เชื่อว่ามีสาวโสดจำนวนไม่น้อยเลยที่คิดว่าการแต่งงานเป็นเรื่องที่สวยหรู เพราะวาดฝันว่าหลัง
จากแต่งงานไปแล้วความรักของตัวเองน่ามีความมั่นคง และมีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น แต่ทว่าใน
ความเป็นจริงแล้วชีวิตหลังการแต่งงานมีเรื่องมากมายประดังประเดเข้ามาจากหลาย ๆ ด้าน จนอาจ
จะก่อตัวเป็นปัญหาใหญ่ทำให้ชีวิตคู่พังไม่เป็นท่า ซึ่งคิดว่าคงไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิด
ขึ้นกับตัวเอง ดังนั้น เรามาดูกันดีกว่า 4 สาเหตุหลักการหย่าร้างของคู่รักในปัจจุบันมีอะไรบ้าง จะได้
หาทางป้องกันได้อย่างถูกต้องและทันเวลา ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
1. ปัญหาเรื่องอีโก้สูง
บางครอบครัวนั้นอาจจะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นคนที่สามารถหารายได้เข้ามาได้มากกว่า ดังนั้น
จึงเป็นผลให้คนที่มีความสามารถมากกว่า หรือหารายได้เข้ามาจุนเจือครอบครัวมากกว่า มองเห็น
คุณค่าของอีกฝ่ายน้อยลง กลายเป็นช่องว่างระหว่างความสัมพันธ์ และทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายค่อย ๆ ห่าง
เหินออกไปทีละเล็กทีละน้อย จนกระทั่งจำเป็นต้องเลิกรากันไปในที่สุด
2. เลิกนิสัยการดื่มหนักไม่ได้
ปัญหาการหย่าร้างจะไม่มีทางเกิดขึ้น ถ้าหากมีการปรับเปลี่ยนนิสัยการดื่มให้น้อยลง หรือดื่ม
พอประมาณ และคิดถึงผลกระทบมากขึ้น แต่ทั้งนี้ถ้าหากคุณไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ดื่มหนัก
เป็นนิสัยและทำเป็นประจำ อีกทั้งมีการทำร้ายร่างกายเกิดขึ้นด้วยแล้ว โอกาสที่คนรักจะขอหย่าร้าง
ก็จะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย
3. ข่มสามีหรือภรรยาของตัวเอง
อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ชีวิตแต่งงานล้มไม่เป็นท่า ก็คือ โดนสามีหรือภรรยาของตัวเองข่มเหง
ทางร่างกายหรือจิตใจ ซึ่งหากใครได้เจอเหตุการณ์แบบนี้ก็ต้องรู้สึกอึดอัดเป็นธรรมดา เพราะไม่ว่า
จะทำอะไรก็ดูเหมือนจะเป็นคนผิด และโดนตีกรอบไปเสียหมด ทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริงแล้วคู่รักควรจะ
เป็นที่ยืนเคียงข้างกัน อาจจะผลัดกันเป็นฝ่ายนำและฝ่ายตามบ้างในบางสถานการณ์ แต่ไม่ใช่การ
ทำตัวเป็นผู้นำและกดขี่ข่มเหงอีกฝ่ายตลอดเวลาอย่างแน่นอน
4. ไม่เคยไว้เนื้อเชื่อใจกัน
การไว้เนื้อเชื่อใจกัน เป็นพื้นฐานที่จะทำให้ความรักของพวกคุณพัฒนาและก้าวไปข้างหน้าได้
ดี แต่ถ้าหากคุณขาดจุดนี้ไปแล้ว นอกจากจะทำให้ประสบความสำเร็จในชีวิตคู่ยากมากขึ้นแล้ว ยัง
เป็นการสร้างความทุกข์ให้กับตัวเองทางอ้อมด้วย เนื่องจากคุณจะรู้สึกหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลาว่า
เขาหรือเธอจะนอกใจ แม้จะเป็นเพื่อนกันก็ตาม
ปัญหาทุกอย่างมีทางออกเสมอ แต่ขึ้นอยู่กับคุณเองว่าจะเลือกปรับเปลี่ยนนิสัยเพื่อรักษาชีวิต
คู่เอาไว้ หรือเลือกจะเป็นตัวของตัวเอง และยอมเสียคนรักไป ซึ่งถ้าหากคุณเลือกที่จะรักษาชีวิต
คู่เอาไว้ ก็ลองทบทวนดูแล้วกันนะคะว่า มีนิสัยอย่างที่กล่าวไปบ้างหรือเปล่า ถ้าหากมีก็รีบ ๆ
แก้ไขเสีย ก่อนที่จะสายเกินไปหรือไม่ก็ลองพูดคุยกับคนรักดูว่า มีส่วนไหนที่คุณควรจะ
เปลี่ยนบ้าง จะได้ครองคู่กันไปนานจนลมหายใจสุดท้ายของกันและกันอย่างไรล่ะ
