะ

ผู้ชายมักจะมีอายุสั้นกว่าผู้ชายที่แต่งงาน

 

อย่างไรก็ตามสำหรับคนโสดที่ใช้ชีวิตได้อย่างถูกต้องเหมาะสมดูแลตัวเองดี มีสังคมที่ดี มีการเตรี

ยมเงินทองไว้ดูแลตัวเองยามเจ็บไข้ หรือแก่เฒ่าไม่ให้เดือดร้อนในบั้นปลายของชีวิต ชีวิตโสดเช่นนี้

จะมีความสุขได้มากๆ ไม่แพ้คนที่มีครอบครัวที่ดีเช่นกัน

 

จึงรวมความได้ว่า ไม่ว่าจะแต่งงานเพื่อใช้ชีวิตเป็นคู่หรือจะเป็นโสดใช้ชีวิตคนเดียว ถ้าใช้

ชีวิตอย่างถูกต้องอย่างเหมาะสมและอย่างฉลาดแล้ว ย่อมสามารถมีความสุขด้วยกันทั้งนั้น

เพียงแต่เป็นความสุขคนละแบบเท่านั้นเอง



SOCIAL NETWORK

Mono Mobile

แหล่งรวบรวมคอนเทนต์คุณภาพ ทั้งในรูปแบบวิดีโอคลิป สามารถดูได้ทุกที่ ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง รองรับการใช้งานหลากหลายอุปกรณ์

Mono Technology

อาคารจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ทาวเวอร์ เลขที่ 200 หมู่ 4 ถนนแจ้งวัฒนะ ปากเกร็ด นนทบุรี 11120 เบอร์โทร 021007007

TAGS

บันเทิง, ข่าวสาร, ก็อซซิป, คลิปตลก, คลิปเด็ด, ดูดวง, เพลงฮิต, เกม, ความรัก, กีฬา