ในทุกความสัมพันธ์นั้นมีทั้งสมหวังและผิดหวัง มีหัวเราะและร้องไห้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติไม่ว่าจะ
เป็นความสัมพันธ์แบบเพื่อน ครอบครัว หรือคู่รัก แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามในทุกความสัมพันธ์ไม่ควร
มี"ความรุนแรง" เข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นคำพูดที่ไม่รักษาน้ำใจหรือการลงไม้ลงมือ ซึ่งถ้า
หากว่าคุณกำลังตกอยู่ในสถานการณ์เหล่านี้ละก็ มาดูวิธีรับมือและแก้ไขจากคำแนะนำ
ของ กันค่ะ เพราะนอกจากจะมีประโยชน์กับตัวคุณโดยตรงแล้ว คุณยังสามารถนำวิธีการ
เหล่านี้ไปช่วยเหลือคนรอบข้างได้
1. รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ผู้หญิงไม่น้อยมักจะกล้ำกลืนและฝืนทนอยู่ในความสัมพันธ์แย่ ๆ เพียงเพราะ "อาย" ที่จะ
บอกเรื่องราวความเจ็บปวดของตนเองให้คนอื่นได้รับรู้ เพราะคุณกำลังจินตนาการไปถึงการซุบซิบ
นินทาของเพื่อนร่วมงานหรือคนในหมู่บ้านที่มักจะพูดเรื่องของคุณในทางลบ แต่ลองคิดกลับกันสิ
ว่าเขาเหล่านั้นไม่ได้รู้สึกรู้สาในความเจ็บปวดของคุณเลยแม้แต่นิดเดียว และคุณเองก็ไม่
ควรแคร์คำพูดเหล่านั้นมากกว่าจิตใจของตนเอง ดังนั้นเปิดใจให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้า
ช่วยเหลือ หรือไม่ก็ตัวคุณนี่แหละที่เป็นฝ่ายขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เองเลย
2. วางแผนสำหรับอนาคต
เราเข้าใจดีว่าในบางครั้งมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหลุดออกจากความเป็นอยู่เดิม ๆ โดย
เฉพาะหากคุณไม่มีเสรีภาพที่จะไปไหนมาไหนตามลำพัง หรือแม้กระทั่งเสรีภาพด้านการเงินที่คุณ
จำเป็นต้องพึ่งพาเขา จำไว้ว่าเงินที่ต้องแลกมาด้วยน้ำตาและความเจ็บปวดนั้นไม่คุ้มค่ากันเสียเลย
เชื่อสิว่าคุณมีทางเลือกอื่น ๆ ที่ดีกว่านี้ที่จะสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้โดยการพึ่งพาตนเอง ดังนั้นคุณควร
ที่จะคิดถึงแผนการสำหรับตนเองในอนาคตด้วย เช่น ที่อยู่ใหม่, ที่ทำงานใหม่ หรือการเริ่มต้นสิ่งใหม่
3. พูดถึงความเสี่ยงที่จะเกิดความไม่ปลอดภัยในทุกด้าน
สิ่งสำคัญอีกประการที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการเดินออกจากความสัมพันธ์ครั้งนี้ของคุณ ก็คือ
"ความไม่ปลอดภัย" อย่าลืมพูดถึงเรื่องนี้ต่อหน่วยงานที่คุณร้องขอความช่วยเหลือหรือหน่วยงานที่
ยื่นมือมาช่วยเหลือคุณ พร้อมกับหาวิธีแก้ไขและรับมือในกรณีที่อาจเกิดความเสี่ยง เช่น การโดน
รุกรานยังที่ทำงานใหม่, ที่พักใหม่ หรือคนในครอบครัวของคุณที่อาจได้รับผลกระทบครั้งนี้ไปกับคุณ
ด้วย
4. ขอการคุ้มครอง
กฎหมายการคุ้มครองของแต่ละประเทศนั้นแตกต่างกัน อีกทั้งในเรื่องของสิทธิสตรีเป็นสิ่ง
สำคัญที่คุณจำเป็นต้องรู้ เพราะหากมีแนวโน้มว่าคุณอาจไม่ปลอดภัยทั้งในชีวิตและทรัพย์สิน ลอง
ปรึกษาผู้มีความรู้ด้านกฎหมายและขอการคุ้มครองจากศาล
5. วางแผนล่วงหน้าให้มากที่สุด
สำหรับผู้หญิงบางคนไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเดินออกจากความรุนแรงในครอบครัว เพราะ
อาจมีหลายอย่างกระทบกับคุณโดยตรง เช่น การเปลี่ยนที่ทำงานใหม่, ย้ายที่อยู่ใหม่ หรือ
ย้ายโรงเรียนใหม่สำหรับลูก ๆ ดังนั้นควรมีการวางแผนไว้ล่วงหน้าให้มากที่สุดเท่าที่จะ
ทำได้ เพราะเมื่อถึงวันที่คุณได้รับอิสรภาพและหลุดออกมาจากความสัมพันธ์ร้าย ๆ ครั้งนี้ จะได้ไม่
ต้องกังวลในเรื่องอนาคตหากว่าคุณตระเตรียมเรื่องพวกนี้ไว้ทั้งหมดแล้ว
6. กระเป๋าฉุกเฉิน
อย่างที่บอกว่าความสัมพันธ์มีหลายรูปแบบ แม้กระทั่งความสัมพันธ์แย่ ๆ ก็ยังมีหลายรูป
แบบเช่นกัน เช่น ความรุนแรงจากคำพูด, การนอกใจ, การกักขังหน่วงเหนี่ยว โดยเฉพาะความ
รุนแรงจากการลงไม้ลงมือ และถ้าหากคุณกำลังตกอยู่กับความเจ็บปวดจากการโดนทำร้ายร่างกาย
ละก็ เราขอแนะนำให้เตรียมกระเป๋าฉุกเฉินไว้เลย ในกรณีที่คุณรู้สึกไม่ปลอดภัยและความรุนแรงใน
ครอบครัวมีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อย ๆ จะได้รีบออกมาจากสถานที่นั้นได้ทันท่วงที และในกระเป๋า
ฉุกเฉินก็ควรมีข้าวของที่จำเป็นติดมาด้วย เช่น โทรศัพท์, เงินสด, เสื้อผ้า, ยาประจำตัว ฯลฯ
7. ทั้งหมดทั้งมวลความปลอดภัยสำคัญที่สุด
ก่อนจะตัดสินใจทำอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะติดต่อให้เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วย
เหลือ รวมทั้งตัดสินใจออกจากบ้านเพื่อย้ายที่อยู่ใหม่ คุณควรคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก
เพราะบางครั้งคุณเองก็ไม่สามารถคิดหรือตัดสินใจอะไรได้คนเดียวในทันที แต่ควรปรึกษา
คนรอบข้างเพื่อให้ได้แน่ใจว่าคุณจะสามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้อย่างราบรื่นจริง ๆ รวมทั้ง
การใช้กฎหมายในการทำข้อตกลงกับคู่กรณีก็เป็นสิ่งสำคัญ อย่างน้อยหากเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นคุณ
ก็มีสิทธิ์จะปกป้องตัวเอง
ความรุนแรงในครอบครัวไม่ใช่เรื่องธรรมดา แม้ว่าเราจะเห็นคนรอบข้างต้องตกอยู่ในสภาวะ
เช่นนี้บ่อยครั้ง แต่อย่ามองเป็นความเคยชิน ซึ่งนอกจากจะต้องคอยเป็นหูเป็นตาให้กับผู้หญิง
ด้วยกันแล้ว มันยังเป็นเสมือนบทเรียนสอนคุณให้รู้จักป้องกัน แก้ไข พร้อมเอาตัวรอดจาก
สถานการณ์เลวร้ายเช่นนี้ด้วย และสำหรับใครที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว เราขอเป็น
กำลังใจให้ผู้หญิงทุกคนเข้มแข็งและผ่านพ้นไปให้ได้นะคะ
