หลังจากอ่านบทความนี้แล้ว สลัดปัญหานี้ทิ้งไปได้เลย! เพราะเราจะแนะนำ " ข้อ
ควรทำ / ข้อห้ามในการรุก / จีบ / อ่อยหนุ่มบน Facebook " อย่างละเอียด
( กะว่าได้แน่นอน ) จะต้องทำยังไง เลื่อนลงมาดูข้างล่างสิคะ เร็วๆ เดี๋ยวไม่ทันการ!!! [>=<]
1. กด Add เขาเป็นเพื่อนเลย ไม่ต้องลังเล
มีชื่อเฟสบุ๊คเขาแล้วใช่ไหม นั่นไงปุ่ม dd friend กดสิจ๊ะรออะไรอยู่! แค่กดเพิ่ม
เพื่อน ไม่มีอะไรเสียหายหรอกน่า การเป็นเพื่อนกันใน facebook เป็นการเปิดโอกาสให้
เธอเห็นเรื่องราวต่างๆ ของเขาที่เวลาปกติอาจจะไม่มีวันเห็น สมัยก่อนเมื่อเลิกเรียนก็จบ
กัน แต่เดี๋ยวนี้มี foursquare ให้เช็คอิน มี instagram ให้ลงรูป ถ้าเขาติดโซเชียล เธอจะได้
เห็นเขาทุกอิริยาบถแบบฟรีๆ เลยล่ะเลิกเรียนแล้วเขาไปไหน เขามีรสนิยมฟังเพลงอะไร เขา
ชอบไปเที่ยวที่ไหนวันเสาร์อาทิตย์ และที่สำคัญที่สุดคือ เขามีแฟนหรือยัง! ( แม้จะมีบุคคล
ประเภทไม่ยอมกด in a relationship เพราะหวงความโสดหริออะไรก็ตาม แต่ส่องแป๊บเดียวก็
พอเดาได้แน่นอน ) เปิดโอกาสให้เธอคุย คอมเมนท์ ไลค์ยังไม่พอ ยังมีฟังค์ชั่นแชทเพื่อคุยกัน
ส่วนตัวได้อีก ดังนั้น กด Add ซะ!
2. อย่าสร้าง account ปลอมไว้คอยสืบเรื่องราวของเขา
อย่าทำตัวเป็นสตอล์กเกอร์! แค่ใช้ account ตัวเองก็แย่พออยู่แล้ว แต่ที่พีคกว่าคือ
สร้างตัวตนปลอมเพื่อคอยสืบเสาะ ขุดคุ้ยเรื่องราวของเขา เพียงเพราะ " มโนไปเอง " ว่าเขา
ซ่อนโพสต์บางอย่างที่ไม่อยากให้เธอเห็น เช่น แอบชอบเธอแต่ไม่พูด หรือรำคาญเธอแล้ว
โพสต์บอกเพื่อนๆ ทุกคน ( คิดว่าตัวเองสำคัญขนาดนั้นเลย ? ) กลับมาสู่โลกความจริงเถอะค่ะ -.-
ถ้าเธอเพิ่งรู้จักกัน เขาคงไม่มีข้อมูลอะไรจะตัดพ้อต่อว่าเธอได้หรอก สบายใจได้! อีกอย่างคือ
ทุกคนต้องการ " ความเป็นส่วนตัว " นะคะ นึก ภาพว่ามีคนสร้าง account ปลอมคอย
ติดตามเธอตลอดเวลา บล็อกยังไงก็ไม่หยุด เธอจะรู้สึกระแวงขนาดไหน และถึงแม้ว่า ( ย้ำว่า
ถึงแม้ว่า ) เขามีความลับที่ซ่อนเธออยู่จริงๆ ก็แปลว่าเขาไม่อยากให้เธอรู้ ดังนั้นควรเคารพการ
ตัดสินใจของเขาบางที เอาหูไปนา เอาตาไปไร่บ้างก็สบายใจกว่ารู้ไปหมดทุกเรื่องนะ
3. ส่องประวัติ / ไทม์ไลน์ของเขา
การส่องประวัติ ข้อมูลส่วนตัวหรือดูโพสต์ในไทม์ไลน์ของเขาบ้างไม่ใช่เรื่องเสียหาย!
เราจะกดเพิ่มคนๆ หนึ่งมาเป็นเพื่อนทำไม ถ้าเราไม่มีสิทธิ์กดดูโพสต์ รูปภาพ หรือวิดีโอที่เขา
แชร์ให้เพื่อนเลย ทำใจกล้าๆ หน่อย ใช้ประโยชน์จากคำว่า " Social Network " ให้เป็น
ประโยชน์ ดูรัวๆ ไปเลยค่ะการส่องดูไทม์ไลน์ทำให้เธอรู้คร่าวๆ ว่าเขากำลังใช้ชีวิตแบบไหน มี
กิจวัตรประจำวันยังไง บางคนก็เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวในโลกออนไลน์มากกว่าพูดตรงๆ
กับคนใกล้ตัวเสียอีก ดังนั้นเฟสบุ๊คคือคำตอบ! ถ้าเป็น account ที่เจ้าตัวเล่นเองจริงๆ มักจะ
เผยตัวตนออกมาไม่มากก็น้อยล่ะ ลองสังเกตดูแต่ ถ้าเธอเจอมนุษย์ประเภทชอบเก็บงำความ
ลับ ไทม์ไลน์โล่งยิ่งกว่าโรงเรียนหลังหกโมงเย็น ( เงียบสงัดยิ่งกว่าป่าช้า บรึ๋ย!!! ) ก็อาจจะ
ลำบากหน่อยนะ (??_______??)
4. อย่าเจาะรายละเอียดมากเกินไป
มีความแตกต่างอย่างมากระหว่าง " แค่ส่องขำๆ " กับ " จ้องจับผิดทุกกระเบียดนิ้ว
" นะคะ =_= การที่เธอนั่งจ้องหน้าจอตลอด 24 ชั่วโมง เปิดอยู่หน้าต่างเดียวคือไทม์ไลน์ของ
เขา คอยส่องทุกโพสต์ สเตตัส เขาคอมเมนท์กับใครบ้าง กดไลค์เพจไหนบ้าง เช็คอินที่ไหน
บ้าง มันดูโรคจิตอ่อนๆ นะ แต่กรณีหนักๆ คือขุดคุ้ยไปถึงกิจกรรมเมื่อ 3-4 ปีก่อน ( ที่เขาอาจจะ
ยังคบกับแฟนเก่า ) แล้วมานั่งเครียดว่าเขาจะกลับมารีเทิร์นกันไหม เขาเช็คอินกับเพศตรงข้าม
เธอก็มโนไปแล้วว่าเป็นแฟนใหม่ เขาบ่นอะไรเครียดๆ ก็มานั่งกลุ้ม เฮ้ย! คิดมากไปไหมเนี่ย
เรื่องบางอย่างก็เป็นแค่อดีต! อย่าเก็บมาคิดให้มารกสมองเลยค่ะ คิดกลับกัน เธอยังเคยโพสต์
อะไรแปลกๆ ประหลาดๆ ได้เลย ( แอพพลิเคชั่นดึงสเตตัสอย่าง Timehop เป็นสิ่งบ่งบอกว่า
เราเคยไร้สาระมากแค่ไหน ) อะไรที่ไม่ควรรื้อฟื้นก็กลบให้มิดเถอะ ยิ่งคิด แล้วแสดงออก
แบบผิดๆ จะยิ่งกลายเป็นเรื่องใหญ่ ทั้งที่ต้นตอเป็นแค่เรื่องเพี้ยนๆ ตอนยังคึกคะนองเท่านั้น
เอง
5. กดไลค์ และ คอมเมนท์ สเตตัส + โพสต์ของเขาบ้าง
เฟสบุ๊คมีฟังค์ชั่นกดไลค์ คอมเมนท์ไปเพื่ออะไร ก็เพื่อกดให้คนที่ชอบไงล่ะ!
การกดไลค์และแสดงความเห็นในสเตตัสของเขาบ้างเป็นเรื่องที่ดี เพราะแปลว่าเธออยากสาน
สัมพันธ์กับเขา สนใจในเรื่องต่างๆ ของเขา ก็แหม ถ้าไม่ชอบ ไม่สนใจคงไม่เสียเวลาพิมพ์ยาวๆ
หรอก จริงไหมหนุ่มๆ บางคนชอบโพสต์ประเด็นเครียดๆ แล้วให้เพื่อนในลิสต์มาคุยแลกเปลี่ยน
ความเห็นกัน อย่าพลาดโอกาสที่จะไปแจม! เพราะ นอกจากทำให้เธอแสดงด้าน " ความ
ฉลาด " และ " ทัศนคติส่วนตัว " แล้ว ยังทำให้เธอเผยมุมมองส่วนตัวที่อาจไม่เจอจาก
โลกภายนอก ซึ่งทำให้เขาสนใจ! ยิ่ง ถ้าความเห็นไปในทางเดียวกัน เขาจะไว้ใจและกล้าคุย
กับเธอในโลกความจริงมากขึ้น เผลอๆ ถ้าคุยถูกคอเขาอาจทักแชทมาเองเลยก็ได้ >w<
6. อย่าคอมเมนท์รัวๆ จนทั้งไทม์ไลน์ของเขามีแต่ชื่อเธอ
เข้าใจว่าชอบผู้ชายคนนี้ แต่การขยันกดไลค์ คอมเมนท์ดะทุกโพสต์ของเขาที่ขวางหน้า
ก็ดูเป็น " ยัยโรคจิต " เกินไปหน่อยนะ! คู่รักที่แต่งงานแล้วยังมีสิ่งที่ไม่ชอบในตัวคนรักเลย และ
ที่สำคัญ เธอจะดูเหมือนคนที่กดไลค์ไปงั้นๆ ไม่ได้ใส่ใจในสิ่งที่เขาอ่านจริงๆ ( แม้บางที
เธอจะอ่าน ) เพราะไม่มีโพสต์ไหนโดดเด่นขึ้นมาเลยนั่นเอง
นึก ภาพกลับกัน ถ้ามีหนุ่มท่าทางประหลาดมาขยันไลค์ ขยันคอมเมนท์รัวๆ จนเฟสบุ๊คของเธอ
มีแต่การแจ้งเตือนของเขา เธอก็คงไม่อยากกดดู notification เพราะเหม็นเบื่อจะแย่อยู่แล้วใช่
ไหมล่ะ =_= กดแค่สิ่งที่ตัวเองสนใจก็พอ ก่อนที่เขาจะอันเฟรนด์และบล็อกเธอไปอย่าง
ถาวร
7. อ่านโพสต์ในไทม์ไลน์ เพื่อศึกษาอุปนิสัย / พฤติกรรม / ทัศนคติและความชอบ
ของเขา
ข้อดีอย่างหนึ่งของ Facebook คือทุกอย่างมีไว้เพื่อแชร์! ไม่ว่าจะสเตตัสว่ากินอะไร
เป็นมื้อเช้า วันนี้ดูภาพยนตร์ชื่ออะไร ที่ไหน สนุกไหม ( บางคนชอบเขียนรีวิว ก็จะทิ้งความเห็น
ไว้ให้เราอ่านก่อนตัดสินใจด้วย ) ทำให้เรารู้งานอดิเรก ความชอบ ความสนใจและรสนิยม
ส่วนตัวของเขา จุดนี้แหละทำให้เธอได้คิดว่าจะรุกต่อดีไหม หากความชอบของเธอและเขา
ต่างกันสุดขั้ว จะได้ตัดใจได้ทัน!อยาก รู้นิสัยส่วนตัวของเขาใช่ไหม ไม่ยาก! ลองอ่านกล่อง
คอมเมนท์ที่เขาคุยโต้ตอบกับเพื่อน หรือญาติผู้ใหญ่ในเฟสสิ มีคำหยาบไหม ใช้อีโมติคอนประ
กอบรึเปล่า มีคำพูดประจำตัวไหม ยิ่งมีการ mention หรือกล่าวถึงใครเป็นพิเศษ เธอสามารถ
กดลิงค์จากชื่อนั้นเพื่อสืบต่อได้อีก ตามประสาเครือข่ายออนไลน์ที่โยงกันเป็นใยแมงมุมใครจะ
รู้ บางทีเขาอาจรู้จักหรือสนิทกับคนรอบตัวของเธอก็ได้!
8. อย่าตามสืบคนรอบตัวทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเขา
อย่างที่เคยบอกไปข้อบนๆ แล้วว่า อย่าทำตัวเป็นสตอล์กเกอร์! ตามสืบ ตามขุดคุ้ยแค่
เขาก็วุ่นวายพออยู่แล้ว บางคนเลเวลสูงถึงขนาดตามเจาะข้อมูลทุกคนรอบตัวเขา ( ยิ่งกว่า
เครื่องขุดเจาะถนนอีกค่ะ ยอม! ) เพื่อดูว่าแฟนเก่าเขาเป็นใคร เพื่อนสนิทเขามีใครบ้าง เพื่อน
ร่วมงานหรือเพื่อนที่มีร่วมกันมีกี่คน เป็นใครบ้าง ติดต่อกันบ้างไหม ถ้าดูพอผ่านๆ ก็โอเคหรอก
แต่ถ้าอ่านจนมัวเมา ขุดไม่ขึ้นก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ -.-!
อย่าทำตัวเป็นสาวนักสืบขี้หึง เพราะเป็นสิ่งที่น่ารำคาญ ไม่ว่ากับเพศไหนทั้งนั้น =_= อย่ากลุ้ม
กังวล พารานอยด์ไม่เข้าเรื่อง ฮัลโหล เธอกับเขายังไม่ได้เป็นแฟนกันเลยนะจ๊ะ ตั้งสติ
หน่อย!
9. ทักแชทไปบ้างก็ไม่เสียหาย
มาร์ค ซักเกอร์เบิร์กคิดค้นฟังค์ชั่นแชทขึ้นมาเพื่ออะไร ก็เพื่อให้คนสองคนคุยกันใน
เรื่องที่ไม่จำเป็นต้องออกสู่สาธารณะไงล่ะ! เรื่องบางอย่างก็น่าอาย หรือเป็นความลับเกินจะให้
บุคคลที่สามรู้ ทางออกก็คือการ " แชท " หรือ " ส่งข้อความ " เพื่อบอกความในใจนั่นเอง
ถ้าเธอเป็นสาวขี้อาย แต่อยากทักทายเขาบ้าง ลองใช้โอกาสหลังเขารับแอด ทักแชทไปบอก
ว่า " สวัสดีค่ะ ขอบคุณที่รับแอดนะคะ " หรือถ้ากล้าพอก็พูดเรื่องอื่นๆ เสริมไปด้วย เช่น "
ชอบสเตตัสล่าสุดของนายมากเลย เราก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน " แค่นี้ก็สามารถต่อยอดได้อีก
ยาว
ที่ สำคัญ ฟังค์ชั่นแชทใน facebook สามารถส่งข้อความได้ตลอด ไม่ว่าเจ้าตัวจ
ะออนไลน์หรือออฟไลน์ อยากทักตอนไหนก็ทักได้เสมอ แถมยังเป็นความลับระหว่างเธอสอง
คนอีกด้วยนะ ฟินจะตาย!
10. ปล่อยให้เขามี " เวลาออนไลน์ส่วนตัว " บ้าง
อย่างที่บอกว่า เธอทั้งสองเพิ่งเริ่มทำความรู้จักกัน จะเรียกว่าเป็น " คนรู้จัก " ยัง
ไม่ได้เต็มปากด้วยซ้ำ ไม่ต้องก้าวข้ามไปถึงสถานะแฟน! เธอไม่จำเป็นต้องทำตัวเป็นนักสืบสาว
คอยเช็ค จำรายละเอียดทุกอย่างที่เขาทำก่อนจะรู้จักเธอหรอก ( ถึงแม้เป็นโพสต์ปัจจุบันก็ไม่
ควรยุ่งวุ่นวายด้วยซ้ำ )
ถ้าเขาโพสต์ รูปหรือสเตตัสจำพวกดื่มของมึนเมา คำหยาบคายแรงๆ หรือคำพร่ำเพ้อถึงแฟน
เก่า ถึงเธออยากเป็นแม่พระ หรือคุณครูที่อบรมสั่งสอนเขาก็ห้ามทำ เพราะเธอไม่ใช่แม่ของเขา
ไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่ายใดๆ ทั้งสิ้น จงเคารพความคิดและการตัดสินใจของเขา ถ้าเธอสงสัยเรื่อง
ไหนให้เก็บไว้ก่อน รอให้สนิทกันมากกว่านี้ค่อยถามก็ยังไม่สายหรอกน่า!