วันที่ตัดสินใจว่า จะใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน
คุณ พลอยเล่าว่าที่ต้องแต่งงานกันก็เพราะแม่ของฝ่ายชายเสีย ญาติๆ ก็เลยอยากให้
คุณพลอยอยู่ในงานศพของครอบครัว ทำพิธีชุดใหญ่ด้วยกัน แล้วกฏก็คือ ต้องแต่งงานก่อนถึง
จะเข้าพิธีได้ ทางแฟนคุณพลอยก็ดูอยากแต่งงาน คุณพลอยบอกว่า ?เหมือนตกกระไดพลอย
โจน แต่งงานไปตามจังหวะ เป็นยังไงก็เป็นกัน คิดว่าดีแล้ว ตอนแต่งก็แฮปปี้นะ แต่ไม่ถึงขั้นตื้น
ตัน เพราะเราไม่ได้มองว่าการแต่งงงานเป็นจุดสิ้นสุดของชีวิตอยู่แล้ว? หลังจากนั้นเหตุการณ์ก็
ผ่านไป ชีวิตของทั้งสองดูเรียบง่าย มีความสุข ซื้อบ้านด้วยกัน ใช้ชีวิตเหมือนสามีภรรยาตาม
ปกติ
แล้วรักมาพังเอาตอนไหน?
เรา ถามคุณพลอย พร้อมคำตอบสั้นๆ จากเธอว่า ?ตอนที่เค้าบอกว่า ไม่อยากอยู่กับเรา
แล้ว? สั้นๆ ง่ายๆ คือ ?ตอนที่เราไม่สบาย เป็นดีเพรสชั่น อารมณ์ก็มีขึ้นๆ ลงๆ บ้าง มีฉากหมด
สติวูบไป แล้วเราเป็นคนไม่เป็นเวลา เค้าคอยดูแลเรา ถามว่าทานข้าวหรือยัง เค้าเป็นห่วงเรา
ตลอด คอยโทรหาเราทั้งวัน เช็คว่าเราเป็นยังไงบ้าง คือเขาดูแลเราดีมากๆ ยิ่งงานเราเยอะมาก
เขาก็ดูเขาใจ แล้วพอแต่งงานกัน เขาก็ยังดูแลอยู่ แต่หน้าตาเขาก็อมทุกข์ขึ้นเรื่อยๆ พอเราถาม
ว่าเป็นอะไร เขาก็บอกว่า เขาไม่อยากอยู่กับเราแล้ว? คุณพลอยบอกต่อว่า ?เขาน่าจะเหนื่อยที่
ต้องดูแลเรานะ แล้วเขาก็เป็นคนแบบนี้ คือต้องตามติดเรา จัดการอะไรให้เราเยอะ ถ้าเขาไม่
ตามติด เขาอาจไม่เหนื่อยแบบนี้ก็ได้?
เขาบอกว่า ?เราไม่เปลี่ยนจริงๆ?
คุณ พลอยช็อคกับคำตอบ เลยพยายามหาทางเวิร์คเอาท์กัน ?เราก็ยื่นข้อเสนอ คุยกัน
หลายครั้ง แต่เขาบอกว่า ไม่คิดว่าชีวิตแต่งงานจะเป็นแบบนี้ เขาเข้าใจแล้วว่า เราเป็นแบบนี้
จริงๆ เราเปลี่ยนไม่ได้ ตอนแรกเขาคิดว่าพอแต่งงานกัน เราจะหายไม่สบาย เราจะดูแลตัวเอง
ได้ดีขึ้น เราจะหายฟุ้งซ่าน แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็เข้าใจว่า นี่คือตัวเราจริงๆ แล้วเขาอยู่ด้วยไม่
ได้?
ฟังคุณพลอยแล้วสงสัยว่า อ้าว! คบกันมาตั้ง 3 ปี ไม่รู้เลยหรือ? แล้วเขาก็น่าจะชอบที่
คุณพลอยเป็นคนแบบนั้นมาตั้งแต่แรกนี่นา คุณพลอยบอกว่า ?เขาเคยบอกว่าชอบเรา เพราะ
เราไม่เฟค เราเป็นตัวของตัวเอง แต่งตัวแรงยังไงก็แรงเหมือนเดิม พอตอนหลังเราถามเขาว่า
แล้วอยากได้ผู้หญิงแบบไหน เขากลับบอกว่าไม่รู้ แต่ไม่ใช่แบบเรา?
ความเป็นตัวเอง ทำร้ายตัวเองยังไง?
เรา ถามคุณพลอยว่า แล้วถ้าย้อนเวลากลับได้ มองตัวเองแล้ว มีอะไรที่มองเห็นว่า อาจ
เยอะเกินไปสำหรับคนรักมั้ย คุณพลอยแววตาอ่อนโยนลงแล้วพูดกับเราช้าๆ ว่า ?จะลดความ
เป็นตัวของตัวเองลง บางครั้งไม่ต้องชัดเจนกับความต้องการตัวเอง ไปซะทุกสิ่งก็ได้ ไม่ต้องใช่
เป๊ะไปทุกอย่าง ความเป็นคนตรงๆ ไม่ชอบก็บอกไม่ชอบ สงสัยก็ถาม ทำไมเธอเป็นแบบนั้น
ทำไมเธอไม่แฮปปี้ ตอนแรกๆ เหมือนเขาจะยอมเรา แต่พอมาถึงจุดหนึ่ง เขาก็ไม่เอาแล้ว? คุณ
พลอยบอกว่ามันต้องมีโหมดเฉยๆ เรียบๆ เออๆ ออๆ ปล่อยเขาทำไปตามเวย์ของเขาบ้าง
เพราะถ้าเราชัดเจนไป ผู้ชายเราจะรู้สึกกดดัน และเหนื่อย
เรื่องเงินก็ดูเป็นอีกเหตุให้ต้องเลิกกัน
อีก เรื่องที่คุณพลอยบอกว่า ไม่นึกว่าเขาจะคิด แต่เขาก็คิด ?คือเราใช้เงินซื้อความสุข
ให้ตัวเอง แต่ก็เพราะเราทำงานแบบนี้ มันต้องใช้เงินเสพจริงๆ ไม่อย่างนั้นจะไม่ทันโลก เราซื้อ
น้ำแก้วละร้อยกว่าบาท ก็เฉยๆ แต่เขาจะไม่เข้าใจว่า เราซื้อไปได้ไง และเขานึกว่าเราจะเปลี่ยน
ได้ แต่เราก็เป็นของเราแบบเดิม แล้วอีกอย่าง เราก็หาเงินมาได้ด้วยตัวเอง ไม่ได้ขอเงินเขา
แล้วความจริงเราเป็นคนไม่แบรนด์เนมเลย อาจดูซื้อของเยอะ แต่ไม่ได้แพงขนาดนั้น?
ฉันเปลี่ยนเพื่อเธอเยอะแล้วนะ
ถึง จะเป็นสาวเซลฟ์ยังไง มุมน่ารัก ทุ่มเทของคุณพลอยก็มีอยู่มาก เธอบอกว่า ?ตอนที่
กำลังจะเลิกกันแล้ว เราก็มีโกรธเหมือนกัน คือเราพยายามมาหลายเรื่อง อย่างทำกับข้าว เขา
โตมากับครอบครัวจีน ต้องกินข้าวมื้อละหลายอย่าง เราก็เอา หัดทำ ปลานึ่งซีอิ๊วนี่เรายังทำได้
เลย ในครัวเรามีรังนึ่งแบบนั้นเลย แล้วเราก็ไม่ชอบศาลเจ้าจีนตั้งในบ้าน แต่ก็ได้ พอวันที่เขา
บอกไม่อยากอยู่กับเรา มันเลยเจ็บปวดมาก เพราะเราก็พยายามหลายอย่างให้เธอด้วยนะ?
สุดท้ายก็ต้องแยกทางกัน
เมื่อ รักกำลังจะจบแล้ว คุณพลอยเป็นฝ่ายหาทางให้กลับมาอยู่ด้วยกันอีก แต่เขากลับ
เป็นฝ่ายบอกว่า ?วิธีของเขาคือ แยกกันอยู่สักพัก แต่สำหรับเรา นั่นคือการซ้อมเลิก แล้วพอดี
ช่วงนั้นเราไปเมืองนอกคนเดียว มันก็ได้ห่างกัน พอกลับมา ก็ถามเขาว่า เราไม่อยู่แล้วเป็นไง
เขาบอกว่า ก็เหงานะ แต่สบายดี เราเลยบอกว่า อย่างนั้นเลิกกันเถอะ? สิ่งที่ทำเจ็ให้คุณพลอย
จี๊ดใจที่สุดคือ ?ตั้งแต่แรกเราก็ไม่ได้อินกับการแต่งงาน เราไม่ชอบอยู่กับครอบครัวใหญ่ แล้ว
ปกติเราไม่ยุ่งกับญาติเท่าไหร่ แต่พอมาแต่งกับเขา เราตื่นมาไหว้เจ้าตอนตีสอง ต้องเข้ากับ
ครอบครัวทั้งโขลงของเขาให้ได้? สุดท้ายทั้งคู่ก็แยกย้ายกันไป จนวันนี้คุณพลอยบอกว่า ?มี
ช่วงแย่เหมือนกัน ตอนขับรถกลับบ้าน บางทีก็ปล่อยให้มันแย่ไปเลย แต่โชคดียังทำงานได้ มี
สมาธิ วันที่เศร้ามากๆ ก็จะบิลด์ตัวเองไปเลย แล้วปล่อย เดี๋ยวมันก็จะดีขึ้นเอง?
ยังศรัทธาในรักอีกไหม?
เป็น คำถามสุดท้ายที่เราถามเธอ แอบดีใจที่เห็นเธอยิ้มแล้วบอกเราว่า ?ยังเชื่อว่ามีรัก
ใหม่ได้ ค่ะ มันก็เป็นจังหวะที่แค่ผ่านมา เราเดินไปเจอคนที่ไม่ใช่ แล้วเราก็เป็นแนวรักทุ่มเท ไม่
ได้คิดอะไรรอบคอบ เอาตัวเองเข้าไปลองเลย? อีกเรื่องที่คุณพลอยย้ำกับเรา
ถ้า เจอรักใหม่ จะไม่เป็นตัวเองเต็มร้อย จะชิลล์ๆ กับความรักขึ้น ไม่จำเป็นว่าทุกอย่าง
ต้องได้ดั่งใจเราเสมอ เป็นคนตรงๆ อาจทำร้ายใครก็ได้ ต้องอ้อมๆ บ้าง แล้วเราก็อยาก
บอกทุกคนว่า ให้กล้าที่จะรักน่ะดีแล้ว ถ้าเจ็บก็ต้องฟื้นให้เป็น ความรักมีทั้งดี และไม่ดี
เวลาเรารักใครมันก็ต้องมีคาดหวังบ้าง แล้วเราก็จะไม่ได้ดั่งใจ เราก็ต้องแยกแยะให้ได้
อันนี้เราเหวี่ยงไปเอง อันนี้เขางี่เง่า แต่เขาก็มีดีนะ ก็ช่างมันไปบ้าง รักกับใครมันมาทั้ง
แพ็คเกจ เขาเอาใจเก่ง แต่เขาอาจเจ้าชู้ เขาซื่อสัตย์แต่เขาอาจเป๊ะเรื่องเงิน คือเราต้อง
ซื้อทั้งแพคเกจให้ได้?
