ทุกอย่าง ต้องมีต้นตอค่ะ บางทีไม่ใช่เพราะคนนอกเลย แต่เป็นเพราะเธอสองคนเองนั่น
แหละ -.- ลองเช็คปัญหาที่เกิดขึ้นในบทความนี้ดู เรารวบรวมมาแล้วถึง 10 เหตุผลที่ทำให้คู่รักต้อง
เลิกรากัน บางทีสิ่งที่สงสัยมานานอาจกระจ่างเมื่ออ่านบทความนี้จบก็ได้
เริ่มเลย!!!
1. รู้สึกว่าตัวเอง ' ดีเกินไป ' สำหรับแฟน
เธอ เคยแอบรู้สึกว่า " คนอย่างฉันน่าจะเป็นแฟนกับผู้ชายที่แซบกว่านี้ " บ้างไหม? ถ้าคิด
ตอนเป็นโสดน่ะไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้ามีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว นี่แหละจุดเริ่มต้นของปัญหา เพราะ
ถ้าเธอยังคิดแบบนี้ มันจะส่งผลต่อพฤติกรรม สีหน้า แววตาที่เธอมีให้แฟน เริ่มมองเห็นข้อเสียของ
แฟนทีละข้อๆ เมื่อสะสมจนถึงขีดสุด เธอก็ระเบิดอารมณ์ใส่เขาจนทะเลาะกัน ในที่สุดผู้ชายก็ทนไม่
ไหว ขอเลิกดีกว่า!
หยุด ขุดคุ้ยและบอกว่าเขา ' ไม่ดี ' เพราะไม่มีมนุษย์คนไหนเพอร์เฟกต์ 100% หรอกค่ะ ในเมื่อ
เลือกเขามาให้ดูแลแล้ว ขอแค่เขายังรัก เป็นห่วง เอาใจใส่เธอ เท่านี้ก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ ^^.
2. เขารู้สึก ' อึดอัด '
แรก คบกันทุกอย่างก็ดูดี ดูสวยงามไปหมดแหละ ในสถานะคนคุยต่างฝ่ายต่างเว้นสเปซ
ให้อิสระซึ่งกันและกัน แต่เมื่อเลื่อนขั้นมาเป็นแฟน สัญชาตญาณความอยากครอบครองของผู้หญิงก็
มาเต็ม! จากที่ตอบไลน์เมื่อไหร่ก็ได้ ต้องตอบทันทีเมื่อทักไป ห้ามเลตเกิน 5 นาที, ห้ามคุยกับเพื่อน
ผู้หญิงทุกคนถ้าไม่ได้รับอนุญาต, จะไปไหนทำอะไรต้องรายงานตัวทุกครั้ง #กะไม่ให้กระดิกกระเดี้ย
ไปไหนกันเลย
เมื่อ ผู้ชายเริ่มอึดอัด ความรู้สึกชอบก็ไม่เหมือนเดิม ในที่สุดเขาจะเริ่มห่างออกไปเรื่อยๆ และขอเลิก
ถ้าไม่อยากให้วันนั้นมาถึง ก็เว้นช่องว่างให้เขาหายใจบ้างนะคะ เธอเองก็คงไม่ชอบถ้ามีแฟนมาคอย
ตามติด ตามจี้เป็นพ่อคนที่สองใช่ไหมล่ะ
3. ขาด ' ความเข้าใจซึ่งกันและกัน '
เมื่อ ก่อนก็เข้าใจกันดี แต่พอได้คบกัน กลับเริ่มห่าง แปลกดี! จากที่เคยคุยกันทุกวันก็
เริ่มเว้นระยะห่าง วันสองวันครั้ง พัฒนาเป็นสัปดาห์ละครั้ง คุยกันแต่ละครั้งเหมือนต่อไม่ติดว่าควรจะ
พูดกันเรื่องอะไร พอไม่เข้าใจกันแค่นิดเดียวก็ทะเลาะกันใหญ่โต จะยังไงต่อ ก็เลิกสิคะรออะไร T T
กฎ ของการเป็นแฟนกัน เราแนะนำว่าต้องคุยทุกวันค่ะ ไม่จำเป็นต้องคุยกันตลอดเวลา 24 ชั่วโมง
ก็ได้ แต่ต้องมีโทรหา มีตัวอักษรในแชท อัพเดตสารทุกข์สุกดิบให้รู้สึกอิ่มเอมหัวใจบ้าง ไม่อย่างนั้น
ก็คงไม่ต่างอะไรกับเป็นโสดหรอก ถ้าเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวแฟนเลย!
4. มีความ ' คาดหวังสูง ' ต่ออีกฝ่าย
ตอน ยังคุยๆ กันก็ยังไม่คิด ไม่หวังอะไรจากเขาหรอก แต่พอได้เป็นแฟนก็เอาละค่ะ มโน
มาเต็ม! เขาจะต้องเป็นผู้ชายในฝัน เป็นคนที่บันดาลให้เธอได้ทุกอย่าง ทำงานได้เงินเดือนเยอะๆ
พาเธอไปกิน ช้อป เที่ยว #สายเปย์ไปดิ ห้ามเถียง เธอพูดอะไรเขามีสิทธิ์เชื่อฟังแล้วทำตามได้อย่าง
เดียว แต่ขอโทษค่ะ ตื่น! นี่โลกความจริงค่ะไม่ใช่โลกมโน
เมื่อ เขาไม่ได้เป็นอย่างฝัน เธอก็เริ่มหงุดหงิด เบื่อหน่ายแฟนมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วอาการนี้จะส่งผลไป
เป็นข้อแรก คือ ' อยากมีแฟนที่ดีกว่านี้ ' ก็ต้องขอย้ำอีกรอบว่า ไม่มีใครดี 100% ดังนั้นฝันแต่พอดี!
ผู้ชายหากรักใคร เขาจะพยายามพัฒนาตัวเองเพื่อคนคนนั้นอยู่แล้ว ให้กำลังใจเขาแทนที่จะกดดันดี
กว่า
5. มีพื้นเพทางบ้านต่างกันมากเกินไป
แรก พบ รู้จักกัน เธอกับเขาอาจเจอกันในคอร์สเรียน, ร่านอาหาร, ปาร์ตี้บ้านเพื่อน,
เพื่อนแนะนำซึ่งแน่นอนว่ายังไม่รู้หรอกว่า พื้นเพทางบ้านของอีกฝ่ายเป็นยังไง แต่เมื่อได้คุยกันจริงๆ
ถึงรู้ว่า ฐานะ / ความคิด / ทัศนคติต่อชีวิต ต่างกันราวฟ้ากับเหว เช่น เขามีสังคมไฮโซ ตีกอล์ฟวัน
หยุด ไปเที่ยวเมืองนอกบ่อยๆ แต่เธอแค่รดน้ำต้นไม้ นั่งเล่นกับน้องหมาที่บ้าน ซื้อส้มตำกินหน้าปาก
ซอย โอย ไม่ต้องรอเป็นแฟน แค่คนคุยก็ไม่รอดแล้ว T T
คน เป็นแฟนถ้าอยากไปรอด ต้องเจอกันคนละครึ่งทาง! ถ้าไม่คิดจะปรับความคิด พฤติกรรมเพื่ออีก
ฝ่ายเลย แสดงว่ายังรักกันไม่พอ หรือถ้าปรับแล้วก็ไม่ไหวก็คงต้องบอกลาอย่างแท้จริงแล้วล่ะค่ะ
6. อีกฝ่ายไม่เคยรู้เลยว่า เธอ ' ต้องการ ' อะไร
ก็ เห็นตั้งแต่แรกแล้วล่ะว่าเขาไม่ค่อยใส่ใจเธอเท่าไหร่ ติดเพื่อนไม่ก็ทำงานรัวๆ จนไม่มี
เวลาให้เธอแม้แต่จะบอกฝันดีด้วยซ้ำ! เป็นแฟนก็นึกว่าจะดีขึ้น แต่เปล่าเลย ไม่สนใจ ไม่แคร์เหมือน
เดิม ไม่เคยรู้เลยว่าเธอต้องการอะไร อยากไปเดทก็ไม่ได้ไป อยากได้กำลังใจในการทำงานก็ได้แต่
ลมปากที่ไม่จริงใจ ไม่ก็เงียบหายไปเลย #ฉันเป็นอะไรในสายตาเธอ #คนไม่สำคัญใช่ไหม
พอ มีเวลาคุยกัน เขาก็จะพร่ำ เล่าแต่เรื่องตัวเอง แต่เมื่อเธออยากพูดเรื่องความฝัน ความสนใจต่างๆ
หรือสิ่งที่อยากทำร่วมกันกับเขาก็มีแต่ความเงียบ... ถ้าเป็นแบบนี้ ก็เทเขาไปเถอะค่ะ เสียเวลาสุดๆ
7. ไลฟ์สไตล์ของอีกฝ่าย ( หรือตัวเอง ) เปลี่ยนไป
คู่ รักบางคู่คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียน แต่จุดเปลี่ยนของชีวิตมาถึงเมื่อต้องเข้า
มหาวิทยาลัย หรือหากคบกันช่วงเรียน เมื่อต้องแยกย้ายไปทำงานคนละที่ ความรักที่เคยหอมหวานก็
กลับจืดจาง ต่างฝ่ายต่างไปเจอคนใหม่ๆ ตารางชีวิตก็ไม่เหมือนเดิม มีสิทธิ์ที่เธอจะเทเขา
( หรือเขาจะเทเธอ ) หรือต่างฝ่ายต่างเทกันเองสูงมาก!
ถ้า ไม่อยากให้รักพัง ทั้งคู่ต้องหมั่นเติมรักให้กันบ่อยๆ โทรศัพท์ ข้อความอย่าให้ขาด หากเรียนกัน
คนละที่ก็นัดเจอกันบ้าง ถ้าปล่อยให้ห่างไปเรื่อยๆ ก็คงหนีไม่พ้นจุดจบคือ เลิกกันไปเงียบๆ รู้ตัวอีกที
ก็โดนเทซะแล้ว
8. ขาดความเชื่อใจซึ่งกันและกัน
' การเชื่อใจกัน ' เป็นสิ่งที่สำคัญมากในความสัมพันธ์ ถ้าแฟนพูดอะไรเธอก็เอาแต่ตั้ง
คำถามนั่นนี่ ผู้ชายก็คงท้อเหมือนกัน จะไปไหนทำอะไรก็ขอให้ได้คิดว่า ' เขาไปอยู่กับกิ๊กหรือเปล่า '
หนักเข้าก็ทะเลาะกัน จนในที่สุดก็ #โดนเท
เลือกผู้ชายคนนี้มาก้าว เดินด้วยกัน เป็นแฟนกันแล้วก็เชื่อใจในตัวเขาหน่อย ปล่อยๆ เอาหูเอานา
เอาตาไปไร่บ้าง เธอก็ไม่เครียด เขาก็มีช่วงเวลาได้หายใจ แบบนี้รักถึงจะไปได้ยาวนะคะ
9. หึงหวงเพราะระแวงว่าจะมีกิ๊ก
' ความหวาดระแวง ' นี่แหละปัญหาสำคัญของชีวิตคู่ ผู้หญิงบางคนก็มีระดับความหึง
หวงขั้นสุด ( เป็นเกมก็ LV.99+ ) โทรตามเช็ค จิกกัดตลอด " มีคนใหม่ใช่ไหม อย่าคิดว่าไม่รู้นะ ", "
ไปกับใครมาอีกล่ะ กิ๊กที่ไหน จะตามไปเอาน้ำกรดสาดให้เสียโฉมเลย " etc. หยุดค่ะ พอ! จากที่เขา
ซื่อสัตย์จริงใจ รักเดียวใจเดียว จะนอกใจไปมีสาวอื่นก็เพราะเธอนี่แหละ
ใจร่มๆ แล้วปล่อยให้เขามีชีวิตของเขาบ้าง *ย้ำรอบที่ล้าน* จำไว้ค่ะ ถ้าผู้ชายรักเราจริง อยู่เฉยๆ
เขาก็ยังวนกลับมาหาเรา แต่ถ้าเขาไม่รักแล้ว ล่ามโซ่ไว้กับเสาบ้านเขาก็ยังทุบโซ่ออกไปอยู่ดี ทุก
อย่างมันอยู่ที่หัวใจ ดังนั้นอย่าทำให้เขาอึดอัดจะดีกว่า
10. บุคลิกของเขาและเธอ ' ไปกันไม่ได้ '
ตอน แรกๆ บุคลิก กิริยาท่าทางของเธอและเขาเหมือนกันยิ่งกว่าฝาแฝด แต่งตัวแนว
เดียวกัน กินอะไรเหมือนๆ กัน ยืนกินลูกชิ้นปิ้งข้างทางได้สบายๆ เหมือนกัน แต่เมื่อเวลาผ่านไป อีก
ฝ่ายไลฟ์สไตล์เปลี่ยน เริ่มแต่งตัวไฮโซ กินข้าวต้องภัตตาคารหรูๆ รังเกียจกิริยาต่างๆ ของอีกฝ่ายที่
เคยชอบ ไปด้วยกันไม่ได้แล้ว นั่นแหละจุดเริ่มต้นของการโดนเท
คำแนะนำคือ ลองปรับตัวเข้าหากันดูก่อน ถ้าไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้แล้วจริงๆ การ
ปล่อยมือจากกันน่าจะมีความสุขกับหัวใจเธอมากกว่านะคะ ^^
