ทั้งนี้ เมื่อมีรักก็ต้องมี ?เลิก? สำหรับเรื่องของความรัก ?การถูกบอกเลิก? เป็นอีกหนึ่ง
เรื่องที่หลายคนต้องพบเจอ โดยเฉพาะวัยรุ่น บางคนฟื้นตัวได้เร็ว แต่บางคนก็ทำใจยาก ถึงอย่างไร
ก็ตามการ ?อกหักไม่ใช่โรคเรื้อรัง? และจะหายได้ หรือไม่นั้นอยู่ที่ตัวเรา
1. เปลี่ยนแปลงตัวเอง
อย่าคิดวนเวียนอยู่กับภาพอดีตที่เรากับเขาเคยทำร่วม กัน ข้าวของที่ชวนให้นึกถึงเขา
ก็นำไปเก็บเข้ากล่อง เอาไปบริจาค หรือจะทิ้งไปเลยก็ได้ พยายามฝืนตัวเองหากิจกรรมใหม่ๆ ดู จะ
ได้ไม่มีเวลาคิดฟุ้งซ่านถึงภาพหวานในอดีต
2. ปรับความคิด
ความรักไม่ มีใครดีกว่าใคร แต่เป็นความลงตัวระหว่างคนสองคน ถ้าเขารู้สึกว่าเราไม่ใช่ก็
ต้องยอมรับ แต่ไม่ได้แปลว่า เราแย่ อีกฝ่ายถึงทิ้งไปมีคนใหม่ ความคิดว่าถูกทิ้งเป็นความคิดทางลบ
ลองปรับความคิดเสียใหม่ หัดมองทุกอย่างทางบวก เช่น ยังดีนะที่เราไม่ถลำลึกมากไปกว่านี้
3. ระวังใจตัวเอง
อย่าให้ความเศร้าจู่โจมตลอดเวลา หากิจกรรมที่ผ่อนคลายจิตใจ อยากร้องไห้ก็ร้องออกมา
แต่ร้องแล้วต้องตั้งใจว่าวันหน้าจะไม่ร้องอีก พยายามทำใจให้เข้มแข็งขึ้น
4. ทำสิ่งที่เป็นหน้าที่ให้ได้
ถึงจะอกหัก แต่ภาระรับผิดชอบต่างๆ ในชีวิตไม่ได้หยุดพักตามไปด้วย พยายามทำทุก
อย่างเหมือนที่เคยเป็นมา นอกจากจะช่วยไม่ให้จมอยู่กับความเศร้าแล้ว อย่าลืมว่าเรายังมีตัวเองที่
ต้องดูแล ความเสียใจอยู่กับเราไม่นานหรอก แต่หน้าที่การงานจะมีผลกับเราในระยะยาว
5. หาที่ปรึกษา
หาเพื่อนสักคนที่ไว้ใจได้เพื่อระบายความรู้สึกอัด อั้นออกมา เมื่อเพื่อนแนะนำก็ลองทำ
ตามดู ช่วงแรกอาจเป็นเรื่องยาก แต่ถ้าเริ่มฝืนใจตัวเองทีละนิดให้ทำอะไรบ้าง จะเริ่มรู้สึกว่าไม่
หมกมุ่นอยู่แต่กับความเศร้าอย่างเดียว
?พ่อแม่ และครอบครัว คือ ที่ปรึกษาที่ดีที่สุด?
ครอบครัว โดยเฉพาะพ่อแม่ มีส่วนสำคัญที่ช่วยฟื้นฟูจิตใจได้ด้วยการเปิดใจพูดคุยปัญหา
เรื่องความรัก รวมถึงเรื่องเพศกับลูก การพูดคุย และให้คำแนะนำที่ถูกต้อง จะส่งผลทำให้เด็กแก้
ปัญหาเกี่ยวกับความรักและรู้เท่าทันเรื่องเพศได้ดีกว่า เด็กที่พ่อแม่ปิดกั้น
