1.แฟนเก่าโรคจิต
หัว ข้ออันตราย / ต้องห้ามมากที่สุดในการเดทคือ " แฟนเก่า " ( ในกรณีที่เคยมีแฟนมาก่อน )
ยิ่งถ้าจบแบบไม่สวยล่ะก็ พยายามเลี่ยงให้มากที่สุดจะดีกว่า แต่หากคุยไปคุยมาแล้วต้องวกกลับมา
เรื่องนี้จริงๆ ก็ให้คุยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ปกติธรรมดา บอกแค่ว่า " อ๋อ เราไปกันไม่ได้น่ะ " ก็พอ
อย่าทำหน้าตื่นแล้วรีบโพล่งว่า " อ๋อ! แฟนเก่าของฉันน่ะเหรอ ช่วงเลิกกันใหม่ๆ เขาโทรหาฉันทุก
คืนเลย โทรมาว่าไงรู้ไหม แกกล้ามากที่บังอาจเลิกกับฉัน ตายศพไม่สวยแน่" หรือ " เขาเคยกระโดด
ขวางหน้ารถไม่ให้ฉันขับหนีด้วย ดีนะที่ไม่ชน แต่ก็เข้าโรงพยาบาลไปหลายเดือน " หรือ " ครั้ง
ล่าสุดที่เขาเห็นฉันอยู่กับแฟนใหม่ ผู้ชายคนนั้นรักษาตัวอยู่ ยังไม่ออกมาเลย " คู่เดทของเธอคงไม่
อยากเป็นตัวตายตัวแทนแฟนใหม่คนนั้นแน่นอนค่ะ
อีก เหตุผลหนึ่งคือ บางคนจะแอบคิดไปว่า การที่เรามี " แฟนเก่า " แปลว่าเราต้องมีบางสิ่งที่ไม่ดี
ผู้ชายจึงขอเลิก ดังนั้นพยายามอย่าเน้นเรื่องนี้มากดีกว่า?
2. ความชอบ / รสนิยมแปลกๆ ที่น่ากลัว
ไม่ มีใครอยากรู้ว่าสาวสวยน่ารักตรงหน้าชอบแส้ กุญแจมือ น้ำตาเทียนตั้งแต่คุยกันในเดทแรก
หรอกนะ! ผู้หญิงบางคนมีรสนิยมและความชอบแปลกๆ ที่ใครก็ไม่อาจเข้าถึง โดยเฉพาะสาวสาย "
มโน " มีเพื่อนแท้เป็นหนังสือนิยายและเกมเรท 18+ สมองเพริดแพร้วไปด้วยจินตนาการแบบสุดขั้ว
( นึกถึงห้องแดงใน Fifty Shade of Grey แล้วจะเข้าใจ )?
ถ้าเธอเริ่มพูดถึงคำว่า " จริงๆ เราชอบความเจ็บปวดน่ะ เนี่ย ที่บ้านก็มีแส้อยู่ด้ามนึง พรีออเดอร์มา
กลัวคนหาว่าเป็นโรคจิต... " เธอคิดว่าเจ้าหนุ่มข้างหน้าจะทำสีหน้าอย่างไร แน่นอนว่าเขาจะเปลี่ยน
มุมมองที่มีต่อเธอทันที จากสาวหวานแบ๊วๆ เป็นสาว Sadism ที่ต้องถอยหนีให้ไกล ผู้ชายบางคนก็
ไม่เข้าใจคำว่าล้อเล่น เพราะเขายังไม่รู้จักเธอดีพอไงล่ะ
สงบปากสงบคำ อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้จนกว่าจะสนิทจนถึงขั้นร่วมหอลงโรง ถ้าเขาบังเอิญถามขึ้นมา
จริงๆ ก็บอกแค่ " ไม่มีอะไรเป็นพิเศษหรอก เราไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้ "?
3. ลักษณะของครอบครัว / นิสัยคนที่บ้าน
เพิ่ง เจอหน้าผู้ชาย อย่าเพิ่งสาธยายเล่าประวัติครอบครัว ดราม่าชีวิตตั้งแต่เกิดจนโต ครอบครัว
ยากจนปากกัดตีนถีบ ต้องสู้รบกับคนโน้นคนนี้จนกว่าจะตั้งตัวได้ และอีกหลายเรื่องเศร้าเคล้าน้ำตา
จนหนุ่มๆ ต้องเบะปากมองบนเลยนะคะ! นี่ไม่ใช่รายการวงเวียนชีวิต อย่าทำลายบรรยากาศหวานๆ
ด้วยเรื่องเศร้า เผลอๆ เขาจะรำคาญจนตีตัวออกห่างเลยด้วยซ้ำในทางกลับกัน ถ้าครอบครัวไม่มี
ปัญหาเรื่องความยากจน ก็อย่าเล่าเรื่องปัญหาภายในครอบครัว นิสัยแปลกๆ ของคนในบ้าน เช่น
ชอบตะโกน เตะข้าวของอย่างไม่มีเหตุผล เพราะจะยิ่งทำให้เขากลัวและอยากไปให้พ้นๆ
จากเดทนี้เสียที
ถ้าเขาถาม ว่า " ที่บ้านเธอเป็นประมาณไหนเหรอ " ให้ตอบว่า " ก็เหมือนครอบครัวทั่วไปแหละ "
ด้วยสีหน้ายิ้มๆ อย่าเพิ่งขยายรายละเอียด เขาจะได้ไม่ต้องถามต่อให้เจอคำตอบน่าสะพรึงไงล่ะ
4. งานอดิเรก / ของสะสมแปลกๆ
เรา เชื่อว่าทุกคนย่อมต้องมีของสะสมแปลกๆ ในวัยเด็กกันทั้งนั้น ( หรือบางคนก็สะสมมาเรื่อยๆ
จนถึงปัจจุบันเลย ) เช่น ตัวแมลงสตาฟฟ์แข็งเก็บใส่กรอบไว้เป็นคอลเลคชั่น, ถุงขนมหรือกล่องนม
ลายแปลกๆ ตามเทศกาลที่กินแล้ว, ตุ๊กตาซอมบี้หน้าเฟะๆ เรียงรายเป็นตู้, เส้นผมมนุษย์จากทุก
สถานที่เวลาไปเที่ยว และอื่นๆ อีกมากมายเท่าที่จะคิดได้ จำไว้ว่า อย่าเพิ่งเล่าให้เขาฟัง!
ถ้าเป็นของสะสมน่ารักๆ อย่างตุ๊กตาสัตว์ กระปุกออมสิน ฟิกเกอร์ ผ้าเช็ดหน้าก็น่ารักดีอยู่หรอก แต่
ถ้าผู้ชายได้ยินว่าเธอสะสม " เศษเล็บของตัวเองตั้งแต่เด็กจนโต " คิดว่าเขาจะยิ้มด้วยความดีใจไหม
ล่ะ จะมองว่าเธอเป็นยัยเพี้ยนและอยากวิ่งหนีให้ไกลเสียมากกว่า
ผู้ชาย บางคนกลัวในสิ่งแปลกๆ เช่น กลัวตุ๊กตา ถ้าเธอรีบเล่าไปแล้วว่า " เรามีตุ๊กตาอยู่เต็มตู้ที่บ้าน
เลย อยากไปดูไหม " เขาคงทำหน้าสะพรึง หวาดกลัวเหมือนเธอจะงับหัวเขายังไงยังงั้น! ถ้าเขาถาม
ก็ทำเงียบๆ หรือตอบสิ่งที่ดูปกติไป ถ้านึกไม่ออกจริงๆ ว่าจะอ้างอะไร เราแนะนำว่า " สะสมเงิน " ค่ะ
5. โพล่งบอกไปตรงๆ ว่า " ฉันตกหลุมรักนายตั้งแต่แรกพบ "
" นายรู้ไหมว่า ฉันตกหลุมรักนายตั้งแต่แรกพบเลยนะ " อย่าเพิ่งพูดคำนี้ต่อหน้าหนุ่มที่เพิ่งรู้จักเด็ด
ขาด! ผู้หญิงออกตัวแรงอาจเป็นสเปคของผู้ชายหลายคน แต่ถ้าเรายังไม่รู้นิสัยของคนตรงหน้า
ทำตัวปกติ นิ่งๆ เรียบร้อย play safe ไว้ก่อนดีกว่า!?
นึกถึงหน้าผู้ชายที่ซีดขาว สตั๊นด้วยคำพูดรัวๆ ของเธอว่า " ทำไมนายถึงหล่อได้ขนาดนี้นะ ปากนิด
จมูกหน่อย นึกว่าพระเอกหลุดออกมาจากนิยาย เห็นนายครั้งแรกหัวใจฉันแทบจะหยุดเต้น หยุด
หายใจ โอ๊ย อายจัง " ( ไม่ต้องอายแล้วล่ะแม่คุณ มาเต็มซะขนาดนี้ ) ถ้าหนุ่มคนนี้เป็นคนตลก
อารมณ์ดีก็แล้วไป แต่ถ้าเขาเกิดกลัวจนชิ่งหนีไปก่อนล่ะก็ เสียดายได้อีกนะจ๊ะ
อย่าทำตัวเหมือนคนโรคจิตที่จ้องจะกลืน กินผู้ชายอยู่ตลอดเวลา จะหน้าแดงด้วยความเขินอายบ้าง
ก็ได้ แต่จงแสดงออกทางสีหน้า ไม่ใช่คำพูด! กรณีที่แย่ที่สุดคือเขาอาจมองว่าเธอ
" ง่าย " ซึ่งไม่โอเคแน่นอน
6. พูดถึงอนาคตของตัวเองในอีก 5 ปีข้างหน้า
เพิ่ง จะเจอหน้ากันแค่ไม่กี่นาที ยัยนี่ก็พร่ำเพ้อเรื่องอนาคตที่มีร่วมกัน ( ใครไปตกลงกับเธอไม่
ทราบ!? ) ซะแล้ว นั่งบนเก้าอี้ก้นยังไม่ทันร้อน แม่เจ้าประคุณก็เริ่มพูดถึงธีมสีงานแต่งงาน จะชวน
แขกมากี่คน จะเสิร์ฟอาหารบุฟเฟ่ต์หรือโต๊ะจีน ฮันนีมูนที่เมืองไทยหรือต่างประเทศ แต่งกี่ปีจะมีลูก
ลูกชายลูกสาวกี่คน แล้วเราจะมีความสุขตลอดไป ตื่นค่ะ! ( ดีดนิ้วแบบเมนเทอร์ลูกเกด )
ผู้ชายที่อารมณ์ดี ไม่คิดเยอะก็คงหัวเราะขำๆ ไป แต่ถ้าเจอคนซีเรียส เขาจะรู้สึกกดดันและสับสนกับ
ความเพ้อเจ้อของเธอ และตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วว่า " ฉันไม่คบยัยต๊องนี่หรอก "?
ถ้า เขาเป็นฝ่ายเริ่มหัวข้อนี้ขึ้นมาเอง ก็แค่พูดว่า " อนาคตเหรอ ยังไม่ได้คิดไกลขนาดนั้นหรอก แค่มี
บ้าน มีรถ มีงานดีๆ ทำก็พอแล้วล่ะ อ้อ! ถ้ามีคนอยู่เคียงข้างกันด้วยก็ดีนะ " ตอบได้เยี่ยมมาก! เพราะ
นั่นคือสิ่งที่ใกล้ความจริงที่สุด ไม่เพ้อเจ้อ และมีทางเป็นจริงได้จากมุมมองของคนถามค่ะ
7. ความสัมพันธ์กับคนในครอบครัว
ความ สัมพันธ์ในครอบครัวเป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน ไม่ว่าเธอจะมีปัญหากับที่บ้าน ห่างเหิน
สุดขีดขนาดไม่คุยกันมาเป็นปีๆ แล้ว หรือตัวติดกันตลอดเหมือนเป็นลูกแหง่ ก็อย่าเพิ่งพูดให้คู่เดท
ฟังจนหมดเปลือก รอให้สนิทกันกว่านี้ก่อนจะดีกว่า
ถ้าเธอไม่สนิทกับพ่อแม่ บอกแค่ว่า " อ๋อ ก็คุยกันบ้าง " ดีกว่าบอกว่า " แม่มีพ่อใหม่ หนีออกจากบ้าน
ไปเป็นปีแล้วล่ะ " ( ถ้าตอบอย่างหลัง บรรยากาศมาคุครอบงำแน่นอน )?
หรือถ้าเธอไม่ค่อยมีเพื่อน ตัวติดกับพ่อแม่ได้อีก ก็อาจจะถูกมองว่าเป็นลูกแหง่ไม่ยอมโต ก็บอกแค่
ว่า " สนิทแหละ ก็คุยกันทุกวัน " ก็พอแล้ว
จำไว้ว่าครั้งแรกของทุกอย่าง จงเดินทางสายกลาง ไม่ตึงไม่ล้นจนเกินไปค่ะ?
8. บอกว่าตัวเอง " ทำงานบ้านไม่เป็น "
ถึง โลกในยุคสมัยนี้จะเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหน แต่ยังไงผู้ชายก็มองว่าสาวๆ ควรมีความเป็นแม่
บ้านแม่เรือนอยู่บ้าง นิดหน่อยก็ยังดี! อย่างน้อยเธอก็ควรจะล้างจาน เอาผ้าเข้าเครื่อง ตากผ้า รดน้ำ
ต้นไม้ กวาดบ้านถูบ้านได้เอง ทำอาหารเมนูง่ายๆ ได้บ้าง ไม่ใช่จ้างแม่บ้านตลอดเวลา?
ถ้า เขาถามแล้วเธอตอบไปตรงๆ ว่า " ต้มไข่ยังทำเปลือกแตกเลย ", " ผ้าเหรอ ส่งซักตลอดแหละ
ใครจะอยากทำเอง เหนื่อยจะตาย " เขาจะเริ่มหาทางปลีกตัวออกห่าง เพราะหากต้องแต่งงานกันไป
คงเหมือนรับเธอมาเป็นภาระอีกคนน่ะสิ ทำงานบ้านยังไม่เป็น จะเลี้ยงลูกไหวได้ยังไง
ถ้าเธอโตจนพอทำงานบ้านได้แล้ว แต่ยังซักผ้าไม่เป็นก็ต้องพิจารณาตัวเองได้แล้วนะคะ! ถึงเธอจะ
เกิดมาในตระกูลที่ร่ำรวย แต่ก็ควรทำงานหลักๆ ให้เป็น ถ้าเธอมีโอกาสไปเรียนต่อต่างประเทศ เธอก็
ต้องหัดทำเองอยู่ดี เพราะเขาเรียกว่า " ความรับผิดชอบ " ค่ะ
Mono Mobile
แหล่งรวบรวมคอนเทนต์คุณภาพ ทั้งในรูปแบบวิดีโอคลิป สามารถดูได้ทุกที่ ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง รองรับการใช้งานหลากหลายอุปกรณ์
Mono Technology
อาคารจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ทาวเวอร์ เลขที่ 200 หมู่ 4 ถนนแจ้งวัฒนะ ปากเกร็ด นนทบุรี 11120 เบอร์โทร 021007007
TAGS
บันเทิง, ข่าวสาร, ก็อซซิป, คลิปตลก, คลิปเด็ด, ดูดวง, เพลงฮิต, เกม, ความรัก, กีฬา